ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน : ดอลลาร์สหรัฐอ่อน หนุนราคาน้ำมันดิบขึ้น


เวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือน มิ.ย. ปรับขึ้น 0.69 เหรียญฯ  ปิดที่ 96.71 เหรียญฯ ส่วนเบรนท์ส่งมอบเดือน ก.ค. ปรับขึ้น 0.16 ปิดที่ 104.80 เหรียญฯ
 
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นจากแรงหนุนของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ  อย่างไรก็ตามนักลงทุนจับตารายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในวันพุธนี้ ซึ่งคาดว่าอาจมีมาตรการถอน QE ออกจากระบบ หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีขึ้นในอนาคต
 
+ ความกังวลต่อความไม่สงบในตะวันออกกลางยังเป็นตัวช่วยหนุนราคาน้ำมัน จากความกังวลต่ออุปทานจากฝั่งผู้ผลิต หลังสงครามการเมืองเพื่อขับไล่ประธานาธิบดีในซีเรียยังคงรุนแรงต่อเนื่อง โดยตลาดจับตาว่าประเทศตะวันตกจะเข้ามาช่วยจัดการปัญหานี้เมื่อไร
 
- อย่างไรก็ตามราคาน้ำมับดิบถูกกดดัดจากรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มองว่าปริมาณความต้องการใช้น้ำมันของโลกจะปรับลดลง ขณะที่อุปทานน้ำมันดิบของโลกปรับตัวสูงขึ้น
 
+ นักวิเคราะห์รอยเตอร์ คาดปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ที่จะประกาศกลางสัปดาห์นี้ว่าจะปรับลดลง 450,000 บาร์เรล จากการคาดว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ จะปรับเพิ่มขึ้น 0.3% จากสัปดาห์ก่อนหน้า ประกอบกับการนำเข้าน้ำมันดิบที่คาดว่าจะปรับลดลง สำหรับปริมาณน้ำเบนซินคงคลังและปริมาณน้ำดีเซลคงคลังจะปรับตัวสูงขึ้น 100,000 บาร์เรล และ 600,000 บาร์เรล ตามลำดับ
 
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงในตลาดเอเซีย แต่อย่างไรก็ตลาดคาดว่าซาอุดิอาระเบียจะมีการนำเข้าประมาณ 4.5 ล้านบาร์เรลในเดือน มิ.ย. ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 45% จากปีก่อนในช่วงเวลาเดียวกัน
 
ราคาน้ำมันมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ได้รับแรงหนุนจากความต้องการนำเข้าที่เพิ่มมากขึ้นจากซาอุดิอาระเบีย หลังเกิดอุบัติเหตุที่ท่อส่งน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้โรงกลั่นที่ซาอุดิอาระเบียขนาด 400,000 บาร์เรลต่อวันต้องปรับลดกำลังการกลั่นลงชั่วคราว
 
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ คาดว่าเบรนท์จะอยู่ที่กรอบ 100 - 108 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล  ส่วนเวสต์เท็กซัสที่ 90 -98 เหรียญ ติดตามการประชุมสหภาพยุโรปและรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันพุธนี้ 
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันอังคาร: ดัชนีราคาผู้บริโภคอังกฤษ
วันพุธ: การประชุมสหภาพยุโรป ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ
วันพฤหัส: ดัชนีภาคการผลิตและบริการยูโรโซน เยอรมนีและฝรั่งเศส จีดีพีไตรมาส 1ของอังกฤษ (revised) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน ยอดขายบ้านใหม่ ดัชนีราคาบ้าน ดัชนีภาคการผลิตและยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ
ดัชนีภาคการผลิตจีนโดย HSBC
วันศุกร์: ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ จีดีพีไตรมาส 1 ของเยอรมนี (Final) ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจ (GfK) และดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจ (Ifo) ของเยอรมนี
 
  - ติดตามการประชุมสภาพยุโรปว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นหรือไม่หลังตัวเลขจีดีไตรมาส 1/56 ของกลุ่มยูโรโซนออกมาหดตัว 0.2% ซึ่งถือเป็นการหดตัว6 ไตรมาสติดต่อกันและตัวเลขการว่างงานในหลายประเทศก็ยังคงอยู่ในระดับสูง แม้จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจาก 0.75% ไปที่ระดับ 0.5% นอกจากนี้จะมีการหารือในเรื่องนโยบายด้านภาษี โดยเน้นที่การจัดเก็บและการป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษี
 
- ติดรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าคณะกรรมการแต่ละคนจะมีมุมมองต่อทิศทางและการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจอย่างไร หลังการประชุมหลายครั้งที่ผ่านมาที่การถกเถียงกันในเรื่องระยะเวลาที่เหมาะสมในการยกเลิกนโยบาย QE
 
- จับตาสถานการณ์ความไม่สงบในซีเรียที่ยังมีการปะทะกันระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับกลุ่มผู้ต่อต้านอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีความพยายามจากมหาอำนาจหลายประเทศ อาทิ สหรัฐฯ อังกฤษและรัสเซีย เป็นต้น ในการกดดันให้ประธานาธิบดีซีเรียลงจากตำแหน่ง
 
- ติดตามความรุนแรงรายวันในอิรัก ทั้งในเมืองหลวงแบกแดดและเขตปกครองตนเองชาวเคิร์ดทางตอนเหนือที่มีปัญหาข้อพิพาทในการแบ่งผลประโยชน์ด้านน้ำมันกับรัฐบาลอิรักส่งผลให้ท่อส่งน้ำมันดิบได้รับผลกระทบจนต้องหยุดดำเนินการ
 

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 21 พ.ค. 2556 เวลา : 11:34:30

20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 9:10 am