ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
YLG แนะผู้ไม่มีทองคำในมือ ให้ลงทุนระยะสั้น รอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงที่ 1,192 หรือ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์


สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 03 มีนาคม 2558ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,195.70-1,211.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,550 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,650 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ15 อยู่ที่ 18,690 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 90 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,780 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.58 น.ของวันที่ 03/03/15)

แนวโน้มวันที่ 5 มีนาคม 2558
ความตื่นเต้นต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของจีนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนราคาทองคำได้เพียงระยะสั้น หลังจากนั้นก็เกิดแรงขายทำกำไรออกมากดดันให้ราคาอ่อนตัวลงอีกครั้ง จากความวิตกกังวลว่ากับสภาพคล่องในจีนอาจกลับมาตึงตัวมากขึ้นหลังจากผู้ควบคุมกฎระเบียบได้อนุมัติการเสนอขายหุ้นให้สาธารณชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ล็อตใหม่ ประกอบกับ การคาดการณ์ว่าการประชุมสภาประชาชนจีนจะเริ่มต้นในวันพฤหัสบดีนี้ มีแนวโน้มว่าผู้นำระดับสูงของสภาจีนจะปรับลดเป้าหมายอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ลงสู่ระดับราว 7%ซึ่งจะถือระดับต่ำที่สุดในรอบ 25 ปี โดยส่งสัญญาณเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนที่ชะลอการเติบโตลงส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำลง

ขณะที่ดัชนีเซนทิกซ์ (EBI)ของยูโรโซน ซึ่งเป็นผลสำรวจสำหรับการแยกตัวออกจากออกจากยูโรโซนบ่งชี้ว่า นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน มีความวิตกกังวลเพิ่มสูงขึ้นแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2013 โดยผู้ตอบโพลล์ 38% คาดว่าจะมีประเทศแยกตัวออกจากยูโรโซในช่วง 12 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นจาก 24.3% ในการสำรวจของเดือนมกราคม ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวเพิ่มแรงขายสกุลเงินยูโรให้ร่วงผ่านระดับ 1.1200 ดอลลาร์ และส่งผลเชิงลบต่อทิศทางราคาทองคำ

 นอกจากนี้ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเริ่มดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยการประชุม ECB ในวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคมนี้อาจมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อเริ่มต้นการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบผ่านการซื้อพันธบัตรจำนวน 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้และจะดำเนินการไปจนถึงเดือนกันยายน ปี 2016 ความกังวลว่าสกุลเงินยูโรอาจอ่อนตัวลงอีกหากมาตรการดังกล่าวไม่เกิดประสิทธิภาพได้ส่งผลลบต่อการณ์คาดการณ์ทิศทางราคาทองคำในอนาคตด้วย เห็นได้จากมีแรงขายทองคำออกมาเมื่อราคาขยับขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,192 หรือ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลัง โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,223-1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
                 
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ        1,192 (18,220บาท)       1,180 (18,030บาท)          1,165 (17,800บาท)  
แนวต้าน      1,223 (18,700บาท)       1,233 (18,850บาท)          1,245 (18,910บาท)     

           GOLD FUTURES (GFJ15)
แนวรับ        1,192 (18,440บาท)       1,180 (18,260บาท)          1,165 (18,020บาท)  
แนวต้าน      1,223 (18,920บาท)       1,233 (19,070บาท)          1,245 (19,130บาท)     


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 03 มี.ค. 2558 เวลา : 17:45:31

16-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 16, 2024, 6:57 pm