แบงก์-นอนแบงก์
SME D Bank - ศศินทร์ เปิดดัชนีเชื่อมั่น SMEs ไตรมาส 4 พุ่ง อานิสงส์ท่องเที่ยวคึก แนะคว้าโอกาสทองรับงานจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ หนุนพลิกฟื้นธุรกิจ


SME D Bank จับมือ ศศินทร์ เผยผลสำรวจดัชนีเชื่อมั่น SMEs ไตรมาส 4/2565 และคาดการณ์อนาคต ปรับเพิ่มขึ้นชัดเจน อานิสงส์การท่องเที่ยวฟื้นตัว หนุนกำลังซื้อในประเทศขยายตัว ภายใต้ยังมีความกังวลเรื่องแนวโน้มต้นทุนธุรกิจขยับ แนะ SMEs คว้าโอกาสทองรับงานจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ SME D Bank ประกาศพร้อมหนุนเต็มกำลัง ผนึกพันธมิตร พารับแต้มต่อจาก MiT และเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ คงที่ 2 ปี ช่วยฟื้นธุรกิจได้ไม่มีสะดุด


นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank มอบหมาย นายโมกุล โปษยะพิสิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยในการแถลง “ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SMEs ต่อเศรษฐกิจและธุรกิจ ไตรมาส 4/2565 และคาดการณ์อนาคต” โดย “ศูนย์วิจัยและข้อมูล ธพว.” ร่วมกับ “ศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษา สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ว่า ภาพรวมในไตรมาส 4/2565 นั้น SMEs มีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยและธุรกิจเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวและบริการภายในประเทศฟื้นตัว ผลักดันการใช้จ่ายขยายตัวต่อเนื่อง สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานและกำไรของ SMEs ปรับตัวขึ้น เช่นเดียวกับสภาพคล่องและการลงทุนที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะ SMEs กลุ่มขนาดกลาง (Medium) มีการฟื้นตัวชัดเจน สะท้อนจากกำไรเทียบเท่าก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 แล้ว อย่างไรก็ตาม SMEs ยังคงมีความกังวลต่อภาวะต้นทุนธุรกิจที่คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูง จากปัจจัย ต้นทุนธุรกิจมีแนวโน้มสูงขึ้น ทั้งด้านพลังงาน ค่าแรงงาน และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้
 
 
ดร.มยุขพันธุ์ ไชยมั่นคง ผู้อำนวยการโครงการ ศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษา สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายเสริมว่า จากการสำรวจ SMEs จำนวน 500 ตัวอย่างทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกประเภทอุตสาหกรรม ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและธุรกิจในไตรมาส 4 อยู่ที่ระดับ 65.66 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากไตรมาสที่ 3 ซึ่งอยู่ในระดับ 56.82 จากปัจจัยบวกของมาตรการการเปิดประเทศ สนับสนุนความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและธุรกิจ สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่แนวโน้มความเชื่อมั่น 3 เดือนข้างหน้า SMEs ยังมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและธุรกิจ อยู่ที่ระดับ 66.46 โดยมีความกังวลต่อต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่ได้รับอานิสงส์ จากปริมาณการผลิต จำนวนคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น สนับสนุนผลประกอบการ และสภาพคล่องของธุรกิจเพิ่มขึ้น

 
ดร.มยุขพันธุ์ กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการ SMEs ต่อผลกระทบของค่าเงินบาทอ่อนค่า เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ พบว่า SMEs กว่า 61.80% ไม่ได้รับผลกระทบจากการอ่อนค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนกลุ่มที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นผลกระทบทางลบจากต้นทุนการนำเข้าปัจจัยการผลิตเพิ่มขึ้น ขณะที่ แนวทางในการบริหารต้นทุนทางการเงิน หลังการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสถาบันทางการเงิน SMEs ส่วนใหญ่กว่า 50.40% มีแนวทางการจัดการต้นทุนทางการเงินโดยการเจรจาต่อรองกับธนาคารเพื่อคงอัตราดอกเบี้ย และ 30% หาแหล่งเงินกู้ใหม่ เพื่อทำการ Refinance เป็นต้น

ทั้งนี้ SMEs จำนวน 85.31% ระบุว่า ได้รับผลกระทบปานกลางจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามนโยบายของภาครัฐ ส่วน 34.20% เห็นว่าการขึ้นค่าแรงก่อให้เกิดผลเชิงบวก โดยเฉพาะการช่วยทำให้พนักงานมีกำลังใจในการทำงานเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ แนวทางการปรับตัวและความช่วยเหลือที่ต้องการเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการขึ้นค่าแรง เช่น การลดต้นทุนในส่วนอื่น หรือขึ้นราคาสินค้าและบริการ โดยต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ เช่น ลดภาษีและค่าธรรมเนียม หรือขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม จะช่วยชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นได้

