ออสสิริส ฟิวเจอร์ส วิเคราะห์ราคาทองคำประจำวันที่  26 ธันวาคม 2556 ยังเป็นขาลง

Gold Futures        
 

ทางออสสิริสมองว่า ราคาทองคำยังมีแนวโน้มหลักเป็นขาลงอยู่ แต่อาจจะการรีบาวด์ขึ้นระยะสั้นๆได้ต่อ การลงทุนสถานะซื้อ/ถือสถานะซื้อ ยังคงทำต่อไปได้เช่นเคย ในคืนนี้จะมีการประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 ธ.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งเรามองว่าตัวเลขดังกล่าวอาจจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ$/oz 345,000 ราย ซึ่งอาจส่งผลลบกับราคาทองคำ แต่ต้องไม่ลืมว่า แรงซื้อคืนหากราคาต่ำกว่า1200 $/oz ยังคงมีอยู่ ดังนั้นเราจึงยังมองว่าแม้ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลง แต่ราคาทองคำก็จะยังยืนเหนือ 1200 $/oz ต่อไปทั้งนี้การลงทุนฝั่งซื้อนั้น เรามองจุดตัดขาดทุนที่ 1198/1195 $/oz โดยเรามองเป้าหมายทางเทคนิคระยะสั้นๆไว้ที่แนวต้าน 1210/1215 $/oz

Trading ($/oz)
 

กรอบ 1180.5 - 1225
แนวต้าน 1205 1210 1215 1225
แนวรับ 1200 1195 1190 1185

Strategy

ไม่มีสถานะ..
Intraday : “Spot ยังยืนได้เหนือ 1200 / ถือซื้อต่อ ถึงเป้าแล้วรีบตัดกาไร”
- ถือซื้อ / ตัดกำไรตามแนวต้าน 1215/1225
- มือเปล่า รับความผันผวนได้/ย่อลงไม่หลุด 1195 - อยู่ฝั่งซื้อต่อได้ Cut loss 1195
 

SET50 Index Futures     
 

ทางออสิสิริสยังคงมองว่า SET50 ยังอยู่ในแนวโน้มขำลงต่อ ทั้งนี้การปรับลดขนาด QE ของFED จะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดบ้านเราและส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนต่อไป (เช้านี้ 26 ธ.ค. อยู่ที่ 32.73บาท/ดอลล์ล่าสหรัฐ) ทั้งนี้ราคาที่ปรับตัวรีบาวด์ขึ้นมาเมื่อวานนี้ เกิดจากแรงซื้อของนลท.ต่างชาติ ที่เริ่มมองว่าตลาดหุ้นเมืองไทย อาจซึมซับข่าวร้ายไว้หมดแล้ว ซึ่งเกิดแนวซื้อเข้ามาทั้งนี้ก่อนหน้านี้ นลท.ต่างชาติ เป็นฝั่งที่ขายออกมาโดยตลอดเรามองแนวต้านที่สำคัญของวันนี้ไว้ที่ 910/915 ซึ่งหำกรำคำทะลุขึ้นมาได้ ก็อาจส่งผลให้ราคาเกิดการรรีบาวด์ได้สั้นๆ โดยมีเป้าหมายที่ 920/925

Trading SET50 Index (pt.)

กรอบ 880 - 925
แนวต้าน 910 915 920 925
แนวรับ 905 900 895 880

Strategy
 

ไม่มีสถานะ...
Intraday: “มีลุ้นรีบาวด์สั้น / เสี่ยงซื้อสวนเทรนได้เล็กน้อย”
- ถือขาย / ตัดกำไรออกก่อน หลุด 895 ค่อยขายซ้ำ
- มือเปล่า-ชาวสวน / เสี่ยงซื้อลุ้นรีบาวด์ต่อ Cut loss 905
การส่งออกทอง เหล็ก และรถยนต์ เป็นสาเหตุหลักของการหดตัวในเดือนพฤศจิกายน โดยการส่งออกทองและเหล็กหดตัวอย่างรุนแรงถึง 63.2%YOY และ 54.5%YOY ตามลำดับ โดยการส่งออกเหล็กที่หดตัวรุนแรงนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากฐานที่สูงในปีก่อนหน้าจากการส่งออกไปยังประเทศนอร์เวย์ซึ่งไม่ใช่ตลาดส่งออกหลักของเหล็กไทย โดยหากไม่รวมนอร์เวย์ การส่งออกเหล็กจะหดตัวประมาณ 17%YOY ขณะที่การส่งออกรถยนต์ไปยัง 2 ตลาดหลักอันได้แก่ออสเตรเลียและอินโดนีเซียยังคงหดตัว โดยเฉพาะอินโดนีเซียซึ่งหดตัวราว 40%YOY อย่างไรก็ดีการส่งออกสินค้าหลักที่เคยเป็นปัญหาในช่วงก่อนหน้าอย่างคอมพิวเตอร์และยางพาราปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยในเดือนพฤศจิกายนการส่งออกคอมพิวเตอร์ขยายตัวได้ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ขณะที่ยางพาราขยายตัวได้เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน   

การ€นำเข้ายังคงหดตัว การนำเข้าหดตัวเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากฐานที่สูงจากการเร่งนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ในช่วงปลายปีก่อนหน้า โดยการนำเข้ารถยนต์และส่วนประกอบหดตัวถึง 30.7%YOY นอกจากนี้ การนำเข้าเครื่องจักรยังคงมีมูลค่าในระดับต่ำและหดตัวในอัตราที่ค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนที่ลดลงตามอุปสงค์ในประเทศที่ยังเปราะบาง และการส่งออกที่อยู่ในภาวะอ่อนแอ 

ดุลการค้าขาดดุล 557 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่หากไม่รวมทอง ดุลการค้าจะเกินดุลประมาณ 115 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 

Implication

EIC มองการส่งออกจะฟื้นตัวได้ในปีหน้า แม้ว่าการส่งออกในช่วงปลายปีจะหดตัวอย่างต่อเนื่อง และมีมูลค่าอยู่ในระดับต่ำจนอาจทำให้การส่งออกในปี 2013 มีโอกาสสูงที่จะไม่ขยายตัว แต่การส่งออกในปี 2014 น่าจะปรับตัวดีขึ้นตามแนวโน้มของเศรษฐกิจในกลุ่ม G3 (สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และยุโรป) โดยการส่งออกในสามสินค้าหลักของไทยอันได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์และส่วนประกอบ และเครื่องใช้ไฟฟ้า น่าจะขยายตัวได้ในระดับที่ดี