ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน : ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ ทรุด ฉุดราคาเบรนท์ร่วงจากระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 เดือน


น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบ ต.ค. ลดลง 0.31 เหรียญฯ ปิดที่ 110.73 เหรียญฯ ส่วนเวสต์เท็กซัสส่งมอบ ต.ค. ปรับลดลง 0.50 เหรียญฯ ปิดที่ 105.92 เหรียญฯ
 
- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงหลังตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ เดือน ก.ค. ปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปี โดยลดลง 7.3% ทั้งนี้เป็นผลมาจากยอดการสั่งซื้อชิ้นส่วนเครื่องบิน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ทางหทารลดลง
 
- นอกจากนี้ ราคาน้ำมันเบนซินล่วงหน้าสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงหลังหน่วยผลิตน้ำมันเบนซิน (52,000 บาร์เรลตต่อวัน) ของโรงกลั่น  Monroe (185,000 บาร์เรลต่อวัน) กลับมาดำเนินการได้ตามปกติหลังหยุดซ่อมบำรุงกะทันหันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงด้วย
 
+ อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงไม่มากนักเนื่องจากตลาดเกิดความกังวลหลังสหรัฐฯ ส่งสัญญาณความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทางทหารเข้าแทรกแซงความไม่สงบในซีเรีย หลังกลุ่มกบฎกล่าวหาว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ประธานาธิบดีบาซาร์ อัล-อัสซาดยังคงปฏิเสธว่ารัฐบาลเป็นผู้ใช้อาวุธเคมี
 
+ ด้านชาติตะวันตกหลายชาติมองว่าการเข้าตรวจสอบการใช้อาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรียโดยองค์การสหประชาชาติอาจจะดำเนินการช้าไปและหลักฐานต่างๆ อาจถูกทำลายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม รัสเซียได้ออกมาแสดงความกังวลต่อการที่สหรัฐฯ จะเข้าแทรกแซงซีเรีย พร้อมเตือนว่าการตัดสินใจที่วู่วามอาจทำให้เกิดความผิดพลาดและทำให้ความรุนแรงบานปลายไปยังประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลาง
 
+ บริษัทส่งออกน้ำมัน Somo ของอิรักวางแผนปรับลดการส่งออกน้ำมันดิบจาก Kirkuk ลงจากเดิมทีส่งออกที่ระดับ 244,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ส.ค. สู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายปีที่ 110,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.ย. โดยให้เหตุผลว่าท่อส่งน้ำมันเกิดการรั่วบ่อยจากการถูกโจมตีบริเวณชายแดน
 
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ทั้งนี้เนื่องจากมีโรงกลั่นในอินเดียหยุดดำเนินการกะทันหันเนื่องจากเหตุการณ์ไฟไหม้ อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้น้ำมันในภูมิภาคยังคงเบาบาง
 
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังแรงซื้อในภูมิภาคปรับตัวลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอินโดนีเซียและเวียดนาม ขณะที่อินเดียยังคงส่งออกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังความต้องการใช้ในประเทศลดลงเนื่องจากเป็นฤดูมรสุม
 
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบที่เดิมโดยเวสต์เท็กซัสที่กรอบ 104-110 เหรียญฯ ส่วนเบรนท์ เคลื่อนไหวในกรอบ 106 - 112 เหรียญฯ วันนี้ติดตามดัชนีราคาบ้าน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเยอรมนี
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันพุธ: ดัชนีการทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายสหรัฐฯ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนี
วันพฤหัส: จีดีพี 2/2556 ยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอังกฤษ รวมถึงดัชนีผู้บริโภคและอัตราการว่างงานเยอรมนี
วันศุกร์: อัตราว่างงาน และดัชนีผู้บริโภคยูโรโซน รวมถึงอัตราการว่างงานอิตาลี
 
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
-  ติดตามการประกาศจีพีดีสหรัฐฯในไตรมาสที่ 2 ปี 2556 เนื่องจากจีดีพีสหรัฐฯจะบ่งบอกถึงแนวโน้มการใช้น้ำมันดิบของประเทศได้ ภายหลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
-  ความรุนแรงในอียิปต์ที่ยังคงไร้ทางออก ล่าสุดซาอุดิอาระเบียได้ประกาศให้การสนับสนุนทางการเงินแก่อียิปต์ หากสหรัฐฯและยุโรปเพิกถอนการสนับสนุนอียิปต์เนื่องจากเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น
- การประท้วงค่าแรงในลิเบียซึ่งเป็นผลให้ปริมาณน้ำมันดิบกว่า 1 ล้านบาร์เรลหายไปจากตลาด เนื่องจากท่าขนส่งน้ำมันดิบหลายท่าถูกปิด
-  การกลับมาดำเนินการอีกครั้งของแหล่งน้ำมันดิบบริเวณทะเลเหนือ หลังผ่านพ้นช่วงปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ประจำปี


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 27 ส.ค. 2556 เวลา : 13:53:28

27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 12:15 pm