กองทุนรวม
บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดตัว 3 กองทุน SCB Mixed Fund Series จัดพอร์ตสินทรัพย์หลากหลาย


บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดตัว 3 กองทุน SCB Mixed Fund Series จัดพอร์ตสินทรัพย์หลากหลาย ชูจุดเด่นลงทุนง่าย สร้างโอกาสรับผลตอบแทนชัดเจนทุกสภาวะตลาด 


 
 
 
นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เปิดตัวกองทุนใหม่ SCB Mixed Fund Series ซึ่งเป็นกองทุนจัดสรรสินทรัพย์ที่มีเป้าหมายเป็นอัตราผลตอบแทนที่ใช้เป็นดัชนีชี้วัดที่ชัดเจน ประกอบด้วย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์มิกซ์ มายด์ (SCB Mixed – Mild Fund) มีอัตราผลตอบแทนที่ใช้เป็นดัชนีชี้วัดประมาณ 4% กองทุนเปิดไทยพาณิชย์มิกซ์ คลาสสิค (SCB Mixed - Classic Fund) มีอัตราผลตอบแทนที่ใช้เป็นดัชนีชี้วัดประมาณ 6%และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์มิกซ์ สไปซี่ (SCB Mixed - Spicy Fund)มีอัตราผลตอบแทนที่ใช้เป็นดัชนีชี้วัดประมาณ 8% โดยอัตราผลตอบแทนที่ใช้เป็นดัชนีชี้วัด เป็นอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี สำหรับระยะเวลาการลงทุนตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ด้วยมูลค่ากองทุนละ5,000 ล้านบาท เปิดเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันนี้-22 กรกฎาคม 2562 นี้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท

ทั้ง 3 กองทุนจะกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ สินทรัพย์ทางเลือกทั้งในและต่างประเทศ และการบริหารการลงทุนที่มีกำหนดเป้าหมายอัตราผลตอบแทนเช่นนี้ ทำให้ผู้ลงทุนสามารถคาดการณ์ผลตอบแทนจากการลงทุนได้ชัดเจนขึ้นในทุกสภาวะตลาด

ทั้งนี้แต่ละกองทุนจะแบ่งสัดส่วนการลงทุนที่แตกต่างกัน โดยกองทุนเปิดไทยพาณิชย์มิกซ์ มายด์ จะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อย เช่น ไม่เกิน 50 %ของ NAV กองทุนเปิดไทยพาณิชย์มิกซ์ คลาสสิค จะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในสัดส่วนปานกลาง เช่น ไม่เกิน 80 %ของ NAVและกองทุนเปิดไทยพาณิชย์มิกซ์ สไปซี่  จะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในสัดส่วนสูง เช่น มากกว่า 80 %ของ NAV

ในเบื้องต้นกลุ่มกองทุนที่คาดว่าผู้จัดการกองทุนจะเลือกลงทุนประกอบด้วย กองทุนหุ้นไทย ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET50 INDEX (SCBSET50)กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (SCBSE) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุน Mid/Small Cap (SCBMSE) กองทุนหุ้นต่างประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ บิลเลียนแนร์ (SCBBLN) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยุโรปสมอลแคป (SCBEUSM) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นโกลบอลเฮลธ์แคร์  (SCBGHC)กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นญี่ปุ่น (SCBNK225) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส (SCBS&P500) กองทุนตราสารหนี้ ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ พลัส (SCBFP) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลสตราทีจิก อินเวสเมนท์ (SCBGSIP) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่(SCBEMBOND)และกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล (SCBPINA) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ THB เฮดจ์ (SCBGOLDH)

“คอนเซปต์การลงทุนกองทุน SCB Mixed Fund Series เป็นมุมมองการลงทุนในระยะยาวสำหรับแผนการจัดสรรสินทรัพย์ลงทุน ในทุกสัปดาห์ผู้จัดการกองทุนจะติดตามและปรับสัดส่วนการลงทุนระยะสั้น โดยมีกระบวนการเริ่มต้นจากมุมมองมหภาคและโมเดลการลงทุนมีประมาณการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุน การเลือกลงทุนในแต่ละประเภทสินทรัพย์ผ่านกองทุน บลจ.ไทยพาณชิย์ และปรับสัดส่วนการลงทุนในรายประเทศ รายอุตสาหกรรมรวมถึงธีมการลงทุน ตรวจสอบและติดตามผลการลงทุน ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีช่วงระยะเวลาการลงทุนที่แนะนำ 3 ปีขึ้นไป” นายณรงค์ศักดิ์กล่าว พร้อมเพิ่มเติมว่า