นอกจากนี้ ผลสำรวจชี้สาเหตุที่ SMEs ไม่เข้าร่วมการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (THAI SME-GP) ส่วนใหญ่เชื่อว่า ไม่สามารถแข่งขันด้านราคากับผู้ประกอบการรายใหญ่ได้ และคิดว่ามีการจ้างผู้ประกอบการรายเดิมอยู่แล้ว ส่งผลให้รายใหม่มีโอกาสแข่งขันได้ยาก ทำให้ไม่สนใจเข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ ต้องการให้ภาครัฐ แบ่งขนาดสัญญาให้มีขนาดเล็กลง ลดความเข้มงวดใน TOR โดยเฉพาะด้านมาตรฐานต่าง ๆ เพื่อให้ SMEs เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐได้มากขึ้น

 
นายโมกุล กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า จากผลสำรวจดังกล่าว สะท้อนถึงการฟื้นตัวของ SMEs อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม SMEs ยังคงกังวลเรื่องต้นทุนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ดังนั้น SME D Bank จึงวางแนวทางช่วยเหลือ เพื่อลดต้นทุนธุรกิจให้ SMEs ไม่ว่าจะเป็นการออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อ สนับสนุนให้ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนในต้นทุนที่สามารถบริหารจัดการได้ เช่น “สินเชื่อ 3D” วงเงินกู้สูงสุดถึง 50 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 4.5% ต่อปี ที่สำคัญคงที่สูงสุด 2 ปีแรก ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี รวมถึง เปิดรับ Refinance ช่วยให้มีแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำกว่า

ควบคู่การส่งเสริม SMEs กลุ่มดำเนินธุรกิจรับเหมา เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ มูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านบาทต่อปี สร้างโอกาสขยายตลาด เพิ่มรายได้ โดยจะจัดอบรมสัมมนาร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรเพื่อเติมความรู้ พร้อมเติมทุน “สินเชื่อเสริมสภาพคล่องผู้รับเหมา” วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท นอกจากนั้น ร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สนับสนุนให้ได้รับรองสินค้า Made in Thailand (MiT) ซึ่งจะสร้างประโยชน์เพิ่มเติมในการรับแต้มต่อพิเศษเข้าสู่การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

“จากผลสำรวจเห็นได้ชัดว่า SMEs มีความเชื่อมั่นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม SMEs ควรให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงรอบด้าน เพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นในปีหน้า โดย SME D Bank พร้อมเคียงข้าง โดยจะติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจ และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับ SMEs อย่างใกล้ชิด เพื่อจะช่วยเหลือ SMEs ได้รวดเร็ว และทันเวลา” นายโมกุล กล่าว

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 29 พ.ย. 2565 เวลา : 18:24:47
19-07-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (18 ก.ค.68) บวก 8.47 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,206.58 จุด

2. ประกาศ กปน.: 24 ก.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนราชพฤกษ์ และถนนบรมราชชนนี

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (18 ก.ค. 68) บวก 7.06 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,205.17 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,320 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,350 เหรียญ

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (17 ก.ค.68) ร่วง 13.80 เหรียญ เหตุดอลลาร์แข็งค่า-ข้อมูลเศรษฐกิจแกร่ง

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (17 ก.ค.68) บวก 229.71 จุด นักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจ-ผลประกอบการแกร่ง

7. พยากรณ์อากาศวันนี้ (18 ก.ค.68) กรุงเทพปริมณฑล ฝนตกหนัก 70% ภาคเหนือ-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก 60% ภาคอีสาน 40% ภาคใต้ 30-40%

8. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (18 ก.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.44 บาทต่อดอลลาร์

9. ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (18 ก.ค.68) บวก 0.77 จุดทดัชนีอยู่ที่ 1,198.88 จุด

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.55บาท/ดอลลาร์

11. ทองเปิดตลาดวันนี้ (18 ก.ค. 68) "คงที่" ทองรูปพรรณ ขายออก 52,050 บาท

12. ประกาศ กปน.: 23 ก.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนกาญจนาภิเษก (ด้านตะวันตก)

13. ตลาดหุ้นปิด (17 ก.ค.68) บวก 40.48 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,198.11 จุด

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (17 ก.ค.68) บวก 33.38 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,191.01 จุด

15. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบ Sideways มีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 3,320 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,355 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ July 19, 2025, 6:05 am