ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
วายแอลจี แนะหากราคาทองไม่สามารถยืน 1,160 ได้ ให้แบ่งขายทำกำไรบางส่วน


คำแนะนำ
   

หากราคาทองคำไม่สามารถยืน $1,160 ได้ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป และเมื่อราคาอ่อนตัวลงให้เข้าซื้อบริเวณแนวรับ $1,145-$1,133

ทองคำ
   1,145  1,133  1,125
   1,160  1,168  1,175

ปัจจัยพื้นฐาน
  

ราคาทองคำสปอตสหรัฐฯวานนี้ปรับตัวขึ้น 12.83 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นการปรับตัวขึ้น 5 วันทาการต่อเนื่อง โดยปัจจัยหลักๆยังคงมาจากการอ่อนตัวลงของเงินสกุลดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ทาจุดต่าสุดในรอบสามเดือน จากความกังวลถึงเศรษฐกิจโลกรวมถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ อีกทั้งเริ่มมีการแสการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปก่อน ทั้งนี้ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ค ได้เปิดเผยว่าหลังจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปเมื่อช่วงเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา สถานการณ์ทางการเงินเริ่มตึงตัวขึ้น ทาให้เป็นประเด็นที่เฟดต้องนากลับไปพิจารณา สาหรับวันนี้นักลงทุนจาเป็นต้องติดตามการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมและอัตราการว่างงานเนื่องจากจะมีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคาในวันนี้

ปัจจัยเทคนิค

   

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านและก่อนหน้านี้มีแรงขายทากาไรสลับออกมาค่อนข้างน้อย เบื้องต้น หากราคาทองคาไม่สามารถยืน 1,160 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยนักลงทุนต้องระมัดระวังแรงขายทากาไรออกมาที่อาจเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจกดดันราคาทองคาให้ลงสู่แนวรับในระดับ 1,145-1,133 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้

กลยุทธ์การลงทุน
   

หากราคาดีดตัวไม่ถึงโซนแนวต้าน 1,160 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทาการบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขาบยออกไป ทั้งนี้ สาหรับผู้ที่ไม่มีทองคาในมือรอดูบริเวณ 1,145 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคงถือเป็นจุดซื้อเก็งกาไรระยะอีกครั้ง

ข่าวสารประกอบการลงทุน

  

(+)ประธานเฟดดัลลัสชี้เฟดต้องใช้ความอดทนก่อนขึ้นดบ. ขณะศก.ส่งสัญญาณชะลอตัว นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส กล่าวว่า เฟดจาเป็นต้องใช้ความอดทนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัว และภาวะตึงตัวมากขึ้นในตลาดการเงินโลก "นี่เป็นเวลาที่ต้องใช้ความอดทน และทาการวิเคราะห์และประเมินข้อมูล เนื่องจากมีการชะลอตัวบางส่วนในเศรษฐกิจ" เขากล่าว คากล่าวของนายแดปแลนสอดคล้องกับนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก ที่กล่าววานนี้ว่า สภาวะทางการเงินมีการตึงตัวอย่างมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. และเฟดจะต้องพิจารณาปัจจัยดังกล่าวในการประชุมกาหนดนโยบายการเงินในเดือนมี.ค. หากภาวะดังกล่าวยังคงดาเนินต่อไป
   

(+)สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานร่วงลงหนักสุดรอบ 1 ปีในเดือนธ.ค. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐร่วงลงหนักที่สุดในรอบ 1 ปีในเดือนธ.ค. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานที่ดิ่งลงได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และอุปสงค์ที่อ่อนแอในต่างประเทศ ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐร่วงลง 2.9% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2014 หลังจากที่ลดลง 0.7% ในเดือนพ.ย. นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ยอดสั่งซื้อร่วงลง 2.8% ในเดือนธ.ค. (+)สหรัฐเผยจานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นมากกว่าคาด โดยเพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 285,000 ราย โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 280,000 ราย อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ากว่าระดับ 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 48 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดนับตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1970 และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง ส่วนจานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ซึ่งสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่าเพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์นั้น เพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 284,750 ราย สาหรับจานวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องมีจานวนลดลง 18,000 ราย สู่ระดับ 2.26 ล้านราย ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 ม.ค.
   

(+/-)คณะกรรมาธิการยุโรปหั่นคาดการณ์จีดีพียูโรโซนเหลือ 1.7% ในปีนี้ คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซน หลังจากที่เผชิญกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ล่าช้า และอัตราเงินเฟ้อที่ต่ากว่าคาด รวมทั้งอัตราการว่างงานที่พุ่งขึ้นถึง 2 หลัก ทั้งนี้ EC คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของยูโรโซนจะขยายตัว 1.7% ในปีนี้ ลดลงจาก 1.8% ที่คาดการณ์เมื่อเดือนพ.ย. ขณะเดียวกัน EC คาดว่ายูโรจะแข็งค่าขึ้น 1.6% ในปีนี้ และ 1.9% ในปีหน้า โดยไม่เปลี่ยนแปลงจกการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ EC คาดว่าสหภาพยุโรปจะขยายตัว 1.9% ในปีนี้ และ 2.0% ในปีหน้า โดยต่ากว่าการคาดการณ์ครั้งก่อน ทั้งนี้ เศรษฐกิจยุโรปกาลังฟื้นตัวขึ้นเป็นปีที่ 4 แต่การขยายตัวยังคงอยู่ในระดับต่า
    

(+/-)โกลด์แมน แซคส์คาดเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 3 ครั้งในปีนี้ บริษัทโกลด์แมน แซคส์ออกรายงานฉบับหนึ่งในวันนี้ ระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 3 ครั้งในปีนี้ โดยจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. การคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวของโกลด์แมน แซคส์เป็นการปรับลดลงจากที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นจานวน 4 ครั้งในปีนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่าเฟดจะยังคงไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงเดือนมิ.ย. ถึงแม้บริษัทมองว่าเฟดอาจมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนเม.ย. หากภาวะตลาดมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสาคัญ "ข้อมูลเศรษฐกิจที่เข้ามายังคงสอดคล้องกับมุมมองของคณะกรรมการเฟด แต่สภาวะการเงินได้ตึงตัวขึ้นอย่างมาก" รายงานระบุ


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 05 ก.พ. 2559 เวลา : 12:02:22

27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 2:46 am