บลจ.ไทยพาณิชย์มองสถานการณ์การลงทุนช่วงครึ่งปีหลังว่า ประเด็นสงครามการค้ายังไม่จบง่ายๆ และจะกลายเป็นสงครามแย่งความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีถึงแม้สหรัฐอเมริกา-จีน จะเจรจาจบไปแล้วในการประชุมG20 เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่แนวโน้มการแข่งเทคโนโลยียังดำเนินต่อ และทำให้ประเทศต่างๆ อาจต้องเลือกข้างว่าจะใช้เทคโนโลยีค่ายไหนระหว่าง สหรัฐฯ-จีน ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจโลกจะเติบโตในอัตราชะลอลง เริ่มจากประเทศเศรษฐกิจหลักๆ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น จีน อย่างไรก็ตามการชะลอไม่ใด้แปลว่าจะเกิดวิกฤติ เพราะธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เห็นควรให้สนับสนุนมากขึ้นต่อนโยบายการเงินผ่อนคลาย  โดยมีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 30-31 ก.ค.นี้ นอกจากนี้ตลาดยังมองว่าปีนี้อาจลดดอกเบี้ย 1-2 ครั้ง และอาจมีครั้งที่ 3 ในต้นปีหน้าหากเศรษฐกิจต้องการความช่วยเหลือ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปกำลังจะได้ผู้นำคนใหม่ คริสติน ลาการ์ด ซึ่งน่าจะดำเนินการนโยบายผ่อนคลายตามที่มาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรปส่งสัญญาณไว้ ส่วนธนาคารกลางจีนพร้อมกระตุ้นด้วยนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายด้วยเช่นกัน เช่นการลดอัตราส่วนสำรองขั้นต่ำของภาคธนาคาร

สำหรับประเทศไทยนั้นต้องอาศัยการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เพื่อสู้กับการชะลอของการส่งออกที่หดตัวตามเศรษฐกิจโลกและสงครามการค้า ซึ่งเศรษฐกิจโลกจะทำให้การส่งออกหดตัวรวมถึงภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลง การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอาจล่าช้าออกไปในช่วงแรก จากการเปลี่ยนรัฐบาลเป็นผลจากการจัดทำงบประมาณประจำปี 2563 ล่าช้า อย่างไรก็ตาม ก็ยังมองเห็นโอกาสที่เม็ดเงินไหลเข้าตลาดเอเชียโดยเฉพาะประเทศไทย เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาต่างชาติลดการถือครองหุ้นไทยไปมากแล้วซึ่งรัฐบาลใหม่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้ อีกทั้งค่าเงินบาทยังมีพื้นฐานแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับตลาดเกิดใหม่อื่นๆ สามารถดึงดูดเม็ดเงินให้เข้าอย่างต่อเนื่อง โดยบลจ.ไทยพาณิชย์ ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นไทย ซึ่งจะได้รับผลดีจากสภาพคล่องภายในประเทศที่ยังล้นและสามารถเติบโตต่อไปได้แม้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะล่าช้าแต่ไม่ได้ยกเลิก ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะมีนโยบายกระตุ้นการบริโภค และอาจมีแรงส่งจากการย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังไทย ตลอดจนการฟื้นตัวด้านท่องเที่ยวในระยะยาวที่คาดว่านักท่องเที่ยวจะกลับมาเนื่องจากเศรษฐกิจโลกแค่ชะลอตัวแต่ไม่ได้เกิดวิกฤต 

สำหรับกองทุน SCB Mixed Fund Series สามารถลงทุนได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชั่น SCB Easy ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ได้ที่ SCBAM Call Centerโทร.02-777-7777 กด 0 กด 6หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย



 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 ก.ค. 2562 เวลา : 17:30:39
07-07-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (4 ก.ค.2568) ลบ 7.27 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,119.94 จุด

2. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 3,320 เหรียญ และ แนวต้านอยู่ที่ระดับ 3,350 เหรียญ

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (4 ก.ค.68) ลบ 3.23 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,123.96 จุด

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (3 ก.ค.68) บวก 344.11 จุด ขานรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรแข็งแกร่งเกินคาด

5. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (3 ก.ค.68) ลบ 16.80 เหรียญ กังวลเฟดชะลอลดดอกเบี้ย หลังจ้างงานแกร่งเกินคาด

7. พยากรณ์อากาศวันนี้ (4 ก.ค.68) "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคอีสาน-ภาคตะวันออก" ฝนตกหนัก 70% ภาคกลาง 60% ภาคใต้ 30-40%

8. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (4 ก.ค.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.43 บาทต่อดอลลาร์

9. ทองเปิดตลาดวันนี้ (4 ก.ค. 68) ลดลง 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 52,000 บาท

10. ตลาดหุ้นไทยเปิด (4 ก.ค.68) บวก 0.56 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,127.77 จุด

11. ประกาศ กปน.: 19 ก.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี

12. ตลาดหุ้นปิด (3 ก.ค.68) บวก 11.52 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,127.21 จุด

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (3 ก.ค.68) บวก 3.67 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,119.36 จุด

14. พยากรณ์อากาศวันนี้ (3 ก.ค.68) ภาคตะวันออก ฝนตกหนัก 80% กรุงเทพปริมณฑล และภาคอื่น 70% เว้นภาคใต้ 60%

15. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (2 ก.ค.68) ลบ 10.52 จุด กังวลจ้างงานภาคเอกชนลดลง

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ July 7, 2025, 3:16 am