หุ้นทอง
บริหาร"โบนัส"อย่างไร...คุณมีเงินใช้ไปตลอด


นี่ก็เหลืออีกเพียงสองเดือนก็ขึ้นปีใหม่หรือปี 2563 พูดมาถึงตอนนี้ ทุกคนก็เริ่มนึกถึงของขวัญดีๆที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนตั้งตารอคอย นั่นก็คือโบนัสและพอถึงช่วงนี้ของทุกปี คุณและมนุษย์ทั่วประเทศ ต่างวางแผนและเพลิดเพลินกับการเตรียมใช้และใช้เงินโบนัสก้อนนี้ ในการท่องเที่ยว ซื้อของให้รางวัลกับตัวคุณเองหรือคนที่คุณรัก หลังจากคุณเฉลิมฉลองกับเงินก้อนพิเศษนี้แต่พอพิจารณาตรวจตรายอดเงินที่เหลือ ทั้งๆที่สมองและใจเคยสั่งให้ ต้องนำเงินส่วนหนึ่งไว้เก็บออมด้วย ปรากฏว่าเพลินกับการจับจ่าย โน้นก็อยากได้ นี่ก็อยากได้ก็เกือบเกลี้ยงกระเป๋าซึ่งก็สายไปเสียแล้ว

 


 
 
 
ดังนั้นมิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯและ"คุณศิรัถยา อิศรภักดี"นักจัดรายการ ด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจและการลงทุน ได้นำเทคนิคการบริหาร“โบนัส”จากนิตยสาร Forbes มาฝากบอกได้เลยหากคุณลองทำตามรับรองยิ้มแก้มปริไปตลอดทั้งปี

เริ่มจากเก็บเงินโบนัสไว้เป็นเงินฉุกเฉิน เพราะก่อนจะ“รวย”ด้วยการเก็บออมหรือลงทุน ต้องเก็บ“เงินฉุกเฉิน”เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายยามเกิดเหตุจำเป็นในชีวิตซะก่อน เช่น ตกงานกะทันหัน เจ็บไข้ได้ป่วยจนเข้าโรงพยาบาลหรือเหตุฉุกเฉิน อื่นๆที่คาดไม่ถึง

เงินฉุกเฉินส่วนนี้ควรมีประมาณ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน เช่น สมมติว่าหากคำนวนแล้วว่าคุณมีใช้จ่ายจำเป็น (ค่าผ่อนบ้าน ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ หนี้สิน) เดือนละ 20,000 บาท แสดงว่าเราต้องมีเงินฉุกเฉิน 60,000-120,000 บาท

ถ้าเป็นแบบนี้ เงินก้อนแรกจากโบนัสควรกันเอาไว้เพื่อใช้ในยามฉุกเฉินและควรเก็บไว้ในช่องทางที่เอามาใช้ได้ทันที เช่น ฝากออมทรัพย์หรือเงินฝากประเภทที่มีสภาพคล่อง

จ่ายหนี้บัตรเครดิตหรือหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง หากดอกเบี้ยบัตรเครดิตอยู่ที่ประมาณ 20%ต่อปี เช่นเดียวกับสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีดอกเบี้ยตั้งแต่ 12-24% ดังนั้นหากคุณยังมีหนี้เหล่านี้ติดตัวข้ามปีมา จงนำเงิน“โบนัส”ที่ได้รับไปจ่ายหนี้เหล่านี้ให้หมดให้สิ้น

ถ้าทำได้จะทำให้ประหยัดเงินค่าดอกเบี้ยลงได้อีกเยอะทีเดียว ผลที่ตามมาหนีไม่พ้นความเป็นไทและก้าวเข้าสู่เส้นทางอิสรภาพทางการเงินในเร็ววัน

เก็บเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับแผนเกษียณ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ก็ควรเก็บเงินให้ได้อย่างน้อยๆ15%ของรายได้ก่อนหักภาษี เพื่อเอาไว้ใช้หลังวัยเกษียณหรือหากอยากทบทวนดูว่าวันนี้เราพร้อมเกษียณแล้วหรือยัง ลองคำนวนตามตารางข้างล่างนี้

