นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) กล่าวว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้น โดยมีแรงหนุนที่สำคัญได้แก่ ความกังวลเรื่อง Fed จะขึ้นดอกเบี้ยและปัญหาเรื่อง Credit risk ของสถาบันการเงินในยุโรปลดน้อยลง การปรับตัวสูงขึ้นของราคานํ้ามันดิบหลังการเจรจาระหว่างกลุ่ม OPEC กับ Non-OPEC เริ่มมีทิศทางที่ดีมากขึ้น และท่าทีของธนาคารกลางหลายแห่งที่มีแนวโน้มกลับมาผ่อนคลายนโยบายการเงินอีกครั้ง
บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เชื่อว่าตลาดการลงทุนในภาคกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ยังมีความน่าสนใจและยังเป็นที่ต้องการของนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมนี้ถือว่าได้รับผลกระทบและมีความผันผวนน้อยกว่าการลงทุนในหมวดอุตสาหกรรมอื่นๆ และด้วยความชำนาญในการบริหารกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ จึงทำให้ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ สามารถสร้างผลงานบริหารกองทุนได้ดีอย่างต่อเนื่องและได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยเฉพาะกองทุนเปิด แอล เอช ไทย พร็อพเพอร์ตี้ (LHTPROP) และ กองทุนเปิด แอล เอช พร็อพเพอร์ตี้ พลัส I (LHPROP-I) โดยที่กองทุน LHTPROP ต้องขยายทุนจดทะเบียนกองทุนเพิ่มถึง 2 ครั้งในรอบรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่กองทุน LHPROP-I หลังจากจัดตั้งบริหารกองทุนได้เพียง 3 เดือนก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจนต้องจดทะเบียนