กองทุนรวม
บลจ.ไทยพาณิชย์ คงอันดับคุณภาพที่ "Excellent(tha)"จากฟิทซ์ เรทติ้งส์


นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้ บลจ.ไทยพาณิชย์ยังคงสามารถรักษาอันดับคุณภาพการจัดการการลงทุนภายในประเทศ (National Investment Management Quality Rating) ที่ ‘Excellent(tha)’ แนวโน้มอันดับคุณภาพการจัดการการลงทุนมีเสถียรภาพจากการประกาศของบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อเร็วๆนี้ สะท้อนถึงการจัดการด้านการปฏิบัติการและการลงทุนที่ฟิทช์มองว่าโดดเด่นกว่ามาตรฐานที่นักลงทุนสถาบันภายในประเทศใช้ในการพิจารณาบริษัทจัดการกองทุน


ทั้งนี้การคงอันดับของบลจ.ไทยพาณิชย์ พิจารณาจากปัจจัย 5 ด้าน ประกอบด้วย กระบวนการการลงทุน บุคลากรในการจัดการลงทุน การบริหารจัดการและการควบคุมความเสี่ยง ผลการดำเนินงานจากการบริหารจัดการลงทุนและบริษัทและการบริการลูกค้า โดยฟิทช์มองว่ามีกระบวนการการลงทุนที่ดีในการบริหารกองทุนที่หลากหลาย มีการวิเคราะห์การลงทุนในเชิงลึกและเลือกลงทุนอย่างมีระบบ มีการติดตามและประเมินหลักทรัพย์ที่ลงทุนเป็นลายลักษณ์อักษร นอกจากนี้บริษัทมีการใช้เครื่องมือเชิงปริมาณ (quantitative tools)และปัจจัยเชิงคุณภาพ (qualitative factors) เพื่อสนับสนุนวัตถุประสงค์การลงทุนและกระบวนการการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาผู้จัดการการลงทุนได้มีการเริ่มใช้ machine learning สำหรับกองทุนตราสารหุ้นต่างประเทศจากเดิมใช้เพียงกองทุนตราสารหุ้นภายในประเทศ

ขณะที่ด้านบุคลากรในการจัดการการลงทุนมีบุคคลากรที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมในเชิงกว้างและเชิงลึกมีผู้จัดการการลงทุนที่มีประสบการณ์ทำงานผสมผสานกันตามความเหมาะสมในแต่ละประเภทของกองทุน และผู้จัดการการลงทุนอาวุโสส่วนใหญ่มีประสบการณ์การทำงานกับบริษัทเป็นระยะเวลานาน ไม่ได้พึ่งพาบุคลากรคนใดคนหนึ่งมากเกินไป นอกจากนี้ยังมีการแยกความรับผิดชอบการบริหารจัดการการลงทุนอย่างชัดเจนและการแบ่งแยกทีมตามสายงานอย่างชัดเจน ทั้งนี้ระบบงานต่างๆ มีความเชื่อมต่อกันโดยอัตโนมัติ รวมทั้งมีความพร้อมในการปรับปรุงและบำรุงรักษาระบบอย่างสม่ำเสมอ ทำให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากและรองรับการลงทุนที่หลากหลายของบริษัท บุคลากรในการจัดการการลงทุนมีแหล่งข้อมูลที่ใช้ในการตัดสินใจลงทุนที่หลากหลาย

ด้านการบริหารจัดการและการควบคุมความเสี่ยง ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB; ‘AA+(tha)’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ได้มีการกระจายอำนาจการบริหารความเสี่ยงจากจุดศูนย์กลางให้กับบริษัทลูก (decentralise) ซึ่งจะทำให้บลจ.ไทยพาณิชย์ มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิต ด้านปฏิบัติการ ด้านสภาพคล่อง และด้านความเสี่ยงของตลาด อย่างไรก็ตามแผนกบริหารความเสี่ยงของบลจ.ไทยพาณิชย์ยังมีความอิสระจากบุคลากรการจัดการการลงทุนแต่ทำงานใกล้ชิดกับผู้จัดการการลงทุนเพื่อการบูรณาการการบริหารความเสี่ยง ทีมบริหารความเสี่ยงใช้ระบบที่เป็นมาตรฐานสากลสำหรับการประเมินความเสี่ยงและการทดสอบภาวะวิกฤต 
 