                         อายุ                      จำนวนเงินที่ควรมีเพื่อการเกษียณ
                        30 ปี                                 ½ x เงินเดือน
                        35 ปี                                 1 x เงินเดือน
                        40 ปี                                 2 x เงินเดือน
                        45 ปี                                 4 x เงินเดือน
                        50 ปี                                 6 x เงินเดือน
                        55 ปี                                 8 x เงินเดือน
                       60 ปี                                 10x เงินเดือน
                       65 ปี                                 12x เงินเดือน
ที่มา: www.forbes.com

ตัวอย่างข้างบน คือประมาณการเงินเพื่อการเกษียณที่ต้องมีช่วงวัยต่างๆ เช่น วันนี้อายุ 30 ปี รายได้ปีละ 5 แสนบาท ควรมีเงินเพื่อการเกษียณแล้วอย่างน้อย 250,000 บาท (= ½ x 500,000) สมมติว่าคุณอายุ 30 ปีแต่เงินเก็บเพื่อวัยเกษียณยังไม่ถึง 250,000 บาท ก็แบ่งเงินจากโบนัสนี่แหละไปเก็บเอาไว้ ซึ่งเทคนิคง่ายๆและทำให้รู้สึกว่าการออมเงินเป็นเรื่องสนุก ก็คือออมเงินด้วยการลงทุนอย่างสม่ำเสมอทุกๆเดือน อาจจะลองเริ่มต้นด้วยจำนวนน้อยๆก่อนก็ได้ เช่น เดือนละ 1,000 บาทและปีถัดไปเมื่อมีรายได้เพิ่มสูงขึ้นก็เพิ่มเงินออมต่อเดือนเพิ่มตามไปด้วย หากทำเช่นนี้อย่างสม่ำเสมอจะมีเงินเก็บเพียงพอตอนวัยเกษียณแน่นอน

นอกจากนี้คุณอย่าลืมว่า“โบนัส”ที่ได้รับจะต้องจ่ายภาษีเต็มจำนวน ดังนั้นการนำเงินโบนัสไปลงทุนในทางเลือกอื่นๆที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ เช่น ลงทุนใน LTFหรืออาจเติมเงินเพิ่มในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์ต่ออนาคตทางการเงินในระยะยาว เมื่อบริหารเงินโบนัสได้อย่างลงตัวแล้ว คุณก็ควรให้รางวัลกับตัวเองบ้าง ถ้าคุณทำได้แบบนี้แล้ว เชื่อได้เลยว่าคุณจะเป็นคนที่รู้จักค่าของเงินและมี“วินัย”การเงินตัวแม่

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 08 ต.ค. 2562 เวลา : 14:50:42
03-07-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (2 ก.ค.68) บวก 5.68 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,115.69 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (2 ก.ค.68) ลบ 4.59 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,105.42 จุด

3. MTS Gold คาดราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 50,800 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 51,400 บาท/บาททองคำ

4. พยากรณ์อากาศวันนี้ (2 ก.ค.68) ฝนตกหนักในภาคอีสาน-ภาคตะวันออก 80% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคเหนือ-ภาคกลาง 70% ภาคใต้ 60%

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (1 ก.ค.68) บวก 400.17 จุด รับแรงหนุนหุ้นกลุ่มที่มีความอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจ

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (1 ก.ค.68) พุ่ง 42.10 ดอลลาร์ แห่ซื้อทองสินทรัพย์ปลอดภัย หลังสภาผ่านร่างกฎหมายภาษีทรัมป์ดันหนี้สาธารณะพุ่ง

7. ทองเปิดตลาดวันนี้ (2 ก.ค. 68) ลดลง 50 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 52,050 บาท

8. ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (2 ก.ค.68) บวก 2.11 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,122.22 จุด

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (2 ก.ค.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.46 บาทต่อดอลลาร์

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

11. พรุ่งนี้ (2 ก.ค. 68) น้ำมันเบนซิน-แก๊สโซฮอลล์ลดราคา 30 สต./ลิตร

12. ประกาศ กปน.: 3 ก.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนทางหลวงหมายเลข 345

13. ตลาดหุ้นปิด (1 ก.ค.68) บวก 20.45 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,110.01 จุด

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (1 ก.ค.68) บวก 2.57 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,092.13 จุด

15. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 3,300 เหรียญ และมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 3,350 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ July 3, 2025, 9:55 am