แบงก์-นอนแบงก์
EXIM BANK ชูบทบาทเชื่อมผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดใหม่-สร้างผู้ส่งออกแข่งขันได้ทุกตลาด


EXIM BANK ประกาศปรับบทบาทเน้นนำผู้ประกอบการสู่ตลาดใหม่ ผ่าน6 ยุทธศาสตร์ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ "สินเชื่อส่งออกเพิ่มสุข"ตั้งเป้าสินเชื่อ 400 ล้านบาท ช่วยผู้ส่งออกไม่น้อยกว่า 550 ราย


 
 
 
 
 
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยหรือ EXIM BANK เปิดเผยว่าในปี2562 ครบรอบ 25 ปีที่ธนาคารเปิดดำเนินงานและก้าวสู่ปีที่ 3 ของการปรับบทบาทใหม่ตามแผนแม่บท 10 ปี (ปี 60-70)ธนาคารจึงได้ทบทวนและปรับปรุงแผนยุทธศาสตร์เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและทิศทางเศรษฐกิจของไทย โดยกำหนด 6 ยุทธศาสตร์หลักได้แก่ 1.เชื่อมไทย เชื่อมโลก ด้วยการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ 2.พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและภาคอุตสาหกรรมของประเทศ 3.ป้องกันความเสี่ยงด้านการค้าและการลงทุนไทยในต่างประเทศ 4.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ 5.เพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ และ 6.พัฒนาองค์กรสู่ความเป็นเลิศ
          
จากยุทธศาสตร์ดังกล่าวธนาคารจะทำหน้าที่เติมเต็มช่องว่างเครือข่ายธุรกิจเป็นตัวกลางสร้างเครือข่ายทางธุรกิจใหม่ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่สนใจรุกตลาดใหม่ (New Frontiers) โดยทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศเพื่อเชื่อมผู้ประกอบการไทย รวมทั้งสินค้าและบริการของไทย เข้ากับภาคการผลิตและผู้บริโภคในประเทศตลาดใหม่ รวมทั้งอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบที่เหมาะสมในการเข้าไปสนับสนุนผู้ประกอบการในตลาดใหม่ เช่น อินเดีย แอฟริกา และเวียดนาม หลังจากการเปิดสำนักงานผู้แทน EXIM BANK แห่งแรกและแห่งที่สองในย่างกุ้งและเวียงจันทน์ และแห่งที่3ในกรุงพนมเปญเดือนมีนาคมนี้
          
ขณะเดียวกันธนาคารจะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเติมเต็มช่องว่างทางการเงิน สนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้รุกตลาดใหม่ได้อย่างประสบความสำเร็จ โดยมีความพร้อมทั้งด้านเงินทุนและเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศที่จะขยายธุรกิจได้อย่างมั่นใจ รวมทั้งสามารถยกระดับการผลิตไปสู่ระบบที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับสูงได้ เพื่อสร้างมูลค่าของสินค้าไทยให้แข่งขันได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนเติมเต็มช่องว่างองค์ความรู้ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยมีข้อมูลเชิงลึกและรอบด้าน นำไปปรับใช้ในการเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจการค้าและการลงทุนได้อย่างประสบความสำเร็จทั้งในและต่างประเทศ
          
 
 
 
 
นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า การเติมเต็มช่องว่างเครือข่ายธุรกิจ การเงินและองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดย่อม (Small Enterprises) ซึ่งมีจำนวนสูงถึง 99% ของจำนวนผู้ประกอบการทั้งประเทศ และสัดส่วน GDP ของผู้ประกอบการขนาดย่อมต่อ GDP ประเทศยังเติบโตอย่างต่อเนื่องจนแตะระดับ 30% ในปี 2560 หากผู้ประกอบการกลุ่มนี้สามารถยกระดับเป็นผู้ส่งออกได้มากขึ้นจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกันธนาคารได้จัดตั้ง"ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้า (EXIM Excellence Academy : EXAC)" ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานจัดกิจกรรมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเริ่มต้นส่งออกหรือขยายการส่งออกได้เพิ่มขึ้น แบ่งตามระดับศักยภาพของผู้ประกอบการ ดังนี้ 1.กลุ่มผู้ที่ยังไม่เคยส่งออก (Neo-exporters) 2.กลุ่มผู้ที่เคยส่งออกบ้างแล้ว (Mid-pros) และ 3.กลุ่มผู้ที่ส่งออกอยู่แล้ว (High-flyers) ซึ่งยังต้องการการสนับสนุนทางการเงินและข้อมูลเพื่อขยายธุรกิจส่งออกให้เติบโตได้อย่างมั่นคง 
          
 
 
