หุ้นทอง
คอลัมน์ ส่องหุ้นมองทอง


จังหวะดัชนีดีดกลับ1644แนะขายเล่นรอบก่อน นักลงทุนทองควรช้อนซื้อราคาต่ำกว่า1,220ดอลลาร์


ดัชนีเริ่มอ่อนตัวลดลงและปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย5และ10 วันแล้ว ประกอบกับดัชนีเริ่มหลุดแนวรับรูปแบบสามเหลี่ยมที่ 1640 จุดอีกด้วย ทำให้MACDหลุดลงมาตัดเส้น SIGNALอีกครั้ง พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น 

จากการที่ดัชนีเริ่มหลุดรูปแบบสามเหลี่ยมครั้งนี้ ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดรูปแบบ Head and Shoulder ที่ตำแหน่งแขนขวาได้ โดยมีแนวรับของรูปแบบ H&S ที่เส้นค่าเฉลี่ย 25 และ 75 วันแถวๆ1627-1624 จุดพอดี 

หากวันนี้ดัชนีดีดกลับขึ้นมาแถวๆแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 1644 จุดอีก ยังน่าขายเล่นรอบไปก่อนและรอซื้อกลับเมื่อดัชนียืนปิดเหนือแนวรับดังกล่าวได้ 
 
ขณะที่หุ้นรายตัวแนะนำสัปดาห์นี้ ได้แก่ CAZ แนวรับ 4.06-4.04 บาท โดยมีแนวต้าน 4.18 , 4.34 บาท เนื่องจากระดับราคาสามารถประคองตัวปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันต่อเนื่อง โดยมีความพยายามดีดกลับขึ้นทำ New high อยู่เรื่อยๆ พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เริ่มสูงขึ้นอีกเล็กน้อย ซึ่งวันนี้(18 ก.พ.)ระดับราคายังมีโอกาสดีดกลับต่อ หากระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 4.06-4.04 บาทอีก ยังน่าซื้อเพิ่ม ลุ้นดีดกลับขึ้นผ่านจุดสูงสุดเดิมในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ที่ 4.18 บาท ก่อนผ่านขึ้นทำ New high ต่อแถวๆ 4.34 บาทต่อไป

ส่วนหุ้น LIT มีแนวรับ 6.90-6.80 บาท และมีแนวต้าน 7.05 , 7.30 บาท โดยระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นทำ New high ในรอบ 2 สัปดาห์ หลังจากดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันได้อีกครั้งพร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นมาก หากวันนี้ระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาแถวๆ 6.90 บาทอีก หรือเต็มที่ไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันแถวๆ 6.80 บาท ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับต่อได้แถวๆ 7.05 บาทและ 7.30 บาทต่อไป

และหุ้น MEGA มีแนวรับ 34.75-34.50 บาท ส่วนแนวต้าน 35.75-36.25 , 37.50-38.00 บาท โดยมีระดับราคาสามารถประคองตัวยืนเหนือแนวรับเดิมที่ 34.50 บาทได้ต่อเนื่องหลังจากผ่านขึ้นมาทำ New high ได้ในช่วงกลางสัปดาห์ ทำให้เส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันขยับขึ้นมาทันแถวๆ 34.75-34.50 บาทแล้ว พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแนวรับแถวๆ 34.50 บาทต่อเนื่องอีก ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นทำ New high ต่อได้แถวๆ 35.75-36.25 บาทต่อไป

ส่วนทิศทางทองคำ สรุปภาวะตลาดทองคำสัปดาห์ที่ผ่านเมื่อถึงเมื่อเวลา 15.00 น วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,318.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,318.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงลดลงเล็กน้อยไป 0.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยระหว่างสัปดาห์ผันผวนไม่มาก ราคาทองคำได้รับผลกระทบจากดอลลาร์สหรัฐที่ผันผวนจากการเจรจาการค้าของสหรัฐและจีน รวมถึงการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ

ราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวผันผวนอยู่ระหว่าง 1,305.40-1,318.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำเริ่มปรับตัวย่อลงและลงไปเกือบแตะ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังหมดเทศกาลตรุษจีนเป็นรอบที่สอง 

โดยรอบล่าสุดเกิดจากการเจรจาประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐส่งสัญญาณความเป็นไปได้ที่จะขยายกำหนดเส้นตายออกไปอีก 60 วัน ทำให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเจอแรงขายออกมาบ้าง แต่ในช่วงปลายสัปดาห์มีแรงซื้อกลับมาหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอย่างตัวเลขค้าปลีกเดือนธันวาคมที่ผ่านมาลดลง 1.90% และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ก็เพิ่มขึ้น ถึงแม้จะเพิ่มขึ้นเพียง 4 พันตำแหน่ง แต่ก็สวนทางตลาดที่คาดว่าจะลดลง ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำและดอลลาร์ทะยานขึ้นด้วยกันอีกครั้ง

คำแนะนำสำหรับนักลงทุนระยะสั้น จากที่แนะนำไปเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าไม่ใช่จุดเข้าซื้อตาม ควรซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวพักระยะสั้น โดยมองว่าแนวรับแรกอยู่ 1,305-1,312 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นจุดเข้าซื้อคืน ซึ่งมาถึงแล้ว จุดน่าเข้าซื้อเพิ่มถัดไปจะอยู่ 1,285-1,295 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเป้าหมายแนวต้านรอบนี้จะอยู่ 1,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1,360 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ 

สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ได้สะสมทองคำตามคำแนะนำเมื่อราคาต่ำกว่า 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์มา ก็ยังแนะนำให้ถือทองคำต่อไปซึ่งราคาขึ้นมาถึงเป้าของปี 2561 แล้วที่บริเวณ 1,290-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนสิ้นปี 2561 เป้าหมายถัดไปที่ 1,360 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1,410 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาแม้ราคาทองคำโลกจะปรับขึ้น แต่ราคาทองคำแท่งในไทยนั้นไม่ปรับขึ้นตาม เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากเมื่อเทียบสกุลเงินดอลลาร์ สินค้าในตลาดอนุพันธ์อย่าง Gold Online ที่ไม่มีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนผสมอยู่นั้น อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรในทิศทางราคาทองคำโลก สามารถศึกษาได้ที่เว็บไซต์ www.tfex.co.th
 

LastUpdate 18/02/2562 07:45:04 โดย : Admin
19-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 เม.ย.67) ลบ 25.09 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,335.93 จุด

2. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,385 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 2,425 เหรียญ

3. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.20%

4. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวก 9.60 เหรียญ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

5. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวกแค่ 22.07 จุด เจ้าหน้าที่เฟดตบเท้าหนุนไม่ควรรีบลดดอกเบี้ย

6. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.75-37.05 บาท/ดอลลาร์

7. ตลาดหุ้นไทยเปิด (19 เม.ย.67) ลบ 20.39 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,340.63 จุด

8. ทองเปิดตลาด (19 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 550 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 42,500 บาท

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 36.85 บาทต่อดอลลาร์

10. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 18 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนราษฎร์บูรณะ

11. ตลาดหุ้นปิด (18 เม.ย.67) ลบ 5.92 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.02 จุด

12. ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (18 เม.ย.67) บวก 1.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,368.77 จุด

13. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.ฝน 20%

14. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (17 เม.ย.67) ร่วง 19.40 เหรียญ กังวลเฟดชะลอลดดอกเบี้ย

15. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (17 เม.ย.67) ลบ 45.66 จุด กังวลทิศทางดอกเบี้ยเฟด-ผิดหวังผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 5:14 pm