เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
สสว.เปิดโครงการSME Regular Level 2562กระตุ้นศักยภาพผู้ประกอบการ


สสว.เปิดโครงการ SME Regular Level ปี 2562มุ่งต่อยอดผู้ประกอบการให้เข้าถึงมาตรฐานระดับสากล เตรียมสนับสนุนคูปองทำฉลากโภชนาการและคูปองตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ รวมทั้งสนับสนุนกิจกรรมการตลาดต่างประเทศเพื่อยกระดับให้ผู้ประกอบการให้แข่งขันได้ในระดับสากล พร้อมจับมือหน่วยงาน 11 แห่ง ตั้งเป้าสานต่อการพัฒนาผู้ประกอบการไปสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต


 
 
 
นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.)กล่าวว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาสสว.ได้ดำเนินการสนับสนุนผู้ประกอบการSMEโดยแบ่งกลุ่มผู้ประกอบการเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ประกอบการการใหม่(SME Startup) กลุ่มผู้ประกอบการระยะพลิกฟื้นกิจการ(Turn around)และกลุ่มผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ (SME Strong/Regular) ซึ่งจากฐานข้อมูลพบว่ากลุ่มผู้ประกอบการ Strong/Regular ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลมีกว่า 600,000 ราย และในจำนวนนี้ มีจำนวนถึง 400,000 ราย ที่มีสถานะทางบัญชีปกติ

ดังนั้นสสว.จึงเน้นการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการในกลุ่ม Strong/Regular โดยได้เริ่มดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโต(SME Regular Level)มาตั้งแต่ปี 2559และจากการเข้าไปดำเนินโครงการ ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความรู้จากการเข้าร่วมอบรมเฉพาะด้าน 30,000 รายและได้รับการพัฒนาเชิงลึกเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันในด้านต่างๆ10,000 กิจการ อาทิ ลดต้นทุนจากกระบวนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ 5,200 กิจการ มีพี่เลี้ยงในการจัดทำบัญชีสำหรับSMEs 1,200 กิจการ ได้รับการสนับสนุนการตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการเพื่อประกอบการออกใบรับรองมาตรฐาน 3,500 กิจการ
 
และนอกจากนี้ยังสามารถต่อยอดให้ผู้ประกอบการได้รับใบรับรองมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของสากล เช่น ISO, GMP, อย. อีกจำนวน 200 กิจการ ซึ่งจากการพัฒนาดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างรายได้และสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุน เป็นมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท

 
 
ผอ.สสว.เผยอีกว่าด้วยเหตุนี้ในปี 2562 สสว.จึงได้ดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโต (SME Regular Level) โดยมีเป้าหมายที่ต้องการให้ผู้ประกอบการได้รับความรู้ในการดำเนินธุรกิจจากการเข้าร่วมโครงการไม่ต่ำกว่า 9,550 ราย และผู้ประกอบการไม่ต่ำกว่า 2,850 กิจการ จะได้รับการพัฒนาเชิงลึก โดยการสนับสนุนการเข้าถึงระบบมาตรฐานโดยการต่อยอดเพื่อให้ได้รับมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของสากลมากขึ้น
 
การสนับสนุนคูปองการจัดทำฉลากโภชนาการ คูปองการตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการและสอบเทียบเครื่องมือวัด การสนับสนุนกิจกรรมตลาดต่างประเทศเพื่อยกระดับให้ผู้ประกอบการกลุ่มที่มีศักยภาพนี้ก้าวไปสู่สากล โดยการพัฒนาจะมุ่งเน้นผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญของประเทศ อาทิ กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม กลุ่มสปาและบริการเพื่อสุขภาพ กลุ่มแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ กลุ่มอาหารและเกษตรแปรรูป กลุ่มธุรกิจต่อเนื่องจากโลหะ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์และกลุ่มที่ต้องการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้สสว.ยังให้ความสำคัญในเรื่องบัญชีเดียวและการพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นผู้ให้บริการทางบัญชี (Service Provider) ที่ต้องการพัฒนาศักยภาพในการให้บริการที่เป็นมาตรฐานอีกด้วย

