หุ้นทอง
บทความ ก.ล.ต. เรื่อง ''กองทุนสำรองเลี้ยงชีพกับการปรับตัวในช่วง COVID-19''


 ปี 2564 ได้ล่วงผ่านมากว่าครึ่งปีแล้ว เพื่อนสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund: PVD) หลายท่านอาจเริ่มหันกลับมาทบทวนการออมเงินและการลงทุนของตัวเองว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้และเข้าใกล้เป้าหมายการเก็บออมเพื่อการเกษียณอายุมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ยืดเยื้ออาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อการออมและการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไม่มากก็น้อย โดยหากพิจารณาจากข้อมูลสถิติในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 พบว่ามีจำนวนสมาชิกกองทุนลดลงจากเดิม 42,391 ราย หรือคิดเป็น 1.45% จากปีก่อนหน้า เทียบกับที่เคยเพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ 3% เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้จำนวนสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเมื่อเทียบกับแรงงานภาคเอกชนในระบบลดลงเหลือเพียง 18.5% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิด COVID-19 ซึ่งอยู่ที่ 20%

นางศิษฏศรี นาคะศิริ

ผู้อำนวยการ ฝ่ายกำกับธุรกิจออกแบบการลงทุนและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.

สมาชิกนำเงินออกจากกองทุนเพิ่มขึ้น
 
จำนวนสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ลดลงนี้เป็นผลมาจากการที่สมาชิกบางรายต้องออกจากงาน และบางรายลาออกจากกองทุนแต่ยังคงทำงานอยู่ โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 สมาชิกที่ออกจากงานได้รับเงินจากกองทุนเป็นจำนวน 27,998 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 44.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สมาชิกบางรายอาจมีความเสี่ยงจากการขาดรายได้ระหว่างที่ยังไม่สามารถหางานใหม่ได้ และอาจเลือกที่จะนำเงินก้อนที่ได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาใช้ในยามจำเป็น ซึ่งอาจส่งผลให้เงินออมเพื่อใช้ในยามเกษียณมีน้อยลงหรือหมดลงได้

สำหรับสมาชิกที่ต้องออกจากกองทุน หากยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้และยังต้องการรักษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีไว้ แนะนำให้คงเงินไว้ในกองเดิม (กรณีที่นายจ้างยังคงสวัสดิการ ไม่ได้เลิกกอง) เพื่อรอโอนย้ายไปกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพของนายจ้างใหม่ หรืออาจย้ายเงินไปยังกองทุนที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับการโอนเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพโดยเฉพาะ หรือที่เรียกกันว่า RMF for PVD เพื่อให้การลงทุนเติบโตต่อเนื่อง โดย RMF for PVD นี้มีเงื่อนไขทางภาษีเหมือนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีนโยบายการลงทุนให้เลือกหลากหลาย ซึ่งท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบริษัทจัดการลงทุนทุกราย

หากไม่พร้อมก็หยุดพัก
 
ลูกจ้างและนายจ้างที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และต้องการลดภาระค่าใช้จ่าย อาจเลือกหยุดหรือเลื่อนการส่งเงินสะสมสำหรับลูกจ้างหรือเงินสมทบสำหรับนายจ้างเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นการชั่วคราวแทนการเลิกเป็นสมาชิกหรือยกเลิกสวัสดิการไปเลย โดยกระทรวงการคลังได้ขยายระยะเวลาให้ลูกจ้างและนายจ้างสามารถหยุดหรือเลื่อนการส่งเงินเป็นการชั่วคราวได้จนถึงงวดนำส่งเงินของเดือนธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นมาตรการต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้วเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าใช้จ่ายของลูกจ้างและนายจ้างที่ยังคงได้รับผลกระทบจาก COVID-19 มาตรการดังกล่าวช่วยลดผลกระทบและช่วยให้แผนการออมการลงทุนผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของลูกจ้างเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เพราะหากนายจ้างใช้สิทธิหยุดหรือเลื่อนส่งเงินสมทบ แต่สมาชิกยังคงอยากส่งเงินสะสมเข้ากองทุนก็สามารถทำได้ เพื่อให้เกิดการออมอย่างต่อเนื่อง

สำหรับนายจ้างและลูกจ้างที่ต้องการหยุดหรือเลื่อนส่งเงิน จะต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเสียก่อน แต่หากไม่สามารถจัดประชุมได้ สามารถใช้มติของคณะกรรมการกองทุนซึ่งต้องเป็นมติเอกฉันท์ จากนั้นนายจ้างหรือคณะกรรมการกองทุนแจ้งขอหยุดหรือเลื่อนส่งเงินเข้ากองทุนต่อ ก.ล.ต. ซึ่งเป็นนายทะเบียน พร้อมเอกสารที่กำหนด ได้แก่ (1) หนังสือรับรองจากนายจ้างว่ามีปัญหาในการดำเนินกิจการเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 และมีปัญหาฐานะการเงินจริง พร้อมระบุว่าจะหยุดหรือเลื่อนส่งเงินถึงเมื่อใด ซึ่งต้องไม่เกินระยะเวลาที่ประกาศกระทรวงการคลังกำหนดไว้ และ (2) รายงานการประชุมใหญ่สมาชิกหรือรายงานการประชุมคณะกรรมการกองทุนซึ่งต้องมีรายละเอียดในลักษณะเดียวกับหนังสือรับรองของนายจ้างด้วย

