ตลาดหุ้นทั่วโลกสดใสขึ้นเมื่อเริ่มเห็นทางออกสถานการณ์เจรจาหนี้คืนไอเอ็มเอฟของกรีซ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา (22 มิถุนายน 2558) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,119.78 จุด เพิ่มขึ้น 103.83 จุด หรือ +0.58% , ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,153.97 จุด เพิ่มขึ้น 36.97 จุด หรือ +0.72% และดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,122.85 จุด เพิ่มขึ้น 12.86 จุด หรือ +0.61%

ขณะตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.3% ปิดที่ 394.25 จุด , ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,998.61 จุด พุ่งขึ้น 183.24 จุด หรือ +3.81% , ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 11,460.50 จุด ทะยานขึ้น 420.40 จุด หรือ +3.81% และดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,825.67 จุด เพิ่มขึ้น 115.22 จุด หรือ +1.72%

ปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นโลก คือ กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ยุโรปจะสามารถทำข้อตกลงกันได้ภายในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ประธานยูโรกรุ๊ปได้แสดงความพอใจต่อข้อเสนอใหม่จากรัฐบาลกรีซ และระบุว่าอาจมีการบรรลุข้อตกลงภายในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ผู้นำสหภาพยุโรป (EU) จะจัดการประชุมสุดยอดในวันที่  25-26 มิ.ย.ก่อนที่กรีซจะครบกำหนดชำระหนี้วงเงิน 1.6 พันล้านยูโรแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันที่ 30 มิ.ย.

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นอเมริกายังได้รับแรงหนุนจากรายงานของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 5.1% สู่ระดับ 5.35 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2009 และบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง