นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวยอมรับว่า การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในช่วง 2 วันที่ผ่านมาปรับตัวแข็งค่าขึ้นรวดเร็วมากเกินไป

ซึ่ง ธปท.ได้รายงานถึงสถานการณ์เงินทุนเคลื่อนย้ายของต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทย รวมถึงภาวะเศรษฐกิจให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ รับทราบว่าเงินทุนจากต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้มากกว่าตลาดหุ้น โดยเฉพาะลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว โดยยืนยันว่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นไม่ได้เกิดจากเงินทุนไหลเข้ามาจำนวนมาก แต่เกิดจากมีการซื้อขายตราสารหนี้ในระดับอัตราแลกเปลี่ยนที่ผู้ซื้อผู้ขายกำหนดไว้ในราคาที่พึงพอใจ

ทั้งนี้ สาเหตุที่ต่างชาติยังเข้ามาลงทุนในไทยนั้น เนื่องจากไทยมีข่าวเศรษฐกิจไทยค่อนไปในทางที่ดี นักลงทุนมองว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง โดยสัดส่วนนักลงทุนต่างชาติถือครองตราสารหนี้ไทยมูลค่าคงค้าง 8 แสนกว่าล้านบาท คิดเป็น 12-15% ของทั้งตราสารหนี้ทั้งหมดที่มี 4-5 ล้านล้านบาท ก็ยังไม่เห็นว่าผิดปกติ เพราะที่ผ่านมาสัดส่วนนักลงทุนต่างชาติถือครองตราสารหนี้ไทยค่อนข้างต่ำที่ระดับ 5-6%ซึ่งถือว่ายังต่ำเมื่อเทียบกับมาเลเซีย 30%กว่า อินโดนีเซีย 40%

"ความจริงปริมาณเม็ดเงินต่างชาติที่เข้ามาลงทุนไม่ได้มากเป็นพิเศษ และเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้มากกว่าตลาดหุ้น โดยเฉพาะเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวมากกว่าโฉบไปโฉบมา” นายประสารกล่าว