เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ วิเคราะห์ "คลายกังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย หนุนการฟื้นตัว"


 
คาด SET ได้รับ Sentiment บวก หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ ทำให้ตลาดคาดหวังถึงการชะลอเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด เป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัว โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1587 และ 1595 จุด ตามลำดับ ส่วนกรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1568 และ 1558 จุด ซึ่งหากต่ำกว่า จะกลับมาเป็นสัญญาณลบ

ประเด็นสำคัญ

• FedWatch Tool ลดคาดการณ์ Fed ขึ้น ด.บ. 0.75% ในการประชุม 1-2 พ.ย. ที่ 58.5% จากเดิม 68.1%
 
• วันนี้ติดตามการประชุม OPEC+ คาดปรับลดกำลังการผลิตมากกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วันใน พ.ย.และเป็นการลดกำลังการผลิตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2
• ธปท. ระบุไม่เข้าแทรกแซงค่าเงินบาท หวั่นซ้ำรอยปี 40 คาด GDP ปีนี้โต 3.3% ส่วนกลางปี 66 คาดตัวเลขเงินเฟ้อเข้าสู่กรอบเป้าหมายเฉลี่ย 2.6% ด้าน รมว.คลัง ย้ำประสาน ธปท. ติดตามสถานการณ์ตลาดเงินตลาดทุนใกล้ชิด 
 
• สมาคมธุรกิจเช่าซื้อคาดเกณฑ์คุม ด.บ.สินเชื่อรถยนต์ไม่เกิน 10% จยย.ไม่เกิน 23% ของ สคบ.กระทบการปล่อยสินเชื่อ-ยอดขายรถทั้งระบบ 20-30%
 
• ภาคเอกชนเตรียมรับมือ ศ.ก. ปีหน้า โดย ส.อ.ท.ระบุภาคอุตฯ ไทยเผชิญต้นทุนสูงขึ้น ส่วน ม.หอการค้ากังวลราคาพลังงานแพงกระทบกำลังซื้อหดตัว ด้านสหพัฒน์ห่วงน้ำท่วม-การเมือง กระทบกำลังซื้อที่กำลังฟื้นตัว
 
• สรท. คาดส่งออกปีนี้โต 8% กังวลเงินบาทผันผวนอาจเสียเปรียบคู่แข่ง และต้นทุนพลังงาน-วัตถุดิบระดับสูง แนะนำเร่งส่งออกช่วงเงินบาทอ่อน
 
• ธ.ไทยพาณิชย์ออกมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนลูกค้า SME ในพื้นที่น้ำท่วม ทั้งพักชำระเงินต้น-ด.บ. เพิ่มวงเงินหมุนเวียนชั่วคราว

กลยุทธ์การลงทุน
 
แม้เชื่อว่าตลาดกำลังปรับตัวเข้าสู่สมดุลใหม่ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงในระยะต่อไปได้แก่ความผิดพลาดในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่อาจมีมากขึ้นจากการ Fed Hawkishness ดังนั้น อาจต้องระมัดระวังความผันผวนในระยะสั้น กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ Selective ในหุ้นที่ยังมีความแข็งแกร่งและต้านทานการขึ้นดอกเบี้ย และการชะลอลงของเศรษฐกิจได้ แต่ยังคงต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

ล็อคเป้าลงทุน
 
Weekly Portfolio : แม้มองตลาดรับรู้ความเสี่ยงต่างๆ ไประดับนึงแล้ว แต่คาด Upside ยังจำกัด เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนจะยังถูกกดดันจากความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกถดถอยที่มีมากขึ้น ช่วงสั้นจึงเน้นเลือกลงทุนอย่างระมัดระวัง ดังนี้
 
1) หุ้น defensive ที่สามารถต้านทานความสี่ยงภายนอกและการชะลอตัวของเศรษฐกิจได้ เลือก ADVANC BDMS และ GULF (คาดได้ประโยชน์เพิ่มจากแผน PDP ใหม่)
 
2) หุ้น Domestic Consumption ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตดี เลือก CRC CPALL HMPRO
 
3) หุ้น Reopening ที่คาดได้ประโยชน์จากยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และการเปิดประเทศมากขึ้นของต่างประเทศ เลือก AOT ERW ZEN
 
ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
 
1) หุ้นเดินเรือซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากอุปทานเรือใหม่ที่เข้ามาและอุปสงค์การขนส่งสินค้าเริ่มชะลอตัวลง
 
2) หุ้นที่มีฐานลูกค้า/ตลาดส่งออกไปยังสหรัฐและยุโรป ซึ่งคาดได้รับกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อาทิ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มยานยนต์ กลุ่มยาง

Daily Focus

BCP ช่วงสั้นคาดได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น ขณะที่ 2H65 คาดกำไรปกติยังแข็งแกร่ง แรงหนุนจากค่าการตลาดที่ดีขึ้นและรับรู้ผลขาดทุนจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันที่ลดลง อีกทั้งธุรกิจ E&P จะสร้างกำไรเพิ่มขึ้นตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นและราคาน้ำมันที่แข็งแกร่ง ส่วนทั้งปี 2565 คาดมีกำไรปกติโตเด่น 132.5%YoY

KTB หุ้นเด่นสำหรับวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นและเงินเฟ้อ ซึ่ง valuation ยังน่าสนใจและมีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์น้อยกว่าธนาคารอื่นๆ อีกทั้ง 3Q65 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้น 60%YoY แข็งแกร่งสุดในกลุ่มธนาคาร แรงหนุนจาก NII สูงขึ้นและตั้งสำรองลดลง ส่วนทั้งปี 2565 คาดจะมีกำไรเติบโตเด่น 40%YoY
 

 

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 05 ต.ค. 2565 เวลา : 11:28:07
25-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (25 เม.ย.67) บวก 3.17 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.27 จุด

2. ประกาศ กปน.: 29 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนบ้านบางไผ่-บ้านหนองเพรางาย

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (25 เม.ย.67) บวก 1.72 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.82 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบเช่นเดิมระหว่าง 2,290-2,330 เหรียญ

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (24 เม.ย.67) ลบ 42.77 จุด บอนด์ยีลด์พุ่งฉุดตลาด บดบังผลประกอบการ บจ.แกร่ง

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (24 เม.ย.67) ร่วง 3.70 เหรียญ นักลงทุนคลายกังวลความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

7. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในภาคเหนือ-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่งตต. 20% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคอีสาน-ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 10%

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 37.00-37.25 บาท/ดอลลาร์

9. ทองเปิดตลาด (25 เม.ย. 67) ปรับขึ้น 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 41,300 บาท

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนึ้ (25 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 37.08 บาทต่อดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นไทยเปิด (25 เม.ย.67) ลบ 2.13 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,358.97 จุด

12. ตลาดหุ้นปิด (24 เม.ย.67) บวก 3.64 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.10 จุด

13. ประกาศ กปน.: 27 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (24 เม.ย.67) บวก 3.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,360.90 จุด

15. MTS Gold คาดว่าจะมีกรอบแนวรับที่ 2,260 เหรียญ และแนวต้านที่ 2,335 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 5:36 pm