หุ้นทอง
หั่นเป้ากำไรบริษัทจดทะเบียนปี62ลง หลังตัวเลขไตรมาสสองหดตัวอย่างรุนแรง


ตัวเลขผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โชว์กำไรไตรมาส 2 ปี 2562 ออกมา ทำเอานักลงทุนและนักวิเคราะห์ผิดหวังไปตามกัน เนื่องจากมีอาการหดตัวค่อนข้างแรง 


ส่งผลให้ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส หรือ ASP ต้องมาพิจารณาทบทวนและปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนในปีนี้ลง 
 
 
 
 
 
โดยในไตรมาส 2 ปีนี้ บจ.มีกำไรสุทธิรวมกัน 2.16 แสนล้านบาท ลดลงถึง 18.7% qoq จากกำไร 2.66 แสนล้านบาทในไตรมาส 1 ปีนี้ และลดลง 17.1% yoy จากกำไร 2.61 แสนล้านบาทในไตรมาส2ปีนี้ ถือว่าเป็นการหดตัวค่อนข้างมาก
 
ดังนั้นจึงทำให้ภาพรวมกำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 2562 ทำได้เพียง 4.83 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 46.79%ของประมาณการกำไรทั้งปี 2562  ที่ฝ่ายวิจัยฯประเมินไว้ที่ 1.03 ล้านล้านบาท ลดลง13.15%เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2561 

สำหรับปัจจัยหลักๆที่กดดันกำไรบจ.มาจากประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่ยืดเยื้อและกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะภาคการส่งออกของไทยที่มีจีนเป็นคู่ค้าหลัก

รวมถึงการที่คณะกรรมการนโยบาบการเงิน(กนง.)ปรับลดดอกเบี้ยยังส่งผลกระทบต่อประมาณการกำไรของกลุ่มแบงก์พาณิชย์
 
จากสถานการณ์ดังกล่าว ฝ่ายวิจัยฯจึงได้ทบทวนประมาณการกำไรตลาดและปรับลดคาดการณ์กำไรปี2562 ลง 2.7% มาที่ 9.99 แสนล้านบาท จากเดิม 1.03 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น EPS ที่ 100.64 บาทต่อหุ้นจากเดิม103.32 บาท/หุ้น ทำให้ดัชนีเป้าหมายใหม่ปีนี้ลดลงมาอยู่ที่ 1655 จุด อิง P/E ที่ราว 16.45 เท่า จากเดิมอยู่ที่ 1699 จุด
 
 
 
 
ส่วนบริษัทจดทะเบียน 10 อันดับแรกที่ฝ่ายวิจัยฯปรับเพิ่มประมาณการกำไร ได้แก่ TRUE ผลจากภาพรวมธุรกิจดีขึ้น และคาดว่าจะมีกำไรพิเศษจากการขายทรัพย์สินในไตรมาส 3 ปี 2562

SCBกำไรดีขึ้นจากขายเงินลงทุนใน SCB Life, KTB ทำให้มีรายได้พิเศษจากการขายทอดตลาดหลักประกันที่ดินของ AQ และ CPF, ADVANC ภาพธุรกิจที่ฟื้นตัวขึ้นชัดเจน

ส่วนบริษัทจดทะเบียน 10 ดับแรกที่ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการกำไร ได้แก่ หุ้นที่กำไรผันผวนตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์และยังถูกกดดันจากปัญหาสงครามการค้า ซึ่งส่งผลให้ Demand ลดลง 

นำโดย PTTGC, SCC, IVL, IRPC, BANPU ตามด้วยกลุ่มขนส่งทางอากาศทุกราย THAI, BA, AAV จากผลกระทบการแข่งขันที่รุนแรงต่อเนื่อง

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา กนง.ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 1.5% ถือเป็นปัจจัยที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายและทำให้แบงก์พาณิชย์ต้องปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ตาม ซึ่งผลกระทบต่อประมาณการกำไรกลุ่มแบงก์ปี 2562-2563 ลง 3.8% และ 5.2% ตามลำดับ

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 21 ส.ค. 2562 เวลา : 19:47:35
04-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (4 พ.ย.68) ลบ 10.26 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,298.60 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (4 พ.ย.68) ลบ 8.54 จุดดัชนี 1,300.32 จุด

3. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-32.65 บาท/ดอลลาร์

4. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (3 พ.ย.68) บวก 17.5 ดอลลาร์ ตลาดจับตาจ้างงานภาคเอกชนประเมินดอกเบี้ยเฟด

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (3 พ.ย.68) ลบ 226.19 จุด หุ้นเฮลธ์แคร์ร่วงกดดันตลาด-กังวลทิศทางดอกเบี้ยเฟด

6. MTS Gold คาดราคาทองคำ แนวรับที่ 3,980-3,950 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,440-4,460 เหรียญ

7. พยากรณ์อากาศวันนี้ (4 พ.ย.68) ฝนฟ้าคะนองในภาคตะวันออก 70% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคใต้ ฝั่ง ตต. 60% ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 40% ภาคเหนือ 30% ภาคอีสาน 20%

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (4 พ.ย.68) ลบ 2.67 จุด ดัชนี 1,306.19 จุด

9. ทองเปิดตลาดวันนี้ (4 พ.ย. 68) ลดลง 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 62,200 บาท

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (4 พ.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.51 บาทต่อดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (3 พ.ย.68) ลบ 0.64 จุด ดัชนี 1,308.86 จุด

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (3 พ.ย.68) บวก 3.56 จุด ดัชนี 1,313.06 จุด

13. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงอยู่ในทิศทาง Sideway Down โดยราคาทองคำยังไม่สามารถสร้างฐานและยืนเหนือระดับสำคัญที่ 4,000 เหรียญ

14. กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.20-32.70 ติดตามข้อมูลสหรัฐและค่าเงินหยวน

15. พยากรณ์อากาศวันนี้ (3 พ.ย.68) ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่าน ส่งผล "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก" ฝนตกหนัก 70% ภาคเหนือ-ภาคใต้ 60% ภาคอีสาน 40%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 4, 2025, 10:12 pm