หุ้นทอง
บล.ไอร่าแนะลงทุนหุ้น Domestic Play ชูกลุ่มท่องเที่ยวที่เข้า High Season


“บล.ไอร่า”ประเมินทิศทางหุ้นไทยเดือนธ.ค. มีแนวโน้มลงต่อเหตุสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ยืดเยื้อถึงปี 63 เกาะติดการประชุมกนง.

 

 

 

คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.25% พร้อมทั้งการทำ Window Dressing ปิดงบปีนี้ แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้น Domestic Play ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยวได้รับประโยชน์ช่วง High Season ส่วนหุ้นเด่น ชู ADVANC-AP-CPF-PTG-SEAFCO-SINGER


 
 
 
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไอร่า จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนธันวาคมว่า มีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยให้กรอบดัชนีแนวรับแรก 1,546 จุด แนวรับถัดไป 1,530 จุด ส่วนแนวต้านแรก 1,578 จุด แนวต้านถัดไป 1,608 จุด

สาเหตุที่หุ้นไทยมีแนวโน้มปรับตัวลงต่อ เนื่องจาความกังวลต่อสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่คาดยังมีความไม่แน่นอน เพราะการลงนามข้อตกลง “Phase I” ที่ก่อนหน้าปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณอาจยืดเยื้อถึงพ.ย.2563 ซึ่งเป็นช่วงเลือกตั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐฯพอดี และการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 15% วงเงิน 156,000 ล้านดอลลาร์ ตามกำหนดวันที่ 15 ธันวาคม 2562 นี้

หากมีการเลื่อนออกไป คาดเป็นสัญญาณที่ดี คาดช่วยให้ข้อพิพาททางการค้าระหว่าง 2 ประเทศดีขึ้นตามลำดับ พร้อมคาดกลับมาเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่ม Global Play เช่น พลังงานและปิโตรเคมี รวมถึงหุ้นกลุ่มส่งออก เช่น อิเลคทรอนิกส์

นอกจากนี้ยังคงต้องจับตาการประชุมเฟดในช่วงวันที่ 10-11 ธันวาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการคงดอกเบี้ย หลังจากที่ลดลงมาแล้ว 0.25% เมื่อการประชุมก่อนหน้าและส่งสัญญาณไม่ปรับลงในระยะสั้น และล่าสุด Bond Yield สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดลงต่อเนื่องนับจากต้นพฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งสัญญาณลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง

ส่วนประเด็นในประเทศ คาดในระยะสั้นอาจได้รับปัจจัยกดดันบ้างจากประเด็นการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะความกังวลเสถียรภาพของรัฐบาล อาจทำให้เม็ดเงินลงทุนทั้งจากต่างประเทศ และสถาบันในประเทศ ชะลอการลงทุน

“จึงแนะนำติดตามการประชุม กนง. ในวันที่ 18 ธันวาคม นี้ ซึ่งคาดว่าอาจคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.25% พร้อมทั้งการทำ Window Dressing เพื่อปิดงบปี 2562 ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยหนุนในช่วงเดือนธันวาคมและพรบ.งบประมาณปี 2563 คาดบังคับใช้ปลายเดือนมกราคม 2563 ได้”

ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์ลงทุนโดยเน้นหุ้นกลุ่ม Domestic Play เช่น กลุ่มท่องเที่ยวที่ได้รับประโยชน์จากช่วง High Season ที่คาดต่อเนื่องถึงไตรมาส 1/2563 และหุ้นที่มีความน่าสนใจเฉพาะตัว จากผลประกอบการปี 2563 ที่เติบโตต่อเนื่อง ที่น่าสนใจและเป็นหุ้นแนะนำในเดือน ธ.ค. 2562 เช่น ADVANC, AP, CPF, PTG, SEAFCO และ SINGER เป็นต้น



 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 ธ.ค. 2562 เวลา : 14:06:53
25-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (24 เม.ย.67) บวก 3.64 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.10 จุด

2. ประกาศ กปน.: 27 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (24 เม.ย.67) บวก 3.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,360.90 จุด

4. MTS Gold คาดว่าจะมีกรอบแนวรับที่ 2,260 เหรียญ และแนวต้านที่ 2,335 เหรียญ

5. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (23 เม.ย.67) ร่วง 4.30 เหรียญ คลายความกังวลตะวันออกกลาง-จับตาเงินเฟ้อและGDPสหรัฐ

6. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (23 เม.ย.67) พุ่งขึ้น 263.71 จุด ขานรับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนแข็งแกร่งเกินคาด

7. ทั่วไทยมีฝนฟ้าคะนอง ภาคเหนือ 30% ภาคอีสาน-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่ง ตต. 20% ภาคใต้ ฝั่ง ตอ.10% กรุงเทพปริมณฑล ฝนเล็กน้อยบางแห่ง

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.80-37.05 บาท/ดอลลาร์

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (24 เม.ย.67) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 36.93 บาทต่อดอลลาร์

10. ทองเปิดตลาด (24 เม.ย. 67) ปรับขึ้น 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 40,950 บาท

11. ตลาดหุ้นไทยเปิด (24 เม.ย.67) บวก 7.26 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.72 จุด

12. ประกาศ กปน.: 25 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนกาญจนาภิเษก (ด้านตะวันตก)

13. ประกาศ กปน.: 25 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนประชาร่วมใจ

14. ตลาดหุ้นปิด (23 เม.ย.67) บวก 7.94 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,357.46 จุด

15. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (23 เม.ย.67) บวก 11.57 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.09 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 9:20 am