(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.59 น. ของวันที่ 17/07/14)

แนวโน้มวันที่ 18 กรกฎาคม 2557
ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐแข็งแกร่งขึ้นในไตรมาส 2 และ ตัวเลขกิจกรรมภาคการผลิตของรัฐนิวยอร์คที่พุ่งขึ้น ส่งผลให้นักเศรษฐศาสตร์ยังคงมีความเชื่อมั่นว่า ภาคอุตสาหกรรมมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมต่อไป ตัวเลขเศรษฐกิจในเชิงบวกได้ลดความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่นทองคำลง แต่กลับไปช่วยหนุนแรงซื้อของตลาดหุ้นสหรัฐ หรือ สินทรัพย์เสี่ยงจนดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ในอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าเงินแข็งค่าขึ้นเช่นกัน ยิ่งทำให้ทองคำถูกลดความน่าสนใจในการลงทุนลง ประกอบกับ รายงาน Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งบอกถึงภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐ และอัพเดทข้อมูลราว 2 สัปดาห์ก่อนการประชุมกำหนดนโยบายของเฟดในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 29-30 กรกฎาคม นี้ ยืนยันภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐยังคงขยายตัวต่อไปในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคและการผลิตเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ยิ่งสร้างแรงขายเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ราคาจะปรับตัวฟื้นขึ้นมาบ้างก็ แต่คำเตือนของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้เตือนว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเกินคาด ถ้าหากตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเติบโตในอัตราที่รวดเร็วกว่าที่ผู้กำหนดนโยบายคาดการณ์กันไว้ ได้ทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำลงเมื่อราคาขยับขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับใกล้ 0 % นับตั้งแต่เดือน ธันาวคม 2008 เป็นต้นมาและต้องยอมรับว่าราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นในขณะที่อัตราดอกเบี้ยทรงตัวในระดับต่ำ แนะนำว่านักลงทุนจำเป็นต้องติดตามทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐอย่างใกล้ชิด เพราะกระแสข่าวที่เข้ามาส่งผลต่อราคาทองคำอย่างชัดเจน
       
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบและคาดว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway โดยความผันผวนของราคาและการแกว่งตัวของราคาอาจลดลงจากช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,292 หรือ 1,290 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาอาจจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,313 หรือ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน ซึ่งนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนเพื่อควบคุมความเสี่ยง

             ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ        1,290 (19,610บาท)       1,282 (19,490บาท)          1,273 (19,350บาท)  
แนวต้าน      1,313 (19,970บาท)       1,320 (20,070บาท)          1,333 (20,270บาท)     

           GOLD FUTURES (GFQ14)
แนวรับ        1,290 (19,780บาท)       1,282 (19,660บาท)          1,273 (19,520บาท)  
แนวต้าน      1,313 (20,130บาท)       1,320 (20,240บาท)          1,333 (20,440บาท)     

SILVER FUTURES (SVQ14)
         แนวรับ             20.45 (665 บาท)          20.20 (657 บาท)           20.05 (652 บาท)    
แนวต้าน           21.00 (682 บาท)          21.20 (689 บาท)           21.55 (700 บาท)