เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์ เงินบาทกลับมาอ่อนค่าปลายสัปดาห์ ขณะที่หุ้นไทยยังยืนเหนือ 1,600 จุด ได้อย่างแข็งแกร่ง


สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

- เงินบาทกลับมาอ่อนค่าในช่วงปลายสัปดาห์ โดยเงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ตามแรงหนุนจากสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรและหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ ยังคงเผชิญแรงกดดัน หลังจากประธานเฟดส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย แม้สถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีขึ้นจะทำให้เฟดพร้อมเริ่มลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ผ่าน QE ภายในปีนี้ก็ตาม อย่างไรก็ดีเงินบาททยอยอ่อนค่ากลับมาในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ เนื่องจากมีแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์ฯ ตามปัจจัยทางเทคนิค และเพื่อปรับโพสิชันก่อนการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ปลายสัปดาห์ 
 
- ในวันศุกร์ (3 ก.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.58 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.63 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (27 ส.ค.)
 
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (6-10 ก.ย.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.20-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ กระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ สถานการณ์โควิดและตัวเลขเงินเฟ้อเดือนส.ค. ของไทย รวมถึงผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน อัตราการหมุนเวียนของแรงงาน และข้อมูลสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ค. ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนส.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจเดือนส.ค. ของจีน อาทิ ตัวเลขการส่งออก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต และตัวเลขจีดีพี ไตรมาส 2/64 ของยูโรโซนและญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน  
 
สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย
 
 - หุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,650.33 จุด เพิ่มขึ้น 2.43% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 106,619.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.94% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.90% มาปิดที่ 526.33 จุด  
 
- หุ้นไทยปรับตัวขึ้นท่ามกลางแรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์บางส่วน (มีผลตั้งแต่ 1 ก.ย.) การส่งสัญญาณยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด สถานการณ์โควิดในประเทศซึ่งอยู่ในทิศทางทรงตัว ตลอดจนแรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยในภาพรวมปรับตัวขึ้นตามแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มพลังงานที่ได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งมีแรงหนุนจากพายุเฮอร์ริเคนไอดาและการปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในปีหน้าของกลุ่มโอเปก 
 
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (6-10 ก.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,635 และ 1,620 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,665 และ 1,680 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิดทั้งในและต่างประเทศ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนส.ค. ของไทย รวมถึงประเด็นการเมืองภายในประเทศ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนส.ค. และจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม ECB ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/64 ของยูโรโซนและญี่ปุ่น ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจเดือนส.ค. ของจีน อาทิ ดัชนีราคาผู้ผลิต และดัชนีราคาผู้บริโภค

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 ก.ย. 2564 เวลา : 12:51:58
19-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 20 พ.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนพระสุเมรุ

2. ตลาดหุ้นปิด (18 พ.ย.68) ลบ 10.03 จุด ดัชนี 1,270.04 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (18 พ.ย.68) ลบ 10.14 จุด ดัชนี 1,269.93 จุด

4. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (17 พ.ย.68) ลบ 19.7 เหรียญ เหตุดอลลาร์แข็งค่าฉุดตลาด

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (17 พ.ย.68) ร่วง 557.24 จุด ถูกกดดันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วง-จับตาผลประกอบการ Nvidia

6. พยากรณ์อากาศ (18 พ.ย.68) ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง แต่ยังคงมีฝนบางพื้นที่,ภาคอีสาน อุณหภูมิลด 3-5 องศา,ยอดดอย หนาวจัด 4 องศา,ภาคใต้ ฝน 70-80-%

7. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,010-3,990 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,060 -4,090 เหรียญ

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

9. ทองเปิดตลาดวันนี้ (18 พ.ย. 68) ร่วงลง 850 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 62,700 บาท

10. ตลาดหุ้นไทยเปิด (18 พ.ย.68) ลบ 9.20 จุด ดัชนี 1,270.87 จุด

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (18 พ.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.48 บาทต่อดอลลาร์

12. ตลาดหุ้นปิด (17 พ.ย.2568) บวก 10.81 จุด ดัชนี 1,280.07 จุด

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (17 พ.ย.68) บวก 3.64 จุด ดัชนี 1,272.90 จุด

14. MTS Gold ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,055-4,035 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,130 -4,150 เหรียญ

15. อุตุฯ เตือนประเทศไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง "ยอดดอย" หนาวจัด 7 องศา

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 19, 2025, 4:51 am