ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บมจ.ไทยออยล์ชี้น้ำมันราคาพุ่ง จากน้ำมันคงคลังลดเกินคาดการณ์


 

 

 

"ราคาน้ำมันพุ่ง เหตุสต๊อกน้ำมันลดฮวบ ท่อขนส่งน้ำมันจากคุชชิ่งเตรียมเปิดใช้"

เบรนท์ส่งมอบ ม.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 1.17 เหรียญฯ ปิดที่ 112.62 เหรียญฯ ขณะที่เวสต์เท็กซัสเดือน ม.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 2.22 เหรียญฯ มาอยู่ที่ 94.06 เหรียญฯ 
 
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯรายงานโดยสำนักงานพลังงานสากล(API)ที่ปรับตัวลดลงถึง 12.40 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ปรับลดลง 1.25 ล้านบาร์เรล เนื่องจากโรงกลั่นในสหรัฐฯได้ทยอยกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง อย่างไรก็ดี ปริมาณน้ำมันกลุ่มดีเซลสหรัฐฯปรับเพิ่มขึ้น 0.54 ล้านบาร์เรล
 
+ ท่อขนส่งน้ำมันดิบของบริษัท TransCanada ซึ่งมีกำลังการขนส่งที่ 0.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งจะขนส่งน้ำมันจาก Cushing Oklahoma ไปยัง Port Arthur, Texas มีกำหนดดำเนินการในวันที่ 3 ม.ค. 2557นี้ ซึ่งจะมีผลให้อุปทานส่วนเกินบริเวณจุดส่งมอบ Cushing Oklahoma ปรับลดลง
 
+ เหตุการณ์ความรุนแรงในลิเบียยังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้หลุมน้ำมันและท่าขนส่งน้ำมันของประเทศไม่สามารถดำเนินการได้ตามปกติ เป็นเหตุให้ล่าสุดลิเบียสามารถส่งออกน้ำมันได้เพียง 0.13 ล้านบสร์เรลต่อวัน
 
 - อย่างไรก็ดี อิหร่านและอิรัคได้ออกมาเผยถึงแผนการการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบจากปัจจุบัน 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ดี คาดว่าประเทศทั้งสองจะยังไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตให้ถึงจุดดังกล่าวในช่วงสั้น เนื่องจากกลุ่มประเทศโอเปกจำเป็นต้องรักษาระดับการผลิตให้อยู่ราว 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อคงระดับราคาน้ำมันให้อยู่ในเกณฑ์ที่กลุ่มประเทศพอใจ
 
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์จากปากีสถาน
 
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าทางราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากยังไม่มีโอกาสในการส่งน้ำมันดีเซลไปขายทางฝั่งตะวันตก ถึงแม้ว่าจะมีอุปสงค์เพิ่มเติมเข้ามาจากอินโดนีเซีย เวียดนาม และแอฟริกาใต้
 
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 90-98 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 106 -112 เหรียญฯ ติดตามการประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันโอเปกในวันที่ 4 ธ.ค. และการประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันที่ 5 ธ.ค. นี้ รวมถึงจับตาตัวเลขดัชนีภาคการบริการสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และจีน การจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ  รวมไปถึงยอดค้าปลีกและจีดีพี 3/2556 (Revised) สหภาพยุโรป
 
 ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันพฤหัส: ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน และจีดีพีไตรมาส 3/2556 (Prelim) ของสหรัฐฯ 
วันศุกร์: ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ
 
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
- การประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันโอเปกในวันที่ 4 ธ.ค. นี้ คาดว่าที่ประชุมจะมีการหารือถึงผลกระทบของปริมาณน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้ รวมถึงน้ำมันดิบของอิหร่านที่กำลังจะกลับมาในตลาดอีกครั้งหลังการเจรจานิวเคลียร์สิ้นสุดลง
- การประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันที่ 5 ธ.ค. นี้ ว่าจะมีมุมมองต่อภาพรวมและนโยบายทางเศรษฐกิจยุโรปอย่างไร ภายหลังจากธนาคารกลางยุโรปตัดสินใจการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงลงแตะระดับต่ำที่ 0.25%
- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นลดลง หลังโรงกลั่นหลายแห่งเริ่มกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง รวมถึง ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงมากกว่าคาดจนส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มสูงขึ้นมาก
- เหตุการณ์ความไม่สงบในลิเบียที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะสิ้นสุดลง และทำให้การผลิตน้ำมันดิบลิเบียลดลงต่อเนื่องจาก 450,000 ในเดือน ต.ค.มาอยู่ที่ 250,000 ในเดือน พ.ย. ล่าสุดประธานาธิบดีลิเบียแถลงว่าการที่ประเทศไม่สามารถส่งออกน้ำมันได้ตามปกติทำให้รายได้ของประเทศหายไปแล้วกว่า 20% 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 04 ธ.ค. 2556 เวลา : 10:51:26

25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 9:14 pm