ราคาน้ำมันพุ่ง เหตุตลาดหวั่นเกิดความรุนแรงก่อนการลงประชามติในไครเมีย
+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งเกินกว่า 1 เหรียญฯ หลังนักลงทุนหวั่นวิตกว่าอาจเกิดความรุนแรงขึ้นระหว่างรัสเซียกับยูเครน ในช่วงการลงประชามติขอให้รัฐไครเมียกลับมาเป็นของรัสเซียอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ ท่ามกลางการคัดค้านของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป รวมถึงรัฐบาลยูเครนที่ประกาศจะไม่ยอมรับผลการลงประชามติครั้งนี้ นอกจากนี้ สหภาพยุโรปยังประกาศเตรียมพร้อมออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมในวันจันทร์อีกด้วย
+ บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียเผยการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่ง El Sharara ทางตะวันตกที่เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นมาสู่ระดับ 214,000 บาร์เรลต่อวัน ต้องถูกจำกัดอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากมีกลุ่มผู้ประท้วงกลับมาปิดท่าเรืออีกครั้ง ส่งผลให้ล่าสุดกำลังผลิตน้ำมันดิบโดยรวมของประเทศยังคงอยู่ที่ระดับ 250,000 บาร์เรลต่อวัน
+ รายงานสถานการณ์น้ำมันประจำเดือน ก.พ. ของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) มีการปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบโลกปี 2557 ขึ้น 50,000 บาร์เรลต่อวัน มาขยายตัวที่ 1.35 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยมองว่าเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้นในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปหนุนความต้องการใช้น้ำมัน
- การส่งออกน้ำมันดิบของอิรักเดือน ก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2522 ที่ 3.62 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังสภาพอากาศในแถบอิรักที่ดีขึ้นทำให้การส่งออกทางเรือสะดวกขึ้น ขณะที่การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของการส่งออกทางตอนใต้ของอิรักที่แล้วเสร็จในเดือน ก.พ. ทำให้มีการส่งออกจากทางใต้เพิ่มขึ้น
- นอกจากนี้ การส่งออกน้ำมันของอิหร่านก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกันมาอยู่ที่ระดับ 1.41 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.พ. หลังการผ่อนปรมาตรการคว่ำบาตรชั่วคราวจากชาติตะวันตกมีผลตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ แม้ว่าปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่สิงคโปร์จะปรับลดลง แต่ยังคงถือว่าอยู่ในระดับสูงเนื่องจากมีการส่งออกมาจากอินเดีย อย่างไรก็ดี คาดว่าการส่งออกจากอินเดียอาจปรับลดลงเพราะโรงกลั่นหลายแห่งเตรียมเก็บสต๊อกไว้ใช้ในช่วงที่จะมีการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้เพื่อทำความร้อนในยุโรปและเอเชียปรับลดลง ขณะที่การส่งออกจากซาอุดิอาระเบียและอินเดียยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การส่งออกของญี่ปุ่นมีแนวโน้มลดลงเนื่องจากญี่ปุ่นเตรียมเก็บสต๊อกก่อนเข้าฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น
ทิศทางราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 96 - 104 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 106-112 เหรียญฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามองสัปดาห์นี้
- ท่าทีของประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรปต่อการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยล่าสุดสหภาพยุโรปย้ำว่ามาตรการคว่ำบาตรจะเริ่มใช้ในวันจันทร์นี้ หากการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนไม่มีความคืบหน้า โดยการคว่ำบาตรครั้งนี้จะเน้นเรื่องการงดการออกวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวและทำการอายัดทรัพย์สินชาวรัสเซีย ซึ่งอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจรัสเซียในระยะยาว
- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังความต้องการใช้น้ำมันดิบน้อยลง เนื่องจากโรงกลั่นหลายแห่งเตรียมเข้าสู่การปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น นอกจากนี้ โรงกลั่นหลายแห่งในยุโรป เอเชีย รวมถึงตะวันออกกลาง ก็เตรียมเข้าสู่ฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในช่วงไตรมาสที่ 2 เช่นกัน
- อิหร่านและชาติตะวันตกจะเจรจาร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 18 มี.ค. นี้ เพื่อหารือต่อเรื่องการลดมาตรการคว่ำบาตร หลังล่าสุดการส่งออกอิหร่านกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
- จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 18-19 มี.ค. นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าทางธนาคารกลางฯ น่าจะยังคงดำเนินนโยบายปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ลงต่อเนื่อง เพราะมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
- จับตาปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในลิเบียที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง แม้การผลิตน้ำมันดิบจากแหล่ง El Sharara กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง แต่กการประท้วงที่ยังไม่สิ้นสุดยังคงกดดันให้การผลิตของประเทศยังคงอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 250,000 บาร์เรลต่อวัน เท่านั้น
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตาม
วันจันทร์ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ - มี.ค.
ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมรัฐนิวยอร์ค - มี.ค.
วันอังคาร ดัชนีราคาผู้บริโภค - มี.ค.
ยอดขอสร้างบ้านใหม่ - ก.พ.
วันพุธ -
วันพฤหัสฯ ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมฟิลาเดลเฟีย- มี.ค.
ยอดขายบ้านมือสอง - ก.พ.
วันศุกร์ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหภาพยุโรป - มี.ค.
ข่าวเด่น