สภาวะตลาดวันที่ 22 ตุลาคม 2558

ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,165.03-1,169.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,700 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,800 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV15 อยู่ที่ 19,740 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,840 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.39 น.ของวันที่ 22/10/15)

แนวโน้มวันที่ 26 ตุลาคม 2558

คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)มีกำหนดจะประชุมกันครั้งต่อไปในวันที่ 27-28 ตุลาคมนี้ หลังจากการประชุมกำหนดนโยบายการเงินครั้งที่ผ่านมา เฟดได้ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเมื่อพิจารณาถึงภาวะเงินเฟ้อต่ำ รวมทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดการเงินทั่วโลกที่ปั่นป่วน ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดทองคำเพิ่มความระมัดระวังในการเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติม เพราะไม่แน่ใจว่า เฟดจะเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด ก่อนหน้านี้เฟด เปิดเผยในรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book แสดงถึงภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐ และจะมีการอัพเดทก่อนการประชุมกำหนดนโยบายของเฟดในแต่ละครั้ง บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคส่วนใหญ่ของสหรัฐยังคง “ขยายตัวเล็กน้อย" ในช่วงตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม ถึงต้นเดือนตุลาคม โดยรายงานแสดงให้เห็นว่าหลายเขตระบุว่า ดอลลาร์ที่แข็งค่าได้ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตที่ย่ำแย่และการใช้จ่ายในภาคการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตามกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและ พลังงานเพิ่มขึ้นเกินคาด 0.2% ต่อเดือนในเดือนกันยายนซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 0.1% ทางด้านดัชนี CPI พื้นฐานแบบเทียบปีต่อปีอยู่ที่ 1.9% ในเดือนกันยายน ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ที่ 2% ซึ่งข้อมูลเศรษฐกิจมีปัจจัยต่างๆที่ขัดแย้งกัน ประกอบกับเจ้าหน้าที่ของเฟดแต่ละท่านก็แสดงความเห็นที่แตกต่างกันและสิ่งนี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความความยากลำบากในการคาดการณ์ในกระบวนการตัดสินใจของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) ความกังวลดังกล่าวส่งผลให้มีแรงขายทองคำออกมาเมื่อราคาขยับขึ้นก่อนทราบผลการประชุม

สำหรับมุมมองของวายแอลจีที่มีต่อราคาทองคำนั้น ประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,183-1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง ซึ่งการแกว่งตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนระยะสั้นเข้าซื้อเก็งกำไร

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,156 หรือ 1,147 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลัง โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,183 หรือ 1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ

        

ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ            1,156 (19,470บาท)        1,147 (19,320บาท)           1,140 (19,200บาท)
แนวต้าน          1,183 (19,930บาท)        1,190 (20,050บาท)           1,205 (20,300บาท)

           

GOLD FUTURES (GFV15)
แนวรับ            1,156 (19,560บาท)        1,147 (19,400บาท)           1,140 (19,290บาท)
แนวต้าน          1,183 (20,000บาท)        1,190 (20,140บาท)           1,205 (20,390บาท)