กองทุนรวม
บลจ.ไทยพาณิชย์ มองบวกหุ้นไทยครึ่งปีหลัง รับแรงหนุนเงินทุนไหลเข้าและนโยบายกระตุ้นภาครัฐ


บลจ.ไทยพาณิชย์ มองบวกหุ้นไทยครึ่งปีหลังรับแรงหนุนจากเงินทุนไหลเข้าและนโยบายกระตุ้นภาครัฐ ชู 2 กองSCBSET-SCBSE การันตีด้วยรางวัลกองทุนยอดเยี่ยม


 
 
 
 
นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยถึงแนวทางการจัดพอร์ตการลงทุนในช่วงนี้ว่า ยังคงแนะนำนักลงทุนให้กระจายการลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพสูง ทนทานต่อความผันผวนจากเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอน โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1) หุ้น Quality Stock ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 - 3 ปีข้างหน้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายภาครัฐ ทั้งหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐ หรือหุ้นที่ได้ประโยชน์จากแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มพาณิชย์ และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เป็นต้น 
 
2) หุ้น Growth Stock ที่มีแนวโน้มเติบโตในช่วง 3 - 6 เดือนข้างหน้า และการประเมินมูลค่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม เช่น กลุ่มน้ำมัน กลุ่มการเงิน เป็นต้น 3) หุ้น High Dividend Yield เป็นหุ้นที่มีแนวโน้มปันผลสูง ซึ่งกลุ่มดังกล่าวจะมีความผันผวนต่ำ ในสภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนสูง และ 4) หุ้นที่มีความยั่งยืน หรือหุ้นที่อยู่ในดัชนี THSI (Thailand Sustainability Investment) ซึ่งเป็นหุ้นที่มีบรรษัทภิบาลที่ดี มีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ มีการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม มีการประเมินความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจอย่างเหมาะสม

ทั้งนี้บลจ.ไทยพาณิชย์ มีกองทุนหุ้นไทยที่แนะนำ 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เซ็ท อินเด็กซ์ ฟันด์ (SCBSET) เป็นกองทุนประเภท Passive ซึ่งปัจจุบันยังคงเป็นกองทุนเพียงกองเดียวในประเทศไทย ที่มีนโยบายลงทุนให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับ SET Index มากที่สุด  สำหรับการลงทุนในกองทุนนี้จึงเปรียบเสมือนได้ลงทุนในหุ้นบริษัทมหาชนทุกบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้กองทุนมีความเสี่ยงที่เกิดจากหุ้นรายตัวต่ำกว่า ในขณะเดียวกันผลตอบแทนของกองทุนก็มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นไปพร้อมกับการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศไทย ซึ่งจากสถิติในระยะยาวตลอด 20 ปีที่ผ่านมาผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 10.1% ต่อปี
 
นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมากองทุนยังมีขนาดเติบโตขึ้นเกือบเท่าตัว จาก 8,700 ล้านบาท มาเป็นกว่า 15,000 ล้านบาทในปีนี้ สะท้อนให้เห็นว่ากองทุนได้รับความนิยมสูงเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงช่องทางการลงทุนได้ง่ายขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงทุนมากที่สุด โดยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันมีผลการดำเนินงานอยู่ที่ 12.50% (ข้อมูล ณ 22 กรกฎาคม 2562) นอกจากนี้กองทุนดังกล่าวยังได้รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมแห่งปี 2019 ปี 2015 และปี 2013 ประเภทประเภทกองทุนตราสารทุนทั่วไป จาก Money & Banking Awards ซึ่งจัดโดยวารสารการเงินธนาคารอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (SCBSE) จัดเป็นกองทุน 5 ดาว ประเภท Thailand Fund Equity Large-Cap ของมอร์นิ่งสตาร์ และมีผลดำเนินงานที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2554 มีการจ่ายปันผลแล้ว 16 ครั้ง รวม 7.16 บาทต่อหน่วย มีกลยุทธ์การลงทุนด้วยวิธี Active Approach โดยการคัดเลือกลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่น่าสนใจลงทุนมากที่สุด และสอดคล้องกับแนวโน้มการลงทุนในขณะนั้น ซึ่งจะใส่น้ำหนักการลงทุนมากน้อยตามความน่าสนใจของหุ้นนั้น และกองทุนจะลงทุนในหุ้นไม่เกิน 30 ตัว จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงในระดับสูงได้ ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน มีผลการดำเนินงานอยู่ที่ 11.43% (ข้อมูล ณ 22 กรกฎาคม 2562) นอกจากนี้กองทุนดังกล่าวยังได้รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมแห่งปี 2017ประเภทกองทุนตราสารทุนทั่วไป จาก Money & Banking Awards ด้วยเช่นกัน

บริษัทฯยังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยซึ่งทิศทางในครึ่งปีหลังจะดีขึ้นจากแรงหนุนจากปัจจัยภายนอกจากการที่ธนาคารกลางมีมุมมองของการผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น (Dovish) จากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยคาดธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในประชุมวันที่ 30 - 31 ก.ค. นี้ นอกจากนี้ตลาดยังมองว่าปีนี้อาจลดดอกเบี้ย 1 - 2 ครั้ง ซึ่งส่งผลต่อเงินทุนที่จะไหลเข้าตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เนื่องจากการประเมินมูลค่ามีความน่าสนใจจาก Earnings Yield gap (ผลตอบแทน ณ ปัจจุบันของตลาดหุ้น ลบด้วยผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว ซึ่งส่วนใหญ่จะอายุ 10 ปี) ปรับตัวกว้างมากขึ้น ขณะที่แนวโน้มราคาน้ำมันน่าจะอยู่ในระดับสูงได้จากการที่สหรัฐฯ ได้ทำการแทรกแซงการรับซื้อน้ำมันจากประเทศอิหร่านและการลดกำลังการผลิตของ OPEC ในครึ่งปีหลังกดดันอุปทานในภาพรวม

ส่วนภายในประเทศแนวโน้มการเมืองไทยมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังจากการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่อย่างเป็นทางการ คาดว่าจะเห็นนโยบายต่างๆ ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยฟื้นภาพเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอในช่วงครึ่งปีแรก โดยคาดนโยบายการกระตุ้นการบริโภคผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังคงเป็นแผนหลักในการช่วยพยุงตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) รวมทั้งการพยายามฟื้นราคาสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ยางพารา ปาล์ม อ้อย มันสำปะหลัง ให้สูงขึ้นซึ่งถือเป็นผลบวกต่อรายได้เกษตรกร นอกจากนี้ยังคาดโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ค้างอยู่จะทยอยออกมาต่อเนื่อง ตลอดจนการสานต่อโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย

ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6ห รือผู้สนับสนุนการขายทุกราย
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 24 ก.ค. 2562 เวลา : 15:40:35
24-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (24 เม.ย.67) บวก 3.64 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.10 จุด

2. ประกาศ กปน.: 27 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (24 เม.ย.67) บวก 3.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,360.90 จุด

4. MTS Gold คาดว่าจะมีกรอบแนวรับที่ 2,260 เหรียญ และแนวต้านที่ 2,335 เหรียญ

5. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (23 เม.ย.67) ร่วง 4.30 เหรียญ คลายความกังวลตะวันออกกลาง-จับตาเงินเฟ้อและGDPสหรัฐ

6. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (23 เม.ย.67) พุ่งขึ้น 263.71 จุด ขานรับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนแข็งแกร่งเกินคาด

7. ทั่วไทยมีฝนฟ้าคะนอง ภาคเหนือ 30% ภาคอีสาน-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่ง ตต. 20% ภาคใต้ ฝั่ง ตอ.10% กรุงเทพปริมณฑล ฝนเล็กน้อยบางแห่ง

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.80-37.05 บาท/ดอลลาร์

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (24 เม.ย.67) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 36.93 บาทต่อดอลลาร์

10. ทองเปิดตลาด (24 เม.ย. 67) ปรับขึ้น 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 40,950 บาท

11. ตลาดหุ้นไทยเปิด (24 เม.ย.67) บวก 7.26 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.72 จุด

12. ประกาศ กปน.: 25 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนกาญจนาภิเษก (ด้านตะวันตก)

13. ประกาศ กปน.: 25 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนประชาร่วมใจ

14. ตลาดหุ้นปิด (23 เม.ย.67) บวก 7.94 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,357.46 จุด

15. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (23 เม.ย.67) บวก 11.57 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.09 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 7:22 pm