หุ้นทอง
คุณก็เป็น "เซียนหุ้น" VI ได้ง่ายๆ ...แค่คุณพก "แนวคิด 5 Must Do" ติดตัว


สำหรับคุณในฐานะหน้าใหม่ของวงการตลาดหุ้น หรือแม้แต่หน้าเก่ามือโปรที่เล่นหุ้น หลายครั้งที่พวกคุณมักมีคำถามยอดฮิต เวลาพวกคุณจะลงทุน นั่นก็คือ “ฉันควรซื้ออะไร” และ”ฉันควรซื้อที่ราคาเท่าไหร่”

 

         

 

ดังนั้น คุณจำเป็นต้องรู้ก่อนว่า ตัวคุณควรจะซื้ออะไร แล้วจึงไปเดินหาของสิ่งนั้น และควรประเมินว่า ราคาเท่าไหร่ คุณจึงจะยอมลงทุนซื้อ

 

เอาง่ายๆ วันนี้ มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯ อยากให้คุณลองนึกถึงวิธีช้อปปิ้งของแม่บ้านญี่ปุ่นวินัยสูง เพราะเธอเหล่านี้ มักจะจดรายการของที่ต้องการซื้อไว้อย่างชัดเจนว่าจะซื้ออะไร ซึ่งช่วยให้คุณไม่ลืมสิ่งของที่ควรซื้อและไม่ต้องเผลอซื้อของที่คุณไม่อยากได้จริงๆ แต่ถูกกระตุ้นด้วยอารมณ์จากสารพัดโปรโมชั่น ขณะเดินจับจ่าย

 

หลักการนี้ มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯ เชื่อว่าคุณสามารถนำมาใช้กับการลงทุนในหุ้นได้เช่นเดียวกัน เพราะก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อหุ้นทุกครั้ง คุณต้องถามตัวเองด้วยสองคำถามสำคัญทุกครั้ง

 

ซื้ออะไร?

นั่นก็คือ คุณจะซื้อหุ้นอะไรนั่นเอง เป็นการถามเพื่อเลือกหุ้นมาจำนวนหนึ่งเรียกว่าWatch List” หรือ “รายชื่อหุ้นที่จับตามอง”

 

การจะได้มาซึ่งรายชื่อหุ้นใน Watch List คุณต้องทำการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ (Qualitative Analysis) เช่นเทรนด์ธุรกิจสนับสนุนหรือไม่ อยู่ในอุตสาหกรรมแข็งแกร่งหรือไม่ กิจการจะเติบโตได้อย่างไร แผนธุรกิจของบริษัทเป็นอย่างไร ความสามารถในการสร้างผลตอบแทนในอนาคตเพิ่มขึ้นหรือไม่อย่างไร ด้วยอะไร

 

แนวโน้มความต้องการสินค้าและบริการของบริษัทเป็นอย่างไร ความสามารถในการแข่งขันยั่งยืนหรือไม่ ทีมผู้บริหารมีฝีมือแค่ไหน

 

 

ซื้อที่ราคาเท่าไร?

 

นั่นก็คือ การถามเพื่อให้คุณได้วิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Analysis) ซึ่งดูจากงบการเงินทั้ง 3 ได้แก่ งบดุล งบกำไรขาดทุน และงบกระแสเงินสด รวมไปถึง อัตราส่วนการเงินต่างๆ เช่น อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) เป็นต้น และคำนวนหามูลค่าที่แท้จริงของหุ้น (Intrinsic Value) เพื่อเปรียบเทียบความถูกแพงของหุ้นก่อนเข้าซื้อ

ดังนั้น หากคุณ ถอดรหัสทั้งสองคำถามนี้ จะซื้ออะไร ซื้อที่ราคาเท่าไร ออกมา คุณก็จะได้โครงสร้างวิชาสายดูพื้นฐานหุ้น ซึ่งแนวคิดนี้ก็คือ5 Must Do

           

ถ้าคุณต้องการจะเป็นนักลงทุนแนวVI หรือลงทุนแนวเน้นคุณค่า ซึ่งนำมาใช้เลือกหุ้นได้ นั่นคือ

ขั้นที่ วิเคราะห์การลงทุนตามแนวโน้มใหญ่ (Mega Trend) โดยคุณควรเลือกหุ้นที่มีเทรนด์ธุรกิจสนับสนุน

            ขั้นที่ วิเคราะห์อุตสาหกรรม (Industry Analysis)คุณสามารถเลือกหุ้นที่อยู่อุตสาหกรรมขาขึ้น

            ขั้นที่ วิเคราะห์บริษัทเชิงคุณภาพ (Qualitative Analysis)เลือกหุ้นที่มีปัจจัยเชิงคุณภาพดี

            ขั้นที่ คุณต้องวิเคราะห์บริษัทเชิงปริมาณ (Quantitative Analysis) เลือกหุ้นที่มีงบการเงินแข็งแรง รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม เงินสดหมุนเวียนดี

