หุ้นทอง
ถ้าหลุด 1,558 จุดอาจเห็นจุดต่อไป 1,544


ดัชนีมีความพยายามดีดกลับ หลังจากปรับตัวลงแรงติดต่อกันหลายวัน โดยส่วนหนึ่งได้รับความหวังจากทางการจีนที่จะพิจารณายกเลิกภาษีนำเข้าถั่วเหลืองและเนื้อหมูบางส่วนจากสหรัฐ และการบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกก่อนที่มาตรการภาษีของสหรัฐจะมีผลบังคับใช้วันที่ 15 ธ.ค. นี้ ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกดีดกลับขึ้นไปยืนในแดนบวกได้ชั่วคราว


 
 
 
หากวันนี้ (9 ธ.ค.)ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาทำ New low วันต่อวันต่ำกว่า 1,558 จุดซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน ที่ 1,580-1,585 จุดต่อไป แต่ถ้าหลุดดัชนีอาจไหลลงมาทดสอบจุดต่ำสุดในรอบสัปดาห์ที่ 1,556 จุดอีกครั้ง หากดัชนียืนหรือปิดไม่ได้อาจไหลลงมาแถวๆ 1,544 จุดต่อไป

ส่วนหุ้นที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น HANA ซึ่งมีแนวรับ 31.50-31.25 บาท และมีแนวต้าน 32.75-33.00 บาท โดยระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันได้อีกครั้ง พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้ MACD ที่กำลังปรับตัวลงเริ่มดีดกลับอีกครั้ง หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 31.50-31.25 บาทซะก่อน ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ 32.75-33.00 บาทต่อไป

ส่วนหุ้น MITSIB มีแนวรับที่ 1.56-1.54 บาท มีแนวต้านที่ 1.58-1.59 , 1.62 บาท โดยระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้เป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน แต่วอลุ่มซื้อขายยังไม่เพิ่ม ขณะที่ MACD เริ่มดีดกลับเล็กน้อยแต่ยังไม่พ้นระดับศูนย์ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันแถวๆ 1.56-1.54 บาทซะก่อน มีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 1.58-1.59 บาท ก่อนผ่านขึ้นต่อได้แถวๆ 1.62 บาทต่อไป

ด้าน SUSCO นั้นมีแนวรับที่ 2.92-2.90 บาท และมีแนวต้านที่ 2.98-3.00 , 3.08 บาท โดยระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงสุดของวัน พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น โดยสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5, 10 และ 25 วันได้ อีกทั้งมีลุ้นผ่านขึ้นปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันได้อีกด้วย หากวันนี้ระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาแถวๆ 2.92-2.90 บาทยังน่าซื้อเพิ่ม ลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 2.98-3.00 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 3.08 บาทต่อไป

สำหรับบรรยากาศตลาดทองคำนั้น ในสัปดาห์ที่ผ่านเมื่อถึงเมื่อเวลา 12.00 น วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2562 โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,475.42 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,463.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงปรับขึ้นราว 11.82 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังถูกกดดันจากข่าวการเจรจาสงครามการค้าที่คืบหน้า

ราคาทองคำโลกสัปดาห์ที่ผ่านมาผันผวนมากพอสมควร โดยทำจุดต่ำสุดและสูงสุดไว้ที่ 1,453.80-1,484.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำโลกปรับลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้าจากข่าวสหรัฐและจีน อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายที่จะบรรลุการเจรจาผ่อนปรนเรื่องภาษีสงครามการค้าของทั้งสองฝ่าย ประกอบกับตัวเลขประมาณการ GDP ครั้งที่ 2 ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.1 % กดดันราคาทองคำ ก่อนที่จะปรับขึ้น แต่หลังจากมีข่าวการเจรจาสงครามการค้าอาจยืดเยื้อไปถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีหน้า ทำให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นแรงในระหว่างสัปดาห์ ไปแตะระดับ 1,484 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะย่อตัวเล็กน้อยลงมา

แม้ราคาทองคำโลกจะปรับลงแต่ยังอยู่ในกรอบ Sideway Down ซึ่งยังเป็นการพักฐาน แนวรับหลักที่ไม่ควรหลุดต่ำกว่ายังอยู่ที่ 1,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ช่วงนี้ยังเป็นโอกาสสะสมทองคำเข้าพอร์ตสำหรับคนที่สนใจ ส่วนนักเก็งกำไร ยังไม่ใช่จุดเข้าซื้อในช่วงนี้ ยังมองว่านักเก็งกำไรระยะสั้นควรซื้อตามเมื่อราคายืนเหนือ 1,490 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วเท่านั้น

สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงอ่อนค่าพอสมควรประมาณ 0.16 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 30.345 บาทต่อดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 30.185 บาทต่อดอลลาร์ โดยระหว่างสัปดาห์แกว่งตัวในกรอบ 30.185-30.365 บาทต่อดอลลาร์

คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำว่า หากอยากซื้อเก็งกำไรขาขึ้น รอให้ราคาปิดเหนือ 1,490 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้งค่อยซื้อตามจะดีกว่า แต่หากอยากทยอยสะสม แนะนำให้สะสมราคาใกล้แนวรับดังนี้ 1,470 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 1,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1,420 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ โดยเป้าหมายทำกำไรระยะสั้นจะอยู่บริเวณ 1,480-1,490 ดอลลาร์ต่อออนซ์

สำหรับนักลงทุนระยะยาวยังแนะนำถือทองคำต่อไปหรือสะสมเพิ่มเมื่อลงมาอยู่ช่วงระหว่าง 1,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือใกล้เคียง เป้าหมายปีหน้ายังอยู่บริเวณ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคายืนเหนือ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ เป้าหมายระยะยาวถัดไปจะเป็น 1,650-1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทันที

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 ธ.ค. 2562 เวลา : 08:53:26
18-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. พรุ่งนี้ (18 เม.ย. 67) ราคาน้ำมันเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ปรับขึ้น 40 สต./ลิตร

2. ตลาดหุ้นปิด (17 เม.ย.67) ลบ 29.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,366.94 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า(17 เม.ย.67) ลบ 30.34 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,366.04 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับระยะสั้นที่ระดับ 2,365 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,400 เหรียญ

5. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.55-36.80 บาท/ดอลลาร์

6. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (16 เม.ย.67) พุ่ง 24.80 เหรียญ นักลงทุนแห่ซื้อทองสินทรัพย์ปลอดภัย

7. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (16 เม.ย.67) บวก 63.86 จุด ประธานเฟดส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยสูง

8. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด มีฝนฟ้าคะนอง 10% ลมกระโชกแรงบางแห่ง

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (17 เม.ย.67) อ่อนค่าลงที่ระดับ 36.69 บาทต่อดอลลาร์

10. ทองเปิดตลาด (17 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 41,900 บาท

11. ตลาดหุ้นไทยเปิด (17 เม.ย.67) ลบ 17.71 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,378.67 จุด

12. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (11 เม.ย.67) ลบเล็กน้อย 2.43 จุด

13. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (11 เม.ย.67) พุ่งขึ้น 24.30 เหรียญ หลังดัชนี PPI ต่ำกว่าคาดหนุนเฟดลดดอกเบี้ยเร็วสุด ก.ค.67

14. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,365 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,410 เหรียญ

15. ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด มีฝนฟ้าคะนอง 10%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 18, 2024, 11:37 am