เบรนท์ปรับลดสวนทางกับ WTI จากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ลดลงกว่าที่คาด
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงหลังจากที่การบริโภคน้ำมันของจีนในเดือนม.ค.และก.พ.ปรับตัวลดลง 3.1% จากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 9.98 ล้านบาร์เรลต่อวัน สอดคล้องกับตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาต่ำกว่าที่คาด โดยการเติบโตของยอดค้าปลีกจีนในเดือนม.ค.และก.พ. อยู่ที่ 11.8 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 13.5% ในขณะที่ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนปรับเพิ่มที่ 8.6% ต่ำกว่าที่คาดว่าจะปรับเพิ่ม 9.5% และตัวเลขการลงทุนสินทรัยพ์ถาวรของจีน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.9% ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 19.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวที่ต่ำที่สุดในรอบ 11 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลในเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจรายใหญ่เป็นอันดับสองของโลก อย่างไรก็ตามนักลงทุนมองว่า จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดอาจทำให้รัฐบาลจีนน่าจะผ่อนปรนนโยบายรัดเข็มขัดในเร็ววันนี้
- อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ปรับตัวดีขึ้น โดยยอดค้าปลีกสหรัฐฯเดือนก.พ.ปรับเพิ่มขึ้น 0.3% จากที่คาดไว้ 0.2% ในขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานในสหรัฐฯปรับตัวลดลง 9,000 มาอยู่ที่ 315,000 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังประสบกับสภาพอากาศหนาวเย็นในช่วงต้นปี
- สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกยังคงตึงเครียด หลังรัสเซียประกาศเริ่มการซ้อมรบครั้งใหม่บริเวณพรมแดนยูเครน โดยรัสเซียได้ส่งกำลังทหารเข้าไป 8,500 นายพร้อมทั้งอาวุธหนัก ในขณะที่เขตปกครองไครเมียของยูเครนเริ่มลงคะแนนเสียงสำหรับการทำประชามติแยกดินแดนที่จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์นี้ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีแองเกลา เมอร์เคิล ของเยอรมนีและสหรัฐฯได้กล่าวเตือนรัสเซียด้วยว่าอียูจะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรมากขึ้น หากรัสเซียยังไม่หยุดการแบ่งแยกดินแดนในยูเครน ทั้งนี้ความขัดแย้งดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อการส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียมายังยุโรปได้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงเล็กน้อยสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ จากการที่โรงกลั่นน้ำมันเอกชน Reliance industries Ltd. ส่งออกน้ำมันมาทางตลาดสิงค์โปร์ในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นจากเดือนก.พ.มากกว่าสองเท่า อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันเบนซินคาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการจากเวียดนามที่จะมีการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นที่ Dung Quat ในเดือนพ.ค.ถึง ก.ค.
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานที่ล้นเหลือในภูมิภาค ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดว่าราคาน้ำมันดีเซลในช่วงไตรมาสสองจะปรับตัวดีขึ้น จากอุปทานที่ปรับลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดีเซลในตลาดปรับลดลง
ทิศทางราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 96 - 104 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 106-112 เหรียญฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามองสัปดาห์นี้
- ท่าทีของประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรปต่อการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยล่าสุดสหภาพยุโรปย้ำว่ามาตรการคว่ำบาตรจะเริ่มใช้ในวันจันทร์หน้า หากการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนไม่มีความคืบหน้า โดยการคว่ำบาตรครั้งนี้จะเน้นเรื่องการงดการออกวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวและทำการอายัดทรัพย์สินชาวรัสเซีย
- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังความต้องการใช้น้ำมันดิบน้อยลง เนื่องจากโรงกลั่นหลายแห่งเตรียมเข้าสู่การปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น นอกจากนี้ โรงกลั่นหลายแห่งในยุโรป เอเชีย รวมถึงตะวันออกกลาง ก็เตรียมเข้าสู่ฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในช่วงไตรมาสที่ 2 เช่นกัน
- จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 17-18 มี.ค. นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าทางธนาคารกลางฯ น่าจะยังคงดำเนินนโยบายปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ลงต่อเนื่อง เพราะมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในลิเบียที่มีแนวโน้มกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่ง El Sharara กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ดี การผลิตยังคงอยู่ที่ระดับสูงกว่า 200,000 บาร์เรลต่อวัน เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตาม
วันศุกร์ ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ - ก.พ.
วันจันทร์ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ - มี.ค.
ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมรัฐนิวยอร์ค - มี.ค.
วันอังคาร ดัชนีราคาผู้บริโภค - มี.ค.
ยอดขอสร้างบ้านใหม่ - ก.พ.
วันพุธ -
วันพฤหัสฯ ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมฟิลาเดลเฟีย- มี.ค.
ยอดขายบ้านมือสอง - ก.พ.
วันศุกร์ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหภาพยุโรป - มี.ค.
ข่าวเด่น