ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ตลาดหุ้นสหรัฐ-ยุโรป ปิดตลาดเมื่อคืนร่วง ดาวโจนส์ ลบ 159 จุด เหตุนักลงทุนกังวลสหรัฐผิดนัดชำระหนี้


 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 ตุลาคม 2556) ดัชนีเฉลี่ยดาวโจนส์ปิดที่ 14,776.53 จุด ร่วงลง 159.71 จุด หรือ -1.07% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,655.45 จุด ลดลง 20.67 จุด หรือ -1.23% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,694.83 จุด ลดลง 75.55 จุด หรือ -2.00%
 
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ตุลาคม 2556) ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.8% ปิดที่ 306.84 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,555.89 จุด ลดลง 35.69 จุด หรือ -0.42% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,133.53 จุด ลดลง 32.05 จุด หรือ -0.77% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,365.83 จุด ลดลง 71.45 จุด หรือ -1.11%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้นยุโรปยังคงปิดลบต่อเนื่อง หลังจากนายจอห์น โบเนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลีกันกล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรจะไม่ผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลและจะไม่เพิ่มเพดานหนี้จนกว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะหันหน้ามาเจรจากัน ซึ่งส่งผลให้ตลาดวิตกกังวลว่ารัฐบาลกลางสหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ โดยสภาคองเกรสจำเป็นจะต้องผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานการกู้ยืมให้กับรัฐบาลกลางภายในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ มิฉะนั้นรัฐบาลกลางสหรัฐจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ และจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลงอย่างหนัก
 
อย่างไรก็ตาม เครดิต สวิส รีเสิร์ชเชื่อว่ามีโอกาสต่ำที่ความขัดแย้งในสภาคองเกรสจะกินเวลานาน เนื่องจากผลสำรวจความคิดเห็นของสหรัฐแสดงให้เห็นว่ารีพับลิกันกำลังถูกตำหนิอย่างหนักสำหรับการชัตดาวน์ ขณะที่เดโมแครตได้เสียงข้างมากเพิ่มขึ้นในวุฒิสภาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทำให้พรรคมีความชอบธรรมทางการเมือง
 
นอกจากนี้ ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจก็ดีกว่าช่วงที่เกิดความขัดแย้งด้านงบประมาณในเดือนส.ค.2554 อย่างมาก เนื่องจากฐานะทางการคลังของสหรัฐมีความแข็งแกร่งกว่า โดยในขณะนี้สหรัฐมียอดขาดดุลที่ 4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เมื่อเทียบกับ 10% ในช่วง 2 ปีก่อน ขณะที่การขยายตัวของจีดีพีทั่วโลกก็กำลังปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี
 
นักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทเอกชน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าวิกฤตการณ์ด้านการคลังของสหรัฐอาจจะบดบังผลประกอบการที่สดใสของภาคเอกชน โดยในสัปดาห์นี้บริษัทที่จะรายงานผลประกอบการได้แก่ อัลโค อิงค์, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และเวลส์ ฟาร์โก


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 ต.ค. 2556 เวลา : 08:52:24

25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 7:05 pm