ผู้ว่าการ ธปท.ชี้ “ส่งออก” ไทยเหนื่อยแน่ โตไม่ถึง 7% ตามเป้า หากต้องการให้ถึงเป้าหมายต้องเข็นกันสุดแรง ให้มูลค่าต่อเดือนถึง 2.2 หมื่นล้านเหรียญ ขณะที่ ก.ค. มูลค่าแค่ 1.9 หมื่นล้านเหรียญ ระบุหากมูลค่าการส่งออกทำได้เพียง 2 หมื่นล้านเหรียญต่อเดือน เชื่อส่งออกโตแค่ 4% เผยหนทางข้างหน้าของ ศก.โลกลำบาก ยืนยันพร้อมใช้” มาตรการดอกเบี้ย-อัตราแลกเปลี่ยน” ประคองเศรษฐกิจไทย หากเกิดผลกระทบโลกชะลอตัวรุนแรง

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวยอมรับว่า ปีนี้การส่งออกของไทยอาจเติบโตไม่ถึงระดับ 7% ตามที่ประมาณการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ช่วงระยะเวลาที่เหลือคงต้องเร่งการส่งออกให้ขยายตัวให้ได้ตามเป้าหมาย โดยปริมาณการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีจะต้องมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าระดับ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน แต่ในเดือนกรกฎาคม 2555 มีมูลค่าส่งออกเพียง 1.9 หมื่นล้านดอลลาสหรัฐ

“การที่ส่งออกในช่วงครึ่งปีแรกขยายตัวติดลบ 2% เป็นผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสถานการณ์ในยุโรปที่เกิดภาวะชะงักงัน ซึ่งส่งผลต่อการส่งออกตรงไปยุโรปให้ขยายตัวติดลบมากถึง 12% ขณะที่สหรัฐขยายตัวได้เพียง 1-2% เท่านั้น ฉะนั้นหากพูดถึงตอนนี้มีความเสี่ยงมากขึ้นที่การส่งออกของไทยจะเติบโตได้ไม่ถึง 7% ทั้งนี้ถ้าปริมาณการส่งออกปรับลดเหลือแค่ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน การส่งออกไทยอาจขยายตัวได้เพียง 4% เท่านั้น"ผู้ว่าการ ธปท.ระบุ

นายประสารกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว แต่การที่เศรษฐกิจเอเชียยังได้รับอานิสงส์จากจีน จึงเชื่อว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจทั้งปีนี้น่าจะอยู่ที่ระดับ 2-3% ทั้งนี้หากผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกมีความรุนแรงมากขึ้น ธปท.ก็มีเครื่องมือในการเตรียมพร้อมรับมือ อาทิ เครื่องมือในด้านดอกเบี้ย ซึ่งที่ผ่านมา ธปท.พยายามรักษารูม (ช่องว่าง) เครื่องมืออัตราดอกเบี้ยไว้ให้อยู่ในระดับเหมาะสม หากจำเป็นต้องใช้ ก็สามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ทันที รวมถึง ธปท.ยังมีเครื่องมืออัตราแลกเปลี่ยนที่มีความยืดหยุ่น อีกทั้งยังมีทุนสำรองระหว่างประเทศในจำนวนที่มากพอ และมีมาตรการกำกับสถาบันการเงินที่เข้มงวดเพื่อให้สถาบันการเงินมีความเข้มแข็งและสามารถรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้ ดังนั้นเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ในระดับ 5.7% ตามคาด