 
 
โดย EXAC จะจัดกิจกรรมตั้งแต่ระดับการบ่มเพาะความรู้ที่จำเป็นต่อการเริ่มต้นและขยายธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ  การไปสำรวจตลาดและโอกาสการส่งออก จับคู่ธุรกิจกับผู้ส่งออกที่เป็นเทรดเดอร์หรือผู้ซื้อในต่างประเทศ จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและเอกชนมาให้คำปรึกษาแนะนำในทุกมิติ พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินสนับสนุนการเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจ ส่งเสริมการขยายพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ไปจนถึงการสร้างสังคมผู้ส่งออก โดยให้ผู้ส่งออกที่ประสบความสำเร็จ รวมทั้งผู้ที่ผ่านการอบรมจากศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้า กลับมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเป็นพี่เลี้ยงผู้ส่งออกรุ่นใหม่ต่อไป  เพื่อให้ประเทศไทยมีชุมชนผู้ส่งออกที่เข้มแข็งและแข่งขันได้ในทุกตลาดทั่วโลก
          
ธนาคารยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ "สินเชื่อส่งออกเพิ่มสุข (EXIM Happier Credit)" เป็นสินเชื่อหมุนเวียนช่วงก่อนและหลังการส่งออกผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นส่งออก (Start up) และไม่เคยได้รับสินเชื่อจาก EXIM BANK จะได้รับพิจารณาวงเงินสินเชื่อสูงสุด 700,000 บาทต่อราย ส่วนลูกค้าปัจจุบันของ EXIM BANK จะได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุด 1 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย/อัตรารับซื้อลด ปีแรกอยู่ที่ 5.50% ต่อปี ปีที่ 2 อยู่ที่ Prime Rate -0.50% ต่อปี (หรือ 5.75% ต่อปี) พร้อมวงเงินสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward Contract) สูงสุดเท่ากับวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ใช้เพียงบุคคลค้ำประกัน  ซึ่งบริการใหม่นี้ธนาคารมีเป้าหมายอนุมัติวงเงินรวม 400 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดย่อมไม่น้อยกว่า 550 ราย 
          
สำหรับผลการดำเนินงานของธนาคารฯณ สิ้นเดือน ธ.ค.61 มีเงินสินเชื่อคงค้างสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 108,589 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16,703 ล้านบาท หรือ 18.18% เมื่อเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็นสินเชื่อเพื่อการค้า 38,412 ล้านบาท และสินเชื่อเพื่อการลงทุน 70,177 ล้านบาท ทำให้เกิดปริมาณธุรกิจ (Business Turnover) 197,120 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้เป็นปริมาณธุรกิจของ SMEs 106,362 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561 มีเงินให้สินเชื่อคงค้างแก่ SMEs อยู่ที่ 42,906 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,765 ล้านบาท หรือ 15.53% 
          
ธนาคารมีกำไรสุทธิ 1,365 ล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs Ratio) ณ สิ้นเดือน ธ.ค.61 อยู่ที่ 3.78% โดยมีสินเชื่อด้อยคุณภาพจำนวน 4,103 ล้านบาท และมีเงินสำรองหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 9,385 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,436 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเป็นสำรองหนี้พึงกันตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 4,572 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินสำรองที่กันไว้แล้วต่อสำรองหนี้พึงกัน 205.25% ทำให้ธนาคารฯยังคงดำรงฐานะการเงินที่มั่นคง
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 21 ก.พ. 2562 เวลา : 16:04:23
20-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. พรุ่งนี้ (20 เม.ย.) ราคาน้ำมันดีเซล ปรับขึ้น 50 สต./ลิตร ตามมติ กบน. มีผลเที่ยงคืนนี้

2. ตลาดหุ้นปิด (19 เม.ย.67) ลบ 28.94 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,332.08 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 เม.ย.67) ลบ 25.09 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,335.93 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,385 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 2,425 เหรียญ

5. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.20%

6. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวก 9.60 เหรียญ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

7. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวกแค่ 22.07 จุด เจ้าหน้าที่เฟดตบเท้าหนุนไม่ควรรีบลดดอกเบี้ย

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.75-37.05 บาท/ดอลลาร์

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (19 เม.ย.67) ลบ 20.39 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,340.63 จุด

10. ทองเปิดตลาด (19 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 550 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 42,500 บาท

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 36.85 บาทต่อดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 18 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนราษฎร์บูรณะ

13. ตลาดหุ้นปิด (18 เม.ย.67) ลบ 5.92 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.02 จุด

14. ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (18 เม.ย.67) บวก 1.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,368.77 จุด

15. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.ฝน 20%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 4:44 pm