คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1665-1685 จุด โดยนักลงทุนรอประเด็นสำคัญสำหรับผลการประชุมเฟดคืนนี้ ซึ่งคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในอัตราลดลงเหลือ 0.25% และรอประเมินทิศทางดอกเบี้ยข้างหน้า รวมถึงมุมมองเศรษฐกิจ ด้านภาพรวมดัชนียังอยู่ในช่วงพักตัว โดยการฟื้นตัวจำกัด และยังมี downside อยู่
ประเด็นสำคัญ
ปธน.ไบเดน เตรียมลงนามคำสั่งห้าม supplier อเมริกันขายสินค้าทุกชนิดให้หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง
EIA ระบุอุปสงค์น้ำมันดิบสหรัฐ พ.ย.เพิ่ม 1.78 แสนบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 20.59 ล้านบาร์เรล/วัน สูงสุดนับตั้งแต่ ส.ค. 65
IMF คง GDP ไทยปีนี้คาด +3.7%YoY ปีหน้า +3.6%YoY ขณะที่เพิ่ม GDP โลกปีนี้เป็น +2.9%YoY จากก่อนหน้าที่คาด +2.7%YoY
ธปท.ระบุ ศก.โดยรวมโตต่อเนื่องจากภาคบริการขยายตัวตามจำนวน นทท.ต่างชาติ จับตาต้นทุนหนุนสินค้าพุ่ง ศก. โลกทรุดฉุดส่งออก
สศอ.ระบุ MPI ธ.ค. -8.19%YoY หดตัวมากสุดในรอบ 28 เดือน ขณะที่ MPI ปี 65 ขยายตัวเฉลี่ย 0.62% ส่วน MPI ม.ค. 66 คาดหดตัวต่อเนื่อง
ส.อ.ท.คาดค่า Ft งวด พ.ค.-ส.ค. 66 จะต่ำกว่างวดปัจจุบัน (ม.ค.-เม.ย. 66) ที่ 5.33 บ./หน่วย ขณะที่ภาคเอกชนตั้งเป้าให้ต่ำกว่า 5 บ.
ครม.อนุมัติปรับขึ้นค่าแรง 3 สาขา 17 อาชีพ ตามมาตรฐานฝีมือวันละ 465-715 บาท
SPRC ได้รับการอนุมัติจาก ผถห. เข้าซื้อธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของเชฟรอนในไทย คาด 1Q67 ดีลดำเนินการแล้วเสร็จ
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET ยังอยู่ในช่วงพักตัวและมี Upside จำกัด จากแนวโน้มผลประกอบการ 4Q65 ของ real sector ที่คาดจะออกมาอ่อนแอ อีกทั้งตลาดหุ้นไทยมี Valuation ตึงตัวและขาดปัจจัยหนุนใหม่ ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนจึงยังแนะนำ “Selective Buy”
Weekly Portfolio : ภายใต้ภาวะตลาดหุ้นที่มอง SET ยังมี Upside จำกัด จากแนวโน้มผลประกอบการ 4Q65 ของ real sector ที่คาดจะออกมาอ่อนแอ และมี Valuation ตึงตัว จึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยเน้นรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ไม่ไล่ราคา ดังนี้
1) หุ้นที่คาดได้รับอานิสงส์เม็ดเงินสะพัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจากการเข้าใกล้สู่ช่วงการเลือกตั้งของไทย เลือก BEC CENTEL CPN MAJOR
2) หุ้นที่คาดผลประกอบการ 4Q65-1Q66 มีแนวโน้มเติบโตดี เลือก ERW MINT BLA BEM CPALL CRC MAKRO
3) กรณีเฟดปรับขึ้น 50bps และ/หรือ ส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินตึงตัวมากกว่าตลาดคาด มองตลาดจะปรับตัวลง แนะนำกลับมาเล่นหุ้น defensive เลือก ADVANC BDMS BEM GULF (หากเฟดขึ้น 25bps และ dot plot ไม่เปลี่ยน จะเป็นไปตามตลาดคาด มองจะไม่มีผลต่อตลาด)
ช่วงสั้นยังแนะนำเลี่ยงการลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงกดดันผลประกอบการ ดังนี้
1) หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากบาทแข็งค่าและผลประกอบการหุ้นเทคโนโลยีของโลกมีแนวโน้มอ่อนแอต่อใน 4Q65
2) หุ้นขุดเหมือง แม้ช่วงสั้นจะได้รับ sentiment บวกจากการปรับขึ้นของ Bitcoin แต่ยังต่ำกว่าจุดคุ้มทุน เนื่องจากมีต้นทุนไฟฟ้าที่สูง ทำให้ผลประกอบการมีความเสี่ยงขาดทุน
Daily focus
CPALL 4Q65 คาดกำไรจะปรับตัวดีขึ้น YoY จากธุรกิจ CVS ที่ดีขึ้นตามยอดขายที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งมากขึ้น และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก MAKRO ที่เพิ่มขึ้นจากการผนึกกำลังทางธุรกิจและการรีแบรนด์ร้านค้าของ Lotus’s
BDMS 4Q65 คาดกำไรปกติที่ 2.9 พันลบ. เพิ่มขึ้น 9%YoY หนุนทั้งปี 65 คาดกำไรจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงกว่าก่อนเกิดโควิด-19 ที่ 1.2 หมื่นลบ. และจะเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 12% YoY ในปี 66 โดยจะเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มการแพทย์
ข่าวเด่น