ตลาดหุ้นโลกเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 มิถุนายน 2558) ดัชนีร่วงลงทุกตลาด โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,011.94 จุด ลดลง 28.43 จุด หรือ -0.16% ,ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,076.52 จุด ลดลง 6.41 จุด หรือ -0.13% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,109.60 จุด ลดลง 2.13 จุด หรือ -0.10%

ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป ดัชนีร่วงลงเช่นกัน โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1% ปิดที่ 396.45 จุด ,ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 5,004.46 จุด ลดลง 20.84 จุด หรือ -0.41% , ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 11,328.80 จุด ร่วงลง 107.25 จุด หรือ -0.94% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,928.27 จุด ลดลง 25.31 จุด หรือ -0.36%

ปัจจัยลบที่กระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก คือ เรื่องความกังวลกรีซจะไม่สามารถชำระหนี้คืนงวดแรกกว่า 300 ล้านดอลลาร์จาก 1.6 พันล้านดอลลาร์ ให้ไอเอ็มเอฟได้ตรงตามกำหนดวันที่ 5 มิ.ย.นี้ โดยล่าสุดมีรายงานว่า รัฐบาลกรีซได้ยื่นแผนปฏิรูปเศรษฐกิจฉบับเบ็ดเสร็จให้แก่ทางเจ้าหนี้แล้ว พร้อมกับเรียกร้องให้ผู้นำของยุโรปให้การยอมรับข้อเสนอดังกล่าว เพื่อให้มีการบรรลุข้อตกลง และทำให้กรีซหลุดพ้นจากวิกฤตการณ์ทางการเงิน

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐปรับตัวลง 0.4% ในเดือนเม.ย. ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทรงตัว ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคดังกล่าวยังคงได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการลดลงของการใช้จ่ายในภาคพลังงาน

ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป แม้จะได้รับปัจจัยลบเรื่องกรีซ แต่ระหว่างวันยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท ที่ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค.ในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ปรับตัวขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ซึ่งอยู่ที่ 0.2%