เบรกกิ้งนิวส์ : ไทยออยล์วิเคราะห์ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดมากกว่าคาด และเหตุการณ์ในตะวันออกกลางตึงเครียดมากขึ้น

- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 ก.ย. 57 ปรับลดลงมากถึง 4.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 386,000 บาร์เรล หลังในสัปดาห์ก่อนมีการนำเข้าน้ำมันดิบลดลงกว่า 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ประกอบกับปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับลดลง 414,000 บาร์เรล สวนทางกับการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล อย่างไรก็ตามปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบ คุชชิ่ง โอคลาโฮมา ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 191,000 บาร์เรล และน้ำมันดีเซลคงคลังปรับเพิ่มขึ้น 823,000 บาร์เรล

+ สำหรับราคาน้ำมันดิบเบรนท์กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังเหตุการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น หลังมีรายงานว่ากลุ่ม IS ยังคงเดินหน้าบุกเข้าโจมตีซีเรียและอิรักอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะมีการโจมตีทางกาศของสหรัฐฯ ประกอบกับการคาดการณ์ของ IMF ว่าเศรษฐกิจจีนในปีหน้าจะยังคงเติบโตในระดับที่สูงกว่า 7%

- อย่างไรก็ตามตลาดยังคงมีปัจจัยกดดันจากปริมาณอุปทานในตลาดที่ค่อนข้างมากจากลิเบีย อิรัก และไนจีเรีย โดยล่าสุดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 900,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากแหล่ง El Sharara กลับมาดำเนินการตามปกติพร้อมกับโรงกลั่น Zawiya ที่ปิดซ่อมบำรุงไปหลังจากได้รับความเสียหายจากการสู้รบกันของกลุ่มติดอาวุธ ประกอบกับปริมาณการส่งออกของอิรักเฉลี่ย 23 วันที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 2.58 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดการณ์ปริมาณการส่งออกของไนจีเรียในเดือน พ.ย. 57 ที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 14 เดือน

+/- ปริมาณน้ำมันเบนซินและดีเซลคงคลังของจีนในเดือน ส.ค. 57 ปรับลดลง 10.3% และ 3.35% ตามลำดับ เนื่องจากน้ำมันดีเซลมีการเก็บสต๊อกล่วงหน้าของภาคการเกษตรเพื่อใช้ในฤดูเก็บเกี่ยว และการใช้ของเรือประมงที่มากขึ้นหลังหมดช่วงห้ามจับสัตว์น้ำ สำหรับปริมาณน้ำมันเบนซินที่ลดลงนั้น เนื่องจากมีการปรับลดราคาขายส่งลง จึงส่งผลให้มีอุปสงค์เพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังมีแรงหนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาค ตะวันออกกลาง และแอฟริกาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามยังมีแรงกดดันในตลาดจากอุปทานในภูมิภาคที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูง

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังถูกกดดันโดยอุปทานในภูมิภาคที่อยู่ในระดับสูง เนื่องจากอินเดียและจีนมีการส่งออกเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจากอินเดียสืบเนื่องจากความต้องการใช้ในประเทศอยู่ในระดับต่ำหลังอยู่ในฤดูฝน ประกอบกับความต้องการใช้จากซาอุดิอาระเบียที่ลดลงหลังจากผ่านช่วงฤดูร้อน

ทิศทางราคาน้ำมันดิบ

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 90-96 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 96-102 เหรียญฯ

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

จีดีพีไตรมาส 2/57 ของสหรัฐฯ จะประกาศเป็นครั้งที่ 3 ในวันที่ 26 ก.ย.นี้ คาดการณ์ว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยอยู่ที่เติบโต 4.5% จากเติบโต 4.2% ในการประกาศครั้งก่อนหน้า ซึ่งตลาดคาดอาจส่งแรงหนุนต่อราคาน้ำมัน

จับตาท่าทีการปรับลดกำลังผลิตของกลุ่ม OPEC ว่าจะออกมาทิศทางใด หลังมีกระแสข่าวออกมาว่าOPEC มีแผนปรับลดกำลังการผลิตลง 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 29.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2558 โดยการหารือหลักอาจเกิดขึ้นในการประชุมกลุ่มวันที่ 27 พ.ย. นี้

สถานการณ์ความไม่สงบในลิเบียจะกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบมากน้อยเพียงใด หลังพื้นที่ใกล้โรงกลั่น Zawiya ซึ่งรับน้ำมันจากแหล่งน้ำมันดิบ El Sharara ถูกยิงโดยขีปนาวุธจากการสู้รบระหว่างรัฐบาลและกองกำลังติดอาวุธ ส่งผลให้แหล่งน้ำมันดังกล่าวต้องลดกำลังการผลิตลง ล่าสุดการผลิตน้ำมันของประเทศปรับลดลงไปอยู่ที่ระดับ 670,000 บาร์เรลต่อวัน

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตาม

วันจันทร์ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ - ส.ค. 57

ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยุโรป - ก.ย. 57

วันอังคารดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ - ก.ย. 57

ดัชนีภาคการผลิตยุโรป - ก.ย. 57

ดัชนีภาคการผลิตจีน - ก.ย. 57

วันพุธยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ - ส.ค. 57

วันพฤหัสยอดขายสินค้าคงทนสหรัฐฯ - ส.ค. 57

วันศุกร์จีดีพีสหรัฐฯ ไตรมาส 2/57