เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ศูนย์วิจัยกสิกรชี้เปิดเทอมปี 65 ผู้ปกครองใช้จ่ายเพื่อการศึกษาบุตรหลาน เพิ่มขึ้น 2.0% มูลค่า 26,900 ล้านบาท


เปิดเทอมปี 2565 ผู้ปกครองใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของบุตรหลาน เพิ่มขึ้น 2.0% หรือมีมูลค่าประมาณ 26,900 ล้านบาท

 
เปิดภาคเรียนใหม่ในปี 2565 นี้ ผู้ปกครองกังวลเรื่องภาวะค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและการใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของบุตรหลาน จากผลสำรวจ พบว่า ผู้ปกครอง 70.8% มีความกังวล/มีปัญหาด้านสภาพคล่องทางการเงินในการใช้จ่ายเพื่อการศึกษา แต่ด้วยการศึกษาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบุตรหลาน ผู้ปกครองในกลุ่มที่ประสบปัญหาสภาพคล่องจำเป็นต้องก่อหนี้เพื่อนำมาใช้จ่าย 

และเนื่องจากในปีนี้ เป็นการเปิดเรียนเต็มรูปแบบ โดยนักเรียนสามารถกลับไปเรียนที่โรงเรียนได้อีกครั้ง ซึ่งมีผลต่อค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาเพิ่มขึ้น อาทิ ชุดนักเรียน ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่ากิจกรรม เป็นต้น โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า มูลค่าการใช้จ่ายในด้านการศึกษาสำหรับบุตรหลานของผู้ปกครองในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2565 นี้ อาจเพิ่มขึ้นประมาณ 2.0% เมื่อเทียบกับผลสำรวจในช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือมีมูลค่าประมาณ 26,900 ล้านบาท

จากสถานการณ์โควิดที่ผ่อนคลาย ทำให้นักเรียนสามารถกลับไปเรียนที่โรงเรียนได้ตามปกติ (On-Site) ซึ่งจะเริ่มทยอยเปิดเรียนในวันที่ 17 พ.ค. 2565 และในช่วงเวลานี้ของทุกปี ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานในวัยเรียนจะมีภาระค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษา แต่เนื่องจากตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมา ราคาสินค้าหลายประเภทและพลังงานเร่งตัวสูงขึ้น ขณะที่การจ้างงานและรายได้ภาคครัวเรือนยังอ่อนแอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการใช้จ่ายของผู้ปกครองบางกลุ่มที่มีความอ่อนไหวต่อปัจจัยเหล่านี้
   
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้จัดทำการสำรวจมุมมองผลกระทบและการปรับตัวในการใช้จ่ายเพื่อการศึกษาเปิดเทอมใหญ่ปี 2565 ของผู้ปกครองที่มีบุตรหลานในวัยเรียน (ระดับชั้นอนุบาลจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย) ท่ามกลางภาวะค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น จากกลุ่มตัวอย่าง 500 คน ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งมีประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ ดังนี้ 
 
•เปิดเทอมใหญ่ปี 2565 ผู้ปกครองกังวลเรื่องภาวะค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น และสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด

จากผลสำรวจ พบว่า สิ่งที่ผู้ปกครองมีกังวลมากที่สุด ณ ขณะนี้ คือ ปัญหาเรื่องของราคาสินค้าและพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและการใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของบุตรหลาน และจากผลสำรวจสะท้อนว่า ผู้ปกครองกว่า 70.8% แสดงความกังวล/มีปัญหาด้านสภาพคล่องทางการเงินในการใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของบุตรหลานในการเปิดเทอมปี 2565  เนื่องจากในภาวะปัจจุบัน ผู้ปกครองบางกลุ่มยังคงเผชิญกับปัญหาหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่ตนเองหรือสมาชิกในครอบครัวยังหางานไม่ได้ ชั่วโมงการทำงานยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ ยอดขายของธุรกิจที่ลดลง มีภาระที่ต้องผ่อนชำระเงินกู้ อีกทั้งยังต้องพบเจอกับภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยกลุ่มผู้ปกครองที่มีความกังวลหรือมีปัญหาด้านสภาพคล่อง ส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย-ปานกลาง และเป็นกลุ่มที่มีภาระการผ่อนชำระสินเชื่อมากกว่า 1 บัญชี หรือเงินกู้ยืมจากแหล่งอื่น
 