ร่วมฟันฝ่าสถานการณ์ COVID-19 ไปด้วยกัน
 
ท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 และเศรษฐกิจที่ยังคงมีแนวโน้มไม่ฟื้นตัว แต่ยังมีนายจ้างที่เพิ่งจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และที่ยังคงมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นสวัสดิการให้แก่ลูกจ้างโดยไม่เลิกกอง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า นายจ้างยังคงเห็นความสำคัญของการมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อเป็นหลักประกันรองรับการเกษียณสำหรับลูกจ้าง ก.ล.ต. จึงขอเป็นกำลังใจให้นายจ้างทุกรายผ่านพ้นสถานการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกัน

ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของการออมเพื่อการเกษียณในระยะยาว ก.ล.ต. จึงยังคงเดินหน้าส่งเสริมให้เกิดการออมและการลงทุนผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ (factsheet) ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพประเภทหลายนายจ้าง (pooled fund) โดยให้บริษัทจัดการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณะชน และจัดส่งให้ ก.ล.ต. ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 16 กันยายน 2564 ทั้งนี้ ก.ล.ต. จะนำข้อมูลดังกล่าวมาจัดทำเป็นเครื่องมือเปรียบเทียบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและเปิดเผยบนเว็บไซต์ www.ThaiPVD.com เพื่อให้สมาชิก คณะกรรมการกองทุนและผู้สนใจสามารถเปรียบเทียบข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างเหมาะสมและตรงกับความต้องการอย่างแท้จริง ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะช่วยให้ลูกจ้างเข้าใกล้เป้าหมายการมีเงินออมรองรับการเกษียณอย่างเพียงพอ

พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ได้พัฒนาช่องทางการให้ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพผ่านเว็บไซต์ www.ThaiPVD.com ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลและเครื่องมือสำคัญที่เป็นประโยชน์ เช่น อินโฟกราฟิก คลิปวิดีโอ เครื่องมือคำนวณเงินที่ต้องใช้ในยามเกษียณ คู่มือการทำงานของคณะกรรมการกองทุน (toolkit) ตลอดจนเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์อีกมากมาย

สุดท้ายขอฝากถึงเพื่อนสมาชิกที่จะเกษียณปีนี้ ให้ลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดดอกออกผลต่อไปโดยอาจคงเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไว้เช่นเดิมหากยังไม่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้ หรืออาจทยอยรับเงินออกเป็นงวด ๆ ตามความต้องการและความจำเป็นในการใช้จ่ายเงินจริง ๆ เพื่อให้เงินที่อยู่ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเติบโต หากเพื่อนสมาชิกนำเงินออกไปทั้งก้อนโดยไม่นำไปลงทุนให้งอกเงยต่อ เงินก้อนดังกล่าวจะด้อยค่าลงตามกาลเวลา เนื่องจากภาวะ ‘เงินเฟ้อ’ จากการที่ราคาสินค้าและบริการปรับเพิ่มขึ้นทุกวัน ซึ่งอาจส่งผลให้สมาชิกมีเงินไม่เพียงพอไว้ใช้จ่ายหลังเกษียณ ทั้งนี้ สมาชิกสามารถแสดงความประสงค์การคงเงินหรือรับเงินเป็นงวดได้ที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัท โดยควรดำเนินการล่วงหน้าแต่เนิ่น ๆ ก่อนถึงวันเกษียณอายุ เพื่อให้การบริหารจัดการเงินในกองทุนเป็นไปอย่างราบรื่นและเตรียมใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างสบายใจ

 

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 16 ก.ย. 2564 เวลา : 18:02:40
02-07-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. พรุ่งนี้ (2 ก.ค. 68) น้ำมันเบนซิน-แก๊สโซฮอลล์ลดราคา 30 สต./ลิตร

2. ประกาศ กปน.: 3 ก.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนทางหลวงหมายเลข 345

3. ตลาดหุ้นปิด (1 ก.ค.68) บวก 20.45 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,110.01 จุด

4. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (1 ก.ค.68) บวก 2.57 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,092.13 จุด

5. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 3,300 เหรียญ และมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 3,350 เหรียญ

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (30 มิ.ย.68) บวก 275.50 จุด ขานรับสหรัฐทำข้อตกลงทางการค้ากับจีนและสหราชอาณาจักรคืบหน้า

7. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (30 มิ.ย.68) บวก 20.10 เหรียญ อานิสงส์ดอลลาร์อ่อนค่า

8. ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (1 ก.ค.68) บวก 5.35 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,094.91 จุด

9. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์

10. ทองเปิดตลาดวันนี้ (1 ก.ค.68) ปรับขึ้น 350 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 51,750 บาท

11. พยากรณ์อากาศวันนี้ (1 ก.ค.68) "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคตะวันออก" ฝนตกหนัก 70% ภาคเหนือ-ภาคอีสาน-ภาคกลาง 60% ภาคใต้ 40%

12. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (1 ก.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.41 บาทต่อดอลลาร์

13. ตลาดหุ้นปิด (30 มิ.ย.68) บวก 7.14 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,089.56 จุด

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (30 มิ.ย.68) บวก 3.19 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,085.61 จุด

15. MTS Gold คาดจะมีแนวรับที่ระดับ 3,250 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,300 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ July 2, 2025, 9:25 am