สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 20 พฤศจิกายน 2557 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,177.31-1,192.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,550 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลง 100 บาทต่อบาททองคำจากก่อนหน้าที่ระดับ 18,650 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ14 อยู่ที่ 18,610 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 120 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,730 บาท                                                                                                                                
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.49 น. ของวันที่ 20/11/14)

แนวโน้มวันที่ 21 พฤศจิกายน 2557
รายงานการประชุมประจำวันที่ 28-29 ตุลาคมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยออกมาแสดงให้เห็นว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) สนใจต่ออัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูงกว่าหรือต่ำกว่าเป้าหมาย 2 % ต่างก็สร้างความเสียหายได้ต่อเศรษฐกิจสหรัฐได้ โดยการคาดการณ์ภาวะเงินเฟ้อในระยะยาวอาจจะปรับลดลงและผู้เข้าร่วมการประชุมบางคนตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าหากการคาดการณ์ภาวะเงินเฟ้อในระยะยาวปรับลดลงสิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าก็คือการที่เศรษฐกิจชะลอการเติบโตลง แม้ว่ารายงานดังกล่าวจะส่งผลบวกต่อทิศทางราคาทองคำ แต่เนื่องจากราคาทองคำตอบรับในเชิงบวกกับประเด็นดังกล่าวไปมากพอสมควร จึงไม่สามารถหนุนราคาทองคำให้ขยับขึ้นไปต่อได้ ประกอบกับความกังวลที่เฟดแสดงออกมาในรายงานยังไม่ได้บ่งชี้ว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำเป็นเวลานานเท่าใดและที่สุดนักลงทุนก็ยังคงคาดการณ์ตามเดิมว่าเฟดอาจจะเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน 2015

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟด วางแผนจะออกแถลงการณ์เรื่องแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวในการประชุมช่วงวันที่ 27-28 มกราคม 2015 ขณะที่ราคาทองคำยังถูกกดดันเพิ่มเติม หลังจากผลสำรวจการทำประชามติคนสวิตเซอร์แลนด์ส่วนใหญ่จะปฏิเสธแผนการที่ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) จำเป็นต้องเข้าซื้อทองคำเพิ่มคิดเป็นมูลค่าราว 7 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือที่เรียกว่าแผน Save our Swiss Gold โดยการห้าม SNB ทำการระบายทองคำสำรองออกมาและบังคับให้ SNB ถือครองสินทรัพย์อย่างน้อย 20 % ในรูปของทองคำจากระดับปัจจุบันที่ 7.8% ในเดือนตุลาคม โดยจะมีการลงประชามติจริงจะเกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ทั้งนี้ราคาทองคำจะยังคงผันผวนต่อทำให้การเข้ามาลงทุนในทองคำต้องใช้ความระมัดระวัง

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยให้แนะนำให้รอการตั้งฐานของราคาทองคำ แต่สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากแนะนำให้รอจังหวะซื้อหากราคาไม่หลุดแนวรับ 1,173-1,170 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน เมื่อราคาทองคำดีดตัวขึ้นและไม่ผ่านแนวต้าน 1,195-1,200ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านได้ให้รอขายทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,207-1,210 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากหากราคาที่เหวี่ยงตัวอย่างรุนแรงจะทำให้นักลงทุนที่ลงทุนมากเกินไปหรือไม่มีแผนในการลงทุนที่ชัดเจนจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการลงทุน

             ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ        1,173 (18,180บาท)       1,156 (17,920บาท)          1,143 (17,720บาท)  
แนวต้าน      1,195 (18,530บาท)       1,207 (18,710บาท)           1,218 (18,880บาท)     

           GOLD FUTURES (GFZ14)
แนวรับ        1,173 (18,340บาท)       1,156 (18,070บาท)          1,143 (17,870บาท)  
แนวต้าน      1,195 (18,680บาท)       1,207 (18,870บาท)           1,218 (19,040บาท)