 
นอกจากนี้ สิ่งที่ผู้ปกครองยังมีความกังวลอยู่มาก รองลงมา คือ เรื่องของโรคโควิด แม้ ณ ขณะนี้ นักเรียนบางส่วนจะได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว (โดยในวัยเรียนอายุ 5-11 ปี ได้รับวัคซีน 2 เข็ม คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15.5% ของนักเรียนในวัยดังกล่าว และอายุ 12-17 ปี ได้รับวัคซีน 2 เข็ม คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 75.5% ของนักเรียนในวัยดังกล่าว ข้อมูล ศบค. ณ วันที่ 7 พ.ค. 65) แต่ผู้ปกครองยังมีความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของโรคเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันยังสูง และจากผลสำรวจสะท้อนว่า ผู้ปกครองกว่า 56.8% ยังไม่มีความมั่นใจเมื่อบุตรหลานต้องกลับไปเรียนที่โรงเรียนเต็มรูปแบบ  เนื่องจากมองว่าโควิดนั้นติดต่อง่าย และอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของบุตรหลาน อย่างไรก็ดี ผู้ปกครองกว่า 43.2% มีความมั่นใจที่บุตรหลานจะได้กลับเข้าไปเรียนที่โรงเรียน (ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป) เนื่องจากบุตรหลานได้รับการฉีดวัคซีนและมองว่าทางสถานศึกษามีมาตรการที่ดีในการเฝ้าระวังการระบาดของโรคในโรงเรียน  

• การศึกษาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบุตรหลาน แม้ผู้ปกครองบางกลุ่มจะประสบกับปัญหาสภาพคล่อง แต่หาวิธีรับมือทางการเงินจากแหล่งอื่นนอกจากเงินออม

สำหรับแหล่งเงินที่ผู้ปกครองนำมาใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของบุตรหลาน โดยส่วนใหญ่จะมาจากเงินออม และมาจากแหล่งเงินอื่นๆ เช่น บัตรเครดิต ยืมญาติ/เพื่อน เป็นต้น คิดเป็นสัดส่วน 41.8% รองลงมา คือ ผู้ปกครองใช้เงินออมของตนทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วน 30.4% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด

แต่ก็มีผู้ปกครองส่วนหนึ่งที่มีเงินออมไม่เพียงพอเพื่อนำมาใช้จ่ายในการชำระค่าเทอมและซื้ออุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียน และอื่นๆ จำเป็นต้องพึ่งพาแหล่งเงินจากที่อื่น 27.8% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด เช่น ยืมญาติ / เพื่อน ใช้สินเชื่อจากสถาบันการเงินอย่างบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ผู้ปกครองบางรายพี่งโรงรับจำนำ กู้นอกระบบ และผู้ปกครองบางรายเลือกที่จะขอผ่อนชำระหรือผ่อนผันกับทางโรงเรียน 

และในภาวะดังกล่าว กลุ่มตัวอย่างกว่า 82.6% มองว่า ในช่วงเวลานี้ ทางการควรมีมาตรการเพื่อมาช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา หรือด้านอื่นๆ อาทิ  มาตรการเงินช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายและค่าเทอม มาตรการหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับการซื้อสินค้าเพื่อการศึกษา  หรือมาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อ ATK ตรวจโควิด เป็นต้น
 


มูลค่าการใช้จ่ายเพื่อการศึกษาสำหรับบุตรหลานในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2565 นี้ อาจเพิ่มขึ้น 2.0%  จากผลสำรวจเมื่อช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากการกลับไปเรียนที่โรงเรียน (On-Site) ทำให้ผู้ปกครองมีค่าใช้จ่ายซื้อเสื้อผ้า อุปกรณ์การศึกษาและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มขึ้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า มูลค่าการใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของบุตรหลานของผู้ปกครองในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2565 นี้ อาจมีมูลค่าประมาณ 26,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 2.0% เมื่อเทียบกับผลสำรวจในช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่มูลค่าการใช้จ่ายยังต่ำกว่าในช่วงผลสำรวจปี 2563 สำหรับค่าใช้จ่ายที่ปรับขึ้นในปีนี้มาจากปัจจัยเฉพาะ ดังนี้  
 

 
ค่าเทอมและค่าธรรมเนียม (คำนวณในส่วนของโรงเรียนรัฐและเอกชน ไม่รวมโรงเรียนนานาชาติ) โดยเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 0.7% จากผลสำรวจในปีที่ผ่านมา หรือมีมูลค่า 22,700 ล้านบาท แต่ยังต่ำกว่าผลสำรวจในปี 2563 (มีมูลค่าประมาณ 22,965 ล้านบาท) โดยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ที่ปรับขึ้นเป็นผลของฐาน เนื่องจากในปีการศึกษา 2565 นี้ ทางโรงเรียนเปิดเรียนแบบเต็มรูปแบบ ทำให้ในส่วนของค่าธรรมเนียม ค่าบริการและค่ากิจกรรมต่างๆ กลับมาจัดเก็บในอัตราปกติ (ในปีการศึกษา 2564 ที่ผ่านมา เนื่องจากการระบาดของโควิดทำให้เวลาส่วนใหญ่นักเรียนจะเรียนผ่านออนไลน์ และเพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง ทำให้ทางโรงเรียนได้งด/ปรับลดค่าธรรมเนียม บริการและค่ากิจกรรมต่างๆ ที่นักเรียนไม่ได้ใช้บริการ) และโรงเรียนเอกชนบางแห่งปรับราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากต้นทุนการทำธุรกิจอย่างค่าแรงบุคลากร หรือค่าสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้น 

