ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์วิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันช่วง 6-10 พ.ค. "ราคาน้ำมันดิบผันผวน จับตาการประชุม G7 และการฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจของอิตาลี"



“ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบจะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบเดิมจากสัปดาห์ก่อน โดยเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 98-106 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 90-98 เหรียญฯ”
 
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน (6 พ.ค. – 10 พ.ค. 56)
ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้คาดว่าจะผันผวนตลอดสัปดาห์ โดยประเด็นการประชุมกลุ่มประเทศ G7 และ การดำเนินงานของรัฐบาลชุดใหม่ของอิตาลีกำลังเป็นที่จับตามองของตลาด นอกจากนี้ เหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศแถบตะวันออกกลางยังสร้างความกังวลต่อนักลงทุนในเรื่องความไม่แน่นอนของอุปทานน้ำมันดิบโลกอีกด้วย
 
ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
•    ติดตามผลการประชุมกลุ่มประเทศ G7 ในวันที่ 10 ถึง 11 พฤษภาคมนี้ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่าจะมีมุมมองต่อทิศทางเศรษฐกิจและนโยบายเศรษฐกิจโลกอย่างไร หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และยุโรปชะลอตัวต่อเนื่องจากช่วงต้นปี
•    รัฐบาลชุดใหม่ของอิตาลีจะสามารถนำพาประเทศให้ผ่านวิกฤตเศรษฐกิจได้หรือไม่ จากการที่นายเอ็นริโก เลตตา สมาชิกพรรค Democratic Party (PD) ได้รับคะแนนเสียงข้างมากในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมได้สำเร็จ และจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ ที่มีหนี้สาธารณะกว่า 2 ล้านล้านยูโรและมีอัตราการว่างงานสูงถึง 11.6%  โดยเบื้องต้นรัฐบาลจะมีการทบทวนปรับลดการจัดเก็บภาษีซึ่งถือได้ว่าเป็นรายได้หลักของรัฐบาลชุดก่อนหน้า
•    ติดตามเหตุการณ์ความไม่สงบในซีเรีย หลังจากมีแถลงการณ์จากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯและรัฐบาลอังกฤษถึงการใช้อาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรียกับกลุ่มผู้ต่อต้าน ซึ่งถือว่าการกระทำดังกล่าวขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายการทำสงคราม อย่างไรก็ตามนายบารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังไม่มีมาตรการตอบโต้ใดๆต่อเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากต้องการให้มีการยืนยันที่ชัดเจนจากสหประชาชาติก่อน
•    เหตุการณ์ความรุนแรงในอิรักที่ยังคงบานปลายเป็นสงครามกลางเมืองระหว่างรัฐบาลและกลุ่มผู้ประท้วงชาวสุหนี่ โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีมาลิกิ ซึ่งเป็นชาวชีอะห์ลาออกจากตำแหน่ง จนมีเหตุปะทะกันในวันอังคารที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 200 ศพ รวมถึงเหตุการณ์ความรุนแรงในไนจีเรีย ระหว่างกลุ่มมุสลิมติดอาวุธหัวรุนแรงกับกองกำลังของรัฐบาลในชุมชนทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยกลุ่มหัวรุนแรงดังกล่าวต้องการให้สถาปนาระบอบการปกครองแบบอิสลามขึ้นในไนจีเรีย
•    ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีภาคบริการ(HSBC) ยอดค้าปลีก ดุลการค้า และดัชนีราคาผู้บริโภคจีน รวมไปถึงยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (29 เม.ย. –3 พ.ค. 56)
ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้น โดยเวสต์เท็กซัสปรับเพิ่มขึ้น 2.61 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาปิดที่ 95.61 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล เบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 1.03 เหรียญฯ ปิดที่ 104.19 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล และดูไบลดลง 1.14 เหรียญฯ มาอยู่ที่ 99.75 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปรับเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯยืนยันจะคงนโยบายการซื้อคืนพันธบัตร และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป นอกจากนี้นักลงทุนยังคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 0.5 เปอร์เซ็นต์ จาก 0.75 เปอร์เซ็นต์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยูโรโซนที่ยังอยู่ในภาวะถดถอย อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากอุปทานส่วนเกินในตลาด ภายหลังการรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯปรับเพิ่มขึ้น 6.7 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 395.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับสูงสุดในรอบ 82 ปี มีส่วนกดดันราคาในช่วงกลางสัปดาห์


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 07 พ.ค. 2556 เวลา : 13:26:35

20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 12:01 am