 
 
 
ซึ่งจากแนวทางการพัฒนาดังกล่าวข้างต้นสสว.ได้ร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรอีกจำนวน 11 หน่วยงาน เข้ามาช่วยส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ คือ สถาบันอาหาร สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมสำนักงานบัญชีไทย มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีและสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน)

นายสุวรรณชัยกล่าวอีกว่า ความตั้งใจในปีนี้ของสสว.นอกจากมุ่งหวังที่จะให้ผู้ประกอบการสามารถเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ทั้งในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและบริการ เพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ ยกระดับด้านมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับ รวมทั้งสร้างรายได้หรือสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้แก่ผู้ประกอบการได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท แล้ว สิ่งสำคัญที่สสว.ต้องการจะผลักดันเพื่อส่งต่อการพัฒนาไปสู่การดำเนินโครงการในอนาคต คือ การพัฒนาเพื่อยกระดับผู้ประกอบการในกลุ่มนี้ให้ก้าวสู่การแข่งขันในระดับสากลและมุ่งเน้นไปสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต รวมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาในผู้ประกอบการในเขตพื้นที่ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ (ECC) โดยเน้นกลุ่มธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องการการยกระดับมาตรฐานให้เป็นมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ธุรกิจที่รองรับสังคมผู้สูงอายุ ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เป็นต้น

“ปีนี้สสว.จึงเริ่มนำร่องโดยพัฒนาผู้ประกอบการในกลุ่มบริการเพื่อสุขภาพ โดยการศึกษาข้อมูลในทุกมิติและเตรียมการพัฒนาในเชิงลึกเฉพาะด้าน ซึ่งแนวทางการพัฒนาดังกล่าวจะนำมาเป็นต้นแบบของการพัฒนาผู้ประกอบการในปีต่อๆไป ซึ่งคาดว่าจะเป็นการยกระดับการพัฒนาผู้ประกอบการในโครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโต (SME Regular Level) ให้ก้าวไปสู่การแข่งขันได้ในระดับสากลและเหมาะสมกับสภาวการณ์ของโลกได้อย่างแท้จริง” นายสุวรรณชัย กล่าวในที่สุด

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 14 ก.พ. 2562 เวลา : 15:53:26
26-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (26 เม.ย.67) ลบ 2.25 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.02 จุด

2. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,310 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,350 เหรียญ

3. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (26 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 37.06 บาทต่อดอลลาร์

4. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.90-37.15 บาท/ดอลลาร์

5. ทองปิดบวก $4.10 รับดอลล์อ่อน-แรงซื้อลดความเสี่ยง

6. ตลาดหุ้นไทยเปิด (26 เม.ย.67) บวก 0.68 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.95 จุด

7. ดาวโจนส์ปิดร่วง 375.12 จุดหลัง GDP สหรัฐชะลอตัว - เงินเฟ้อพุ่ง

8. ทองพุ่ง! ราคาทองวันนี้ 26/4/67 ครั้งที่ 1 เพิ่มขึ้น 100 บาท ทองคำแท่งขายออกบาทละ 40,850 บาท

9. ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 43 องศาเซลเซียส ฟ้าหลัว ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง และลมกระโชกแรงตลอดช่วง

10. ตลาดหุ้นปิด (25 เม.ย.67) บวก 3.17 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.27 จุด

11. ประกาศ กปน.: 29 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนบ้านบางไผ่-บ้านหนองเพรางาย

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (25 เม.ย.67) บวก 1.72 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.82 จุด

13. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบเช่นเดิมระหว่าง 2,290-2,330 เหรียญ

14. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (24 เม.ย.67) ลบ 42.77 จุด บอนด์ยีลด์พุ่งฉุดตลาด บดบังผลประกอบการ บจ.แกร่ง

15. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (24 เม.ย.67) ร่วง 3.70 เหรียญ นักลงทุนคลายกังวลความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 1:57 pm