เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
คลังเผย ภาวะเศรษฐกิจการคลังภูมิภาคประจำเดือนเมษายน 2566


 

เศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนเมษายน 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยว ทั้งจากคนไทยและต่างประเทศในทุกภูมิภาค รายได้เกษตรกรที่ขยายตัวดี โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตก อีกทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกภูมิภาค


นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนเมษายน 2566 ว่า “เศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนเมษายน 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยว ทั้งจากคนไทยและต่างประเทศในทุกภูมิภาค รายได้เกษตรกรที่ขยายตัวดี โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตก อีกทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกภูมิภาค” โดยมีรายละเอียดดังนี้

เศรษฐกิจภาคตะวันตกในเดือนเมษายน 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดี โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจ ด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 32.6 ต่อปี แม้ว่าจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ชะลอตัวร้อยละ -6.4 ต่อปี แต่ขยายตัวร้อยละ 7.5 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หลังขจัดผลทางฤดูกาล เช่นเดียวกับจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 7.1 ต่อปี อีกทั้งรายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 19.2 ต่อปี และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 53.5 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 52.3 สำหรับเครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 22.2 ต่อปี ขณะที่จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการชะลอตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 99.0 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 103.9 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวร้อยละ 37.7 ต่อปี และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวร้อยละ 38.4 ต่อปี

เศรษฐกิจภาคเหนือในเดือนเมษายน 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชนในส่วนของเงินทุนโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการ และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดี โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 0.9 ต่อปี เช่นเดียวกับจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 21.2 และ 0.6 ต่อปี ตามลำดับ อีกทั้งรายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 32.4 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 56.3 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 55.3 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว อย่างไรก็ตามเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการมูลค่า 1,702.1 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 1,326.5 ต่อปี จากการลงทุนในการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล ในจังหวัดพิจิตร เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 92.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 91.4 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวน ผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวร้อยละ 27.7 ต่อปี และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวร้อยละ 49.6 ต่อปี

เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเดือนเมษายน 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าทั่วไป รายได้ของเกษตรกรที่ปรับตัวดีขึ้น และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดี โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และรายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 2.5 ต่อปี และ 22.1 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่และจำนวนรถจักรยานยนต์ จดทะเบียนใหม่ชะลอตัว ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 58.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 57.0 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการชะลอตัว สำหรับด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรมสะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 98.9 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 103.9 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวร้อยละ 39.9 ต่อปี และรายได้ จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวร้อยละ 52.5 ต่อปี

เศรษฐกิจภาคใต้ในเดือนเมษายน 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าทั่วไป และการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวได้ดี ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจ ด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 17.8 ต่อปี จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 7.4 ต่อปี แต่ชะลอตัวร้อยละ -1.7 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หลังขจัดผลทางฤดูกาล เช่นเดียวกับจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว สำหรับรายได้เกษตรกรชะลอตัว ร้อยละ -29.6 ต่อปี แต่ขยายตัวร้อยละ 4.6 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 51.5 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 50.3 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ และเงินทุนของโรงงาน ที่เริ่มประกอบกิจการชะลอตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 86.9 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 85.6 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวน ผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวร้อยละ 126.7 ต่อปี และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวร้อยละ 188.9 ต่อปี

เศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑล ในเดือนเมษายน 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทน และการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวได้ดี ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 0.04 และ 5.7 ต่อปี ตามลำดับ เช่นเดียวกับรายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 8.2 ต่อปี แต่ชะลอตัวร้อยละ -2.6 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หลังขจัดผลทางฤดูกาล สำหรับการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ที่ชะลอตัว ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค อยู่ที่ระดับ 54.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 53.1 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ชะลอตัวร้อยละ -13.7 ต่อปี แต่ขยายตัวร้อยละ 11.4 เมื่อเทียบกับ เดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล เช่นเดียวกับจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ชะลอตัวร้อยละ -15.5 ต่อปี แต่ขยายตัวร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ขณะที่เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการมูลค่า 4,743.7 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 244.5 ต่อปี จากการลงทุนในโรงงานคัดแยกสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นของเสียอันตราย ในจังหวัดปทุมธานี เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 99.0 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 103.9 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวร้อยละ 68.6 ต่อปี และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวร้อยละ 223.3 ต่อปี

เศรษฐกิจภาคตะวันออกในเดือนเมษายน 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากรายได้เกษตรกรที่ปรับตัวดีขึ้น และการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวได้ดี ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากรายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 22.9 ต่อปี ขณะที่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว สำหรับจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 13.7 ต่อปี แต่ชะลอตัวร้อยละ -3.1 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค อยู่ที่ระดับ 57.8 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 56.5 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการชะลอตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 91.8 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 94.4 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวร้อยละ 87.0 ต่อปี และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวร้อยละ 158.4 ต่อปี

เศรษฐกิจภาคกลางในเดือนเมษายน 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากรายได้เกษตรกรที่ปรับตัวดีขึ้น และการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวได้ดี ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน ทั้งการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว แม้ว่าจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 7.6 ต่อปี แต่ชะลอตัวร้อยละ -5.4 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม รายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 16.2 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 53.5 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 52.3 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ชะลอตัว อย่างไรก็ตามเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการมูลค่า 504.2 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 153.6 ต่อปี จากการลงทุนในโรงงานผลิตชิ้นส่วนปั๊มโลหะขึ้นรูปสินค้าสำหรับอุตสาหกรรม ในจังหวัดสระบุรี เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 99.0 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 103.9 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวร้อยละ 18.4 ต่อปี และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวร้อยละ 32.4 ต่อปี

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 29 พ.ค. 2566 เวลา : 11:35:07
27-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (26 เม.ย.67) ลบ 4.33 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,359.94 จุด

2. ประกาศ กปน.: 2 พ.ค. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนวิภาวดีรังสิต

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (26 เม.ย.67) ลบ 2.25 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.02 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,310 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,350 เหรียญ

5. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (26 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 37.06 บาทต่อดอลลาร์

6. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.90-37.15 บาท/ดอลลาร์

7. ทองปิดบวก $4.10 รับดอลล์อ่อน-แรงซื้อลดความเสี่ยง

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (26 เม.ย.67) บวก 0.68 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.95 จุด

9. ดาวโจนส์ปิดร่วง 375.12 จุดหลัง GDP สหรัฐชะลอตัว - เงินเฟ้อพุ่ง

10. ทองพุ่ง! ราคาทองวันนี้ 26/4/67 ครั้งที่ 1 เพิ่มขึ้น 100 บาท ทองคำแท่งขายออกบาทละ 40,850 บาท

11. ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 43 องศาเซลเซียส ฟ้าหลัว ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง และลมกระโชกแรงตลอดช่วง

12. ตลาดหุ้นปิด (25 เม.ย.67) บวก 3.17 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.27 จุด

13. ประกาศ กปน.: 29 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนบ้านบางไผ่-บ้านหนองเพรางาย

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (25 เม.ย.67) บวก 1.72 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.82 จุด

15. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบเช่นเดิมระหว่าง 2,290-2,330 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 9:15 am