ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์วิเคราะห์ราคาน้ำมันเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังรัสเซียเตรียมเข้าเจรจากับประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ส่วน WTI ปิดบวกจากแรงหนุนความต้องการใช้เบนซิน


+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวสูงขึ้น หลังรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ 1 ใน 3 ของโลก แสดงท่าทีพร้อมเข้าเจรจากับประเทศผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่มโอเปก (OPEC) และประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก (Non-OPEC) เพื่อร่วมหารือในประเด็นด้านสถานการณ์ตลาดน้ำมันโลก  โดยในบื้องต้นทางรัสเซียและซาอุดิอาระเบียมีแผนเข้าหารือร่วมกันอย่างเป็นทางการในประเด็นด้านตลาดน้ำมันและโครงการลงทุนในสิ้นเดือน ต.ค. 58 นี้   ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่าสาเหตุหลักที่ทำให้รัสเซียแสดงท่าทีพร้อมเข้าเจรจากับประเทศผู้ผลิตน้ำมันทั้งในและนอกโอเปกนั้น เนื่องจากแรงกดดันของสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับภาคการส่งออกที่ชะลอตัวลงหลังถูกบางประเทศคว่ำบาตร เนื่องจากการเข้าไปมีบทบาทของรัสเซียในวิฤตความไม่สงบในยูเครนและ
ไครเมีย
  

+ ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากแรงหนุนของความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้นราว 3% ส่งผลตลาดมีการคาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันดิบจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน
  

- ผลสำรวจของสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐฯ (Institute for Supply Management: ISM) รายงาน ดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ ในเดือน ก.ย. 58 ปรับตัวลงสู่ระดับ 56.9  จากระดับ 59.0 จุดในเดือนก่อนหน้า สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.58 อย่างไรก็ดี ดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 นับเป็นการบ่งชี้ถึงกิจกรรมในภาคบริการของสหรัฐฯ ที่ยังคงขยายตัวได้แต่เป็นอัตราที่ชะลอตัวลง
  

- สำนักข่าวรอยเตอร์ คาดการณ์ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 ต.ค. 58 ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 1.8 ล้านบาร์เรล  ซึ่งนับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นสองสัปดาห์ติดต่อกัน หลังผลการรายงานก่อนหน้าของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA)  ที่มีการรายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 25 ก.ย. 58 ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 4 ล้านบาร์เรล มาแตะระดับ 457.9 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากประเทศเวียดนาม อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันเบนซินอยู่ในกรอบที่จำกัด เนื่องจากอุปทานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากประเทศมาเลเซียและอิรัก ประกอบกับอุปทานที่คาดว่าจะตึงตัวจากการปิดซ่อมบำรุงหน่วยผลิตน้ำมันเบนซินของโรงกลั่นน้ำมันในประเทศไต้หวันเป็นระยะเวลา 20 วัน

  

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ จากแรงหนุนของอุปทานในภูมิภาคที่คาดว่าจะตึงตัว เนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมันในภูมิภาค ประกอบกับอุปสงค์ที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากประเทศ เวียดนาม ศรีลังกา มาเลเซีย และประเทศแถบ
แอฟฟริกา

ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
  

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวที่กรอบ 43-48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 46-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง
  

จับตาพายุ เฮอร์ริเคน โจควิน (Joaquin) ในมหาสมุทรแอตแลนติก ที่กำลังทวีความแรงจากพายุโซนร้อนเป็น เฮอร์ริเคนระดับ 3 ที่เคลื่อนตัวผ่านหมู่เกาะบาฮามาสในมหาสมุทรแอตแลนติก และมีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นฝั่งทางตะวันออกของสหรัฐฯ รวมถึง New York Harbor ซึ่งเป็นจุดส่งมอบหลักของน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลในสหรัฐฯ ทั้งนี้ พายุดังกล่าวอาจส่งผลให้การผลิตน้ำมันสำเร็จรูปของโรงกลั่น 9 แห่งในฝั่งตะวันออก ซึ่งมีกำลังผลิตราว 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ได้รับผลกระทบไปด้วย
  

ภาพเศรษฐกิจจีนยังคงกดดันราคาต่อเนื่อง หลังดัชนีภาคการผลิตจีน (Caixin PMI) เดือน ก.ย. ที่ปรับลดลงต่อเนื่องมาแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง ขณะที่ตัวเลขภาคการผลิตจีนที่เน้นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ (NBS PMI) เดือน ก.ย. ก็ยังคงอยู่ในภาวะหดตัว ส่งผลให้ตลาดกังวลว่าเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวจะทำให้ความต้องการใชน้ำมันลดลงตาม
  

จํานวนแท่นขุดเจาะนํ้ามันในสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงต่อเนื่องกว่า 5 สัปดาห์ติดต่อกันและมีแนวโน้มที่จะปรับลดลงต่อเนื่องในช่วงไตรมาส  4 ของปีนี้  โดยรายงานล่าสุด Baker Hughes รายงานจํานวนแท่นขุดเจาะนํ้ามันในสหรัฐฯ สิ้นสุดสัปดาห์ที่ 2 ต.ค.58 ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 614 หลุม ซึ่งถือว่าเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 5 ปีส่งผลให้เห็นการปรับลดลงของกำลังผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ที่เริ่มลดลงสู่ 9.1 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  

ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ในเดือน ก.ย. ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนเชื่อว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) อาจจะยังไม่ปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปในเดือน ต.ค. สำหรับการประชุมในเดือน ธ.ค. มีนักลงทุนเพียง 30% เท่านั้นที่เชื่อว่า FED จะมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นลดลง

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 06 ต.ค. 2558 เวลา : 12:06:14

16-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 16, 2024, 2:16 pm