หุ้นทอง
ดัชนีหุ้นยังมีโอกาสฟื้นตัวหันจับหุ้น Top picks วันนี้ "AOT-CPF-INTUCH"


ดัชนีหุ้นไทย หรือ SET Index ต้องบอกว่า หลายวันที่ผ่านมานี้ ร่วงระเนระนาด ทำเอาตลาดหุ้นไทยสะบักสะบอมและลงลึกสุดหรือยัง คงเป็นเรื่องยากมากที่จะคาดเดาหรือตอบในตอนนี้ เพราะความกังวลเรื่องโรค COVID 19 มีมากขึ้น หลังการแพร่ระบาดและขยายวงกว้างไปในประเทศอื่นๆทั่วโลก

 
ส่วนประเทศไทย โรค COVID 19 ตอนนี้ก็ไม่น่าไว้วางใจ เพราะมีโอกาสยกระดับเข้าสู่เฟส 3  ซึ่งจะยิ่งกดดันศรษฐกิจให้ชะลอตัวลงอีก ขณะที่ตลาดหุ้นยังขาดแรงหนุนจาก ทั้ง Fund Flow ต่างชาติ และกองทุน LTF ที่คอยพยุงตลาดในยามที่หุ้นปรับฐานแรง
 
รวมทั้งในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆที่เน้นลงทุนระยะสั้นเกิดขึ้น เช่น การใช้บัญชี Margin, Block Trade และ Robot Trade ต่างๆ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่ตอกย้ำให้ SET Index ปรับฐานแรงเวลาเผชิญกับเรื่องร้ายๆ จะเห็นได้ว่า เมื่อวานนี้ (26ก.พ.) SET Index ดิ่งลงแรงถึง 72.69 จุด หรือ 5.05% เป็นการลงภายในวันเดียวที่มากสุดในรอบ 6 ปี 2 เดือนเลยทีเดียว ซึ่งน้อยมากที่เราจะได้เห็นอาการของตลาดแบบนี้
 
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส หรือ ASPS ประเมินว่าแม้ขณะนี้หุ้นไทยจะปรับฐานและผันผวนมากจากประเด็น COVID-19 แต่เชื่อว่ายังมีโอกาสฟื้นตัวกลับได้ จากการศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบอยู่ 2 ประเด็น คือ
 
 
 
 
 
ประเด็นแรกเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นจีน ซึ่งเป็นประเทศจุดเริ่มต้นของไวรัส COVID-19 หุ้นจีนเคยปรับฐานลงไปต่ำสุด โดยติดลบไป 10% (ตั้งแต่ต้นปี 2563 ถึงวันที่ 3 ก.พ. 63) แต่หลังจากนั้นกลับค่อยๆฟื้นตัว จนล่าสุดผลตอบแทนติดลบเพียง 2% (ytd) เท่านั้น จึงเชื่อว่าหุ้นไทยเองน่าจะซึมซับประเด็นCOVID-19 มาระดับหนึ่งแล้ว และมีโอกาสฟื้นตัวกลับได้ในระยะถัดไป
 
 
 
 
ประเด็นที่สอง เปรียบเทียบกับตลาดหุ้นไทยที่เกิดวิกฤตในอดีต เช่น วิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 2540 พบว่า  SET Index ปรับฐาน 85% ภายใน 2 ปีครึ่ง, วิกฤตซับไพร์ม ปี 2551 SET Index ปรับฐาน 56% ภายใน 5 เดือน, และวิกฤตหนี้ยุโรปบวกกับน้ำท่วมครั้งใหญ่ในไทย ปี 2554 SET Index ปรับฐาน 25% ภายใน 2 เดือนกว่า เป็นต้น
 
สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าเวลาเกิดวิกฤต SET Index ปรับฐานแรงมาก ภายในระยะเวลาสั้นๆและหลังจากเกิดวิกฤตทุกครั้ง  SET Index มักจะฟื้นตัวได้เร็ว โดยกินระยะเวลาเพียง 2 – 3 เท่าของช่วงที่เกิดวิกฤตเท่านั้น
 
โดยสรุปแล้ว ฝ่ายวิจัยฯมองว่าช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในภาวะผันผวนจากประเด็น COVID-19 แต่เชื่อว่าน่าจะฟื้นตัวได้เร็วเหมือนกับตลาดหุ้นจีน และเหมือนกับที่เคยเกิดวิกฤตครั้งอื่นๆ ในอดีต

 
 
 
 
ดังนั้นจึงแนะนำให้นักลงทุนเฝ้ารอจังหวะเพื่อเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส โดยสะสมหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งที่ปรับฐานลงแรงในช่วงที่ผ่านมา หุ้นที่ฝ่ายวิจัยฯชื่นชอบ ก็คือ CPALL, CPF, AOT และหุ้นปันผลดี INTUCH, MCS, PYLON, DIF โดยหุ้น Top picks วันนี้ เลือก AOT, CPF และ INTUCH

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 27 ก.พ. 2563 เวลา : 18:42:44
09-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (7 พ.ย.2568) ลบ 10.40 จุด ดัชนี 1,302.91 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (7 พ.ย.68) ลบ 1.36 จุดดัชนี 1,311.95 จุด

3. พยากรณ์อากาศวันนี้ (7 พ.ย.68) "พายุคัลแมกี" อ่อนกำลัง จ่อเข้าโขงเจียม อุบลฯ บ่ายวันนี้ ส่งผลฝนฟ้าคะนองในภาคอีสาน-ภาคใต้ ฝั่ง ตต. 70% ภาคกลาง -ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 60% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคเหนือ 40%

4. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (6 พ.ย.68) ลบ 1.9 ดอลลาร์ แต่แนวโน้มยังแกร่งจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (6 พ.ย.68) ร่วง 398.70 จุด กังวลฟองสบู่ AI แตก-ศก.ไม่แน่นอน

6. MTS Gold คาดราคาทองคำมีแนวรับที่ 60,600 บาท และแนวต้านที่ 61,600 บาท

7. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.25-32.50บาท/ดอลลาร์

8. ทองเปิดตลาดวันนี้ (7 พ.ย. 68) ลดลง 50 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 62,150 บาท

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (7 พ.ย.68) ลบ 4.41 จุด ดัชนี 1,308.90 จุด

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (7 พ.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.40 บาทต่อดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (6 พ.ย.2568) บวก 18.02 จุด ดัชนี 1,313.31 จุด

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (6 พ.ย.68) บวก 9.78 จุดดัชนี 1,305.07 จุด

13. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (5 พ.ย.68) บวก 225.76 จุด รับผลประกอบการ-ข้อมูลเศรษฐกิจ สดใส

14. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (5 พ.ย.68) บวก 32.4 ดอลลาร์ นักลงทุนแห่ซื้อทองเลี่ยงความเสี่ยงฟองสบู่ตลาดหุ้น

15. พยากรณ์อากาศวันนี้ (6 พ.ย.68) ภาคใต้ ฝนฟ้าคะนอง 60% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคเหนือ-ภาคอีสาน-ภาคตะวันออก 20% ภาคกลาง 10% ?พายุคัลแมกี?เคลื่อนเข้าปกคลุม จ.อุบลฯ 7 พ.ย.

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 9, 2025, 7:38 am