แต่สำหรับในส่วนของค่าเทอมโรงเรียนเอกชน จากผลสำรวจ พบว่า การปรับขึ้นค่าเทอมยังทำได้จำกัด และเป็นเฉพาะแห่งซึ่งขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักเรียนของแต่ละโรงเรียน และในปีนี้ โรงเรียนเอกชนส่วนใหญ่ยังคงตรึงราคาค่าเทอม และบางแห่งยังให้ส่วนลดค่าเทอม เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง

สำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษา เช่น ค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียน รองเท้า รวมไปถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าขนม/ค่าอาหาร ค่าเดินทาง เป็นต้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน แม้ว่าในปีนี้ สินค้าบางประเภท เช่น ชุดนักเรียน ผู้ประกอบการยังคงไม่ปรับขึ้นราคา ขณะเดียวกันผู้ประกอบการมีการจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษสำหรับชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน แต่เนื่องจากเปิดเทอมใหม่ในปี 2565 นี้ นักเรียนสามารถกลับไปเรียนที่โรงเรียนได้ตามปกติ จึงต้องมีการซื้อสินค้าบางประเภทมากขึ้น เช่น ชุดนักเรียน หรือชุดทำกิจกรรม เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นผลมาจากราคาสินค้าบางประเภทได้มีการปรับขึ้นราคาไปก่อนหน้าแล้ว กอปรกับในปีนี้ทางภาครัฐยังไม่มีมาตรการช่วยเหลือผู้ปกครองอย่างปีที่ผ่านมา 

สำหรับค่าใช้จ่ายในส่วนของการเรียนกวดวิชาและเสริมทักษะ แม้นักเรียนสามารถกลับไปเรียนได้แล้ว แต่ปัจจัยความกังวลในเรื่องโควิดที่ยังมีอยู่ กอปรกับประเด็นกำลังซื้อทำให้ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ยังปรับเพิ่มขึ้นไม่มาก โดยผู้ปกครองบางรายเลือกที่จะปรับลดวิชาเรียน ขณะที่บางกลุ่มงดการเรียนพิเศษชั่วคราว เมื่อสถานการณ์โควิดและเศรษฐกิจดีขึ้นผู้ปกครองคงจะให้บุตรหลานกลับไปเรียนกวดวิชาและเสริมทักษะ

ทั้งนี้ มูลค่าการใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของผู้ปกครองในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลในช่วงเปิดเทอมปีนี้ที่เพิ่มขึ้นข้างต้น อาจไม่ได้สะท้อนว่าธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมีทิศทางที่ดี แต่เป็นผลจากการเปรียบเทียบกับฐานที่ต่ำในช่วง 1-2 ปีก่อนหน้าที่ได้รับผลกระทบมากจากการระบาดของโควิด รวมถึงผลด้านราคาและค่าครองชีพ ขณะที่ ผู้ปกครองจำเป็นต้องจัดสรรค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพื่อการศึกษาของบุตรหลาน โดยอาจพิจารณาเลือกตัดลดหรือประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก้อนอื่นๆ ควบคู่กับการหาแหล่งรายได้อื่นเข้ามาเพิ่มทดแทน
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 10 พ.ค. 2565 เวลา : 17:57:19
27-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (26 เม.ย.67) ลบ 4.33 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,359.94 จุด

2. ประกาศ กปน.: 2 พ.ค. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนวิภาวดีรังสิต

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (26 เม.ย.67) ลบ 2.25 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.02 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,310 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,350 เหรียญ

5. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (26 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 37.06 บาทต่อดอลลาร์

6. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.90-37.15 บาท/ดอลลาร์

7. ทองปิดบวก $4.10 รับดอลล์อ่อน-แรงซื้อลดความเสี่ยง

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (26 เม.ย.67) บวก 0.68 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.95 จุด

9. ดาวโจนส์ปิดร่วง 375.12 จุดหลัง GDP สหรัฐชะลอตัว - เงินเฟ้อพุ่ง

10. ทองพุ่ง! ราคาทองวันนี้ 26/4/67 ครั้งที่ 1 เพิ่มขึ้น 100 บาท ทองคำแท่งขายออกบาทละ 40,850 บาท

11. ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 43 องศาเซลเซียส ฟ้าหลัว ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง และลมกระโชกแรงตลอดช่วง

12. ตลาดหุ้นปิด (25 เม.ย.67) บวก 3.17 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.27 จุด

13. ประกาศ กปน.: 29 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนบ้านบางไผ่-บ้านหนองเพรางาย

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (25 เม.ย.67) บวก 1.72 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.82 จุด

15. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบเช่นเดิมระหว่าง 2,290-2,330 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 6:20 am