กองทุนรวม
KTAM แนะ KT-ASEAN ทางเลือกลงทุนระยะยาว


KTAM แนะ KT- ASEAN ทางเลือกลงทุนระยะยาว เร่งระดมสร้างโครงสร้างพื้นฐานหนุนเศรษฐกิจโตต่อเนื่อง


นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (KTAM) เปิดเผยว่าประเทศในกลุ่มอาเซียนมีเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับการลงทุนในระยะยาว โดยบริษัทมีกองทุนเปิดเคแทม อาเซียน อิควิตี้ ฟันด์ ( KT-ASEAN )ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน JP Morgan Funds – ASEAN Equity Fund (กองทุนรวมหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนรวมหลักจะเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีภูมิลำเนาอยู่ในสมาชิกกลุ่มอาเซียน หรือมีผลการดำเนินงานของบริษัทมาจากประเทศที่เป็นสมาชิกในกลุ่มอาเซียน และกองทุนรวมหลักอาจลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งมีธุรกรรมกับประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีน

ทั้งนี้ปัจจัยที่สนับสนุนให้ตลาดหุ้นอาเซียนมีความน่าสนใจในระยะยาว เนื่องจากเป็นที่คาดหมายว่า GDP ของอาเซียนน่าจะเติบโตจนมีขนาดใหญ่เป็น อันดับ 4 ของโลกในปี 2050 รองจาก จีน อินเดีย และ สหรัฐฯโดยสถาบัน แมคคินซีย์โกลบอล อินซทิทยูท ( McKinsey Global Institute ) คาดการณ์ว่าภูมิภาคอาเซียนควรมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมากกว่า 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างปี 2016-2030 ในการสร้างถนน ระบบราง ท่าเรือ สนามบิน โรงไฟฟ้า ระบบประปาและโครงข่ายการสื่อสาร เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ปัจจุบันเห็นได้ชัดว่ารัฐบาลของหลายประเทศในอาเซียน กำลังขับเคลื่อนโครงการต่างๆดังที่กล่าวมา

นอกจากนี้ภาคการท่องเที่ยวมีอัตราการเติบโตสูง อาเซียนต้อนรับนักท่องเที่ยว 129.2 ล้านคน ในปี 2018 เพิ่มขึ้น 7.6% จากปี 2017 โดยสำนักสถิติโกลบอล ดาต้า (GlobalData ) คาดการณ์ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าอาเซียนน่าจะเติบโตต่อไปด้วยอัตราเฉลี่ย 4.72% ต่อปี จนแตะ 155.4 ล้านคนในปี 2022 ภาคธนาคารของอาเซียนก็กำลังฟื้นตัว หลังจากตั้งสำรองหนี้เสียไปมากแล้ว ขณะที่ NPL มีแนวโน้มปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ อนึ่งโครงสร้างประชากรในภาพรวมของอาเซียนก็เป็นปัจจัยหนุนการเติบโต โดยจำนวนคนอายุไม่ถึง 35 ปีมีอยู่มากกว่า 380 ล้านคนหรือคิดเป็น 58% ของประชากรในอาเซียน ซึ่งมากกว่าจำนวนชาวสหรัฐฯอเมริกาทั้งประเทศ นอกจากนี้ อาเซียนยังมีกำลังแรงงาน (labor force) ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจาก จีน และ อินเดีย ขณะที่คาดว่า จำนวนคนชั้นกลางในอาเซียน จะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 135 ล้านคน (24%) ในปี 2015 ไปเป็น 334 ล้านคน (51%) ในปี 2030 อันเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการบริโภคให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพในระยะยาว นอกจากนี้อาเซียนยังเป็นจุดหมายอันดับต้นๆในการย้ายฐานการผลิต นับตั้งแต่เกิดสงครามการค้าระหว่าง สหรัฐฯและจีน โดยปัจจัยที่ดึงดูดการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศในรอบนี้ เช่น ทำเลที่ตั้ง ห่วงโซ่อุปทานและเครือข่ายขนส่งที่แข็งแกร่ง กำลังแรงงานขนาดใหญ่ รวมถึงความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศมหาอำนาจทั้งสองซึ่งเป็นคู่ขัดแย้ง

ส่วนปัจจัยสนับสนุนตลาดในระยะสั้น เจพี มอร์แกน เผยสถิติในอดีตที่ผ่านมาชี้ว่า ตลาดหุ้นอาเซียน มักสร้างผลตอบแทนโดดเด่น ในช่วง 3-6 เดือนหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ ( Fed )และธนาคารกลางยุโรป( ECB) ผ่อนคลายนโยบายการเงินในช่วงกลางของวัฏจักรเศรษฐกิจ

โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2562 ผลตอบแทนของ YTD (2ม.ค.-23 ก.ค.) อยู่ที่ 11.02% ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 6.54% ย้อนหลัง1 ปี อยู่ที่ 5.93% และย้อนหลัง3 ปี อยู่ที่ 6.08%

ซึ่งสูงกว่า Benchmark ( MSCI South East Asia Index ) YTD อยู่ที่ 6.33% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 3.44% ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 1.41% และย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 2.79 %

ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานอนาคต / การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 01 ส.ค. 2562 เวลา : 17:59:06
01-07-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (30 มิ.ย.68) บวก 7.14 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,089.56 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (30 มิ.ย.68) บวก 3.19 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,085.61 จุด

3. MTS Gold คาดจะมีแนวรับที่ระดับ 3,250 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,300 เหรียญ

4. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.75 บาท/ดอลลาร์

5. ทองเปิดตลาดวันนี้ (30 มิ.ย. 68) ปรับลดลง 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 51,300 บาท

6. พยากรณ์อากาศวันนี้ (30 มิ.ย.68) กรุงเทพปริมณฑล ฝนตกหนัก 70% ภาคเหนือ-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก 60% ภาคอีสาน 40% ภาคใต้ 30%

7. ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (30 มิ.ย. 68) บวก 6.59 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,089.01 จุด

8. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (30 มิ.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.65 บาทต่อดอลลาร์

9. ประกาศ กปน.: 12 ก.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

10. ตลาดหุ้นไทยปิด (27 มิ.ย.68) ลบ 24.31 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,082.42 จุด

11. ประกาศ กปน.: 1 ก.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนเจริญนคร

12. ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (27 มิ.ย.68) ลบ 19.53 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,087.20 จุด

13. พยากรณ์อากาศวันนี้ (27 มิ.ย.68) ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักในภาคเหนือ-ภาคกลาง 70% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคอีสาน-ภาคตะวันออก 60% ส่วนภาคใต้ 30%

14. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,270 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,330 เหรียญ

15. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (26 มิ.ย.68) พุ่ง 4.90 เหรียญ ตลาดจับตาดัชนี PCE ประเมินดอกเบี้ยเฟด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ July 1, 2025, 7:27 am