“ฟิทช์มองว่าผลการดำเนินงานของกองทุนภายใต้การบริหารของบลจ.ไทยพาณิชย์ อยู่ในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับบริษัทจัดการกองทุนอื่นๆ ในประเทศไทย ซึ่งวัดจากผลการดำเนินงานของกองทุนเมื่อเทียบกับความเสี่ยงเป็นเกณฑ์ (risk-adjusted performance) ในส่วนของกองทุนตราสารหนี้ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดของสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ มีผลการดำเนินงานของกองทุนเป็นที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับกองทุนตราสารหนี้อื่นๆ ในอุตสาหกรรม สำหรับกองทุนหุ้นและกองทุนประเภทจัดสรรเงินลงทุนไปลงในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ (asset allocation funds) ผลการดำเนินการโดยรวมสอดคล้องกับกองทุนประเภทเดียวกันที่อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทอื่นๆ“ นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว

ฟิทช์ยังมองว่าบลจ.ไทยพาณิชย์ มีสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในธุรกิจบริหารจัดการกองทุน และมีผลิตภัณฑ์กองทุนที่มีความหลากหลายในด้านนโยบายการลงทุน โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) มูลค่ารวมอยู่ที่ 1.6 ล้านล้านบาท ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2562 (ที่มา: AIMC) บริษัทได้เพิ่มความหลากหลายในกองทุนประเภทจัดสรรเงินลงทุนไปลงในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ (asset allocation funds) เพื่อทำให้สถานะทางธุรกิจกองทุนรวมของบริษัทแข็งแกร่งขึ้น  แต่อย่างไรก็ตามกองทุนตลาดเงินและตราสารหนี้ยังคิดเป็นสัดส่วนที่สูงกว่า 70% ของ AUM ทั้งหมดของบริษัท บลจ.ไทยพาณิชย์เป็นผู้นำอย่างชัดเจนในธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่สูงกว่า 40% ของกองทุนส่วนบุคคลทั้งหมดในอุตสาหกรรม ซึ่งแสดงถึงสถานะทางธุรกิจของบลจ.ไทยพาณิชย์ที่แข็งแกร่งในธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล โดยเฉพาะในแวดวงนักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ (high net worth) การนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุนมีความเป็นระบบสูง โดยมักจะมีมาตรฐานเหนือกว่ากฎเกณฑ์และมาตรฐานของอุตสาหกรรม เห็นได้จากรายงานที่บริษัทได้ส่งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสำหรับกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 31 ก.ค. 2562 เวลา : 17:12:20
03-07-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (2 ก.ค.68) บวก 5.68 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,115.69 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (2 ก.ค.68) ลบ 4.59 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,105.42 จุด

3. MTS Gold คาดราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 50,800 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 51,400 บาท/บาททองคำ

4. พยากรณ์อากาศวันนี้ (2 ก.ค.68) ฝนตกหนักในภาคอีสาน-ภาคตะวันออก 80% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคเหนือ-ภาคกลาง 70% ภาคใต้ 60%

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (1 ก.ค.68) บวก 400.17 จุด รับแรงหนุนหุ้นกลุ่มที่มีความอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจ

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (1 ก.ค.68) พุ่ง 42.10 ดอลลาร์ แห่ซื้อทองสินทรัพย์ปลอดภัย หลังสภาผ่านร่างกฎหมายภาษีทรัมป์ดันหนี้สาธารณะพุ่ง

7. ทองเปิดตลาดวันนี้ (2 ก.ค. 68) ลดลง 50 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 52,050 บาท

8. ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (2 ก.ค.68) บวก 2.11 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,122.22 จุด

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (2 ก.ค.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.46 บาทต่อดอลลาร์

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

11. พรุ่งนี้ (2 ก.ค. 68) น้ำมันเบนซิน-แก๊สโซฮอลล์ลดราคา 30 สต./ลิตร

12. ประกาศ กปน.: 3 ก.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนทางหลวงหมายเลข 345

13. ตลาดหุ้นปิด (1 ก.ค.68) บวก 20.45 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,110.01 จุด

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (1 ก.ค.68) บวก 2.57 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,092.13 จุด

15. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 3,300 เหรียญ และมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 3,350 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ July 3, 2025, 9:50 am