            ขั้นที่ 5 คุณต้อง ประเมินมูลค่าหุ้น (Valuation) โดยคุณต้องวัดมูลค่าหุ้นก่อนเข้าซื้อ จงลงมือเมื่อหุ้นมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงเท่านั้น (Undervalue)

 

ก่อนคุณตัดสินใจลงทุน หากคุณได้ทำการวิเคราะห์ 5 ขั้นตอนแล้ว พอซื้อเสร็จราคากลับร่วงลงไป ก็ไม่ต้องตกใจในเมื่อหุ้นที่คุณลงทุนซื้ออยู่ในกระแสเทรนด์ใหญ่ อยู่ในอุตสาหกรรมที่ยอดเยี่ยม บริษัทมีอนาคตดี มีความสามารถในการแข่งขัน และมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง รวมทั้งคุณไม่ได้ซื้อเพราะโลภ แต่ซื้อเพราะผ่านการวิเคราะห์และวัดมูลค่ามาแล้วเป็นอย่างดี

 

ถ้าคุณทำได้แบบนี้ คุณไม่ต้องกลัวเลย แถมถ้าราคามันลงมามากๆ อาจเป็นโอกาสดีของคุณในการลงทุนเพิ่มก็ได้

           

 

ส่วนทำอย่างไรนักลงทุนหน้าใหม่สามารถเพิ่มทักษะการวิเคราะห์และทำความเข้าใจบริษัทที่จะลงทุนได้คำตอบก็ไม่ยากจนเกินไป คุณก็ต้องหาข้อมูลและอ่านเยอะๆ เพื่อสร้างฐานข้อมูลทางธุรกิจ และสร้างทัศนคติที่ถูกต้องในการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เช่น อ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนให้มากๆ รวมถึงอ่านหนังสือพิมพ์และนิตยสารด้านธุรกิจ ดูทีวีช่องข่าวธุรกิจ

       

โดยเฉพาะคุณต้องไม่พลาดเข้าเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ www.set.or.th เป็นประจำ เพื่อหาข้อมูลความรู้ที่ดีและฟรีมากมายมหาศาล ทั้งข้อมูลพื้นฐานของกิจการคลิปความรู้ทางการเงิน บทความการลงทุนดีๆและข่าวสารกิจกรรมต่างๆ ที่มีมาอัพเดทตลอดเวลา

           

การสร้างนิสัยที่ดีต่อการลงทุนเหล่านี้ จะเพิ่มวิสัยทัศน์ทางธุรกิจและโอกาสมั่งคั่ง ยั่งยืนให้แก่คุณ


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 14 ส.ค. 2562 เวลา : 00:25:57
08-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (7 พ.ย.2568) ลบ 10.40 จุด ดัชนี 1,302.91 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (7 พ.ย.68) ลบ 1.36 จุดดัชนี 1,311.95 จุด

3. พยากรณ์อากาศวันนี้ (7 พ.ย.68) "พายุคัลแมกี" อ่อนกำลัง จ่อเข้าโขงเจียม อุบลฯ บ่ายวันนี้ ส่งผลฝนฟ้าคะนองในภาคอีสาน-ภาคใต้ ฝั่ง ตต. 70% ภาคกลาง -ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 60% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคเหนือ 40%

4. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (6 พ.ย.68) ลบ 1.9 ดอลลาร์ แต่แนวโน้มยังแกร่งจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (6 พ.ย.68) ร่วง 398.70 จุด กังวลฟองสบู่ AI แตก-ศก.ไม่แน่นอน

6. MTS Gold คาดราคาทองคำมีแนวรับที่ 60,600 บาท และแนวต้านที่ 61,600 บาท

7. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.25-32.50บาท/ดอลลาร์

8. ทองเปิดตลาดวันนี้ (7 พ.ย. 68) ลดลง 50 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 62,150 บาท

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (7 พ.ย.68) ลบ 4.41 จุด ดัชนี 1,308.90 จุด

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (7 พ.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.40 บาทต่อดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (6 พ.ย.2568) บวก 18.02 จุด ดัชนี 1,313.31 จุด

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (6 พ.ย.68) บวก 9.78 จุดดัชนี 1,305.07 จุด

13. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (5 พ.ย.68) บวก 225.76 จุด รับผลประกอบการ-ข้อมูลเศรษฐกิจ สดใส

14. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (5 พ.ย.68) บวก 32.4 ดอลลาร์ นักลงทุนแห่ซื้อทองเลี่ยงความเสี่ยงฟองสบู่ตลาดหุ้น

15. พยากรณ์อากาศวันนี้ (6 พ.ย.68) ภาคใต้ ฝนฟ้าคะนอง 60% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคเหนือ-ภาคอีสาน-ภาคตะวันออก 20% ภาคกลาง 10% ?พายุคัลแมกี?เคลื่อนเข้าปกคลุม จ.อุบลฯ 7 พ.ย.

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 8, 2025, 12:11 pm