ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
YLG ชี้การแก้ไขปัญหาการคลังของสหรัฐกดดันราคาทองคำ


 

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 14 ตุลาคม 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,269.28-1,278.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV13 อยู่ที่ 19,010 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 120 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,130 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVV13 อยู่ที่ 717 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 717 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.58 น.ของวันที่ 14/10/13)
แนวโน้มวันที่ 15 ตุลาคม 2556   
      
คำสั่งขายที่มีขนาดใหญ่ผิดปกติในสัญญาล่วงหน้าในตลาดนิวยอร์คกดดันราคาทองคำต่างประเทศและสร้างมุมมองเชิงลบต่อทิศทางราคาทองคำ ทั้งนี้ราคาทองคำดิ่งลงอย่างรุนแรงในเวลา 19.42 น. ของวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย โดบบริษัท ซีเอ็มอี กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดล่วงหน้ารายใหญ่ที่สุดของโลก ระงับการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าทองคำเป็นเวลาราว 10 วินาทีด้วยระบบ Stop Logic เพื่อสกัดกั้นความเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงเกินไปของราคาทองคำ โดยราคาทองดิ่งลงเกือบ 30 ดอลลาร์ โดยมีวอลุ่มการซื้อขายเกือบ 20,000 สัญญา ซึ่งราคาทรุดลงถึง 1.8% ในช่วงแรก สู่ระดับ 1,262.14 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2013

ทั้งนี้  ราคาทองคำดิ่งลงสวนทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับสูงขึ้น โดยเม็ดเงินในตลาดทุนไหลออกจากตลาดทองคำเข้าสู่ตลาดหุ้น หลังมองว่ามีโอกาสที่ทำเนียบขาว และสภาคองเกรสจะบรรลุข้อตกลงกันได้ ขณะที่วุฒิสภาพยายามจะมีการลงมติในการเพิ่มเพดานหนี้รัฐบาลกลางจนถึงเดือนมกราคม 2015 ทางด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา และผู้นำพรรครีพับลิกัน กำลังเจรจากันเพื่อหาทางยุติภาวะชะงักงันด้านการคลังเพื่อให้มีการเปิด หน่วยงานรัฐบาล และเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ ทั้งนี้ เหลือเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ก่อนที่จะถึงวันที่ 17 ตุลาคม ซึ่งเป็นเส้นตาย ทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรมีกำหนดเปิดการประชุมแม้จะเป็นวันหยุดราชการของสหรัฐเนื่องในวันโคลัมบัส เดย์ก็ตาม ซึ่งตอกย้ำ ถึงความเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาการคลังของสหรัฐ ยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคำ โดยยังเน้นกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้นและทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคาทองคำ โดยบริเวณ 1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นแนวต้านหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือโซนดังกล่าวได้มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นทดสอบแนวต้านด้านบน แต่หากไม่สามารถยืนได้ราคาก็มีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,260-1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์
      
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,260 หรือ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,282 หรือ 1,292 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
                 ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ        1,260 (18,660บาท)       1,250 (18,510บาท)        1,235 (18,290บาท) 
แนวต้าน      1,282 (19,020บาท)       1,292 (19,130บาท)        1,307 (19,360บาท)    

           GOLD FUTURES (GFV13)
แนวรับ        1,260 (18,780บาท)       1,250 (18,630บาท)        1,235 (18,410บาท) 
แนวต้าน      1,282 (19,110บาท)       1,292 (19,250บาท)        1,307 (19,480บาท)    

SILVER FUTURES (SVV13)
         แนวรับ            20.90 (703 บาท)          20.55 (692 บาท)             20.20 (681 บาท)   
แนวต้าน          21.75 (730 บาท)          22.05 (739 บาท)             22.50 (753 บาท)            

 

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 14 ต.ค. 2556 เวลา : 18:51:07

24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 12:01 am