เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสำรวจพบครัวเรือนไทยมอง"ชิมช้อปใช้"เฟส 1 ช่วยลดภาระค่าครองชีพ


ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสำรวจพบครัวเรือนไทยมอง “ชิมช้อปใช้” เฟส1 ช่วยลดภาระค่าครองชีพ แต่เสนอรัฐมีมาตรการดูแลเพิ่มเติม 


ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2562 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบวิธีการดำเนินมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ “ชิมช้อปใช้” ซึ่งมีระยะเวลาในการดำเนินมาตรการตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. จนถึง 30 พ.ย. 2562 โดยในปัจจุบัน (9 ต.ค. 2562) มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “ชิมช้อปใช้” ครบทั้งหมด 10 ล้านคน ตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้แล้ว ซึ่งผู้ลงทะเบียนสำเร็จบางส่วนได้เริ่มออกมาใช้สิทธิ์ตามจังหวัดปลายทางต่างๆ ที่ลงทะเบียนไว้
 
ทั้งนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงทำการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของครัวเรือนไทยที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “ชิมช้อปใช้” เฟส 1 สำเร็จ ผ่านช่องทางการเก็บข้อมูลออฟไลน์และออนไลน์ โดยผลสำรวจมีประเด็นที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ 
 
43.0% ของครัวเรือนที่ทำการสำรวจวางแผนที่จะใช้จ่ายมากกว่า 1,000 บาท โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 3,300 บาทต่อคน ส่วนใหญ่เป็นคนกรุงเทพฯ ที่วางแผนไปท่องเที่ยวและใช้จ่ายที่ชลบุรี นนทบุรี และสมุทรปราการ

ครัวเรือนที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน มุ่งเน้นการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากห้างสรรพสินค้า และมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายในงบ 1,000 บาทพอดี ขณะที่ครัวเรือนผู้มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาทต่อเดือน  มุ่งเน้นไปกับการรับประทานอาหารที่ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ และส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเกิน 1,000 บาท

อย่างไรก็ตามมาตรการนี้มีข้อจำกัดในการได้รับสิทธิ์ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ไม่มีสมาร์ทโฟนหรือไม่เปิดใช้อินเทอร์เน็ต จึงทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ขาดโอกาสในการเข้าถึงสิทธิที่พึงได้รับจากประโยชน์ของมาตรการภาครัฐ

แม้ครัวเรือนไทยส่วนมาก 78.3% จะมองว่ามาตรการ “ชิมช้อปใช้” เฟส 1 มีส่วนช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของตนเองได้ แต่ครัวเรือนส่วนใหญ่ยังอยากให้รัฐบาลมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อมุ่งแก้ปัญหาปากท้องประชาชน โดยเฉพาะเรื่องการลดภาระค่าครองชีพ เช่น ปรับลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น การช่วยพยุงค่าสาธารณูปโภค ค่าโดยสารสาธารณะ รวมไปถึงราคาพลังงานในประเทศ

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 ต.ค. 2562 เวลา : 17:31:30
13-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (12 พ.ย.68) ลบ 15.66 จุด ดัชนี 1,284.81 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (12 พ.ย.68) ลบ 7.81 จุด ดัชนี 1,292.66 จุด

3. MTS Gold ราคาทองประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,070-4,100 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,150-4,200 เหรียญ

4. ทองเปิดตลาดวันนี้ (12 พ.ย. 68) ลดลง 50 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,250 บาท

5. พยากรณ์อากาศวันนี้ (12 พ.ย.68) ลมหนาวเยือนภาคอีสาน อุณหภูมิลด 1-2 องศา ยอดดอย 10 องศา,ประเทศไทยตอนบนยังมีฝนบางแห่ง 20% กทม. 30% ภาคตะวันออก 40% ภาคใต้ 30-40%

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (11 พ.ย.68) พุ่ง 559.33 จุด ขานรับชัตดาวน์ใกล้ยุติ

7. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (11 พ.ย.68) ลบ 5.7 ดอลลาร์ ตลาดคาดเฟดลดดอกเบี้ยเดือนหน้า

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (12 พ.ย.68) บวก 0.81 จุด ดัชนี 1,301.28 จุด

9. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.55บาท/ดอลลาร์

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (12 พ.ย.68) ทรงตัว ที่ระดับ 32.39 บาทต่อดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (11 พ.ย.68) ลบ 5.79 จุด ดัชนี 1,300.47 จุด

12. ประกาศ กปน.: 12 พ.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนบางนา-ตราด

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (11 พ.ย.68) ลบ 1.78 จุด ดัชนี 1,304.48 จุด

14. MTS Gold คาดว่าจะมีเป้าหมายการขึ้นถัดไปที่ระดับ 4,240 เหรียญ ก่อนที่จะทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 4,380 เหรียญในลำดับต่อไป ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,070 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,200 เหรียญ

15. ทองเปิดตลาดวันนี้ (11 พ.ย. 68) พุ่งขึ้น 950 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,200 บาท

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 13, 2025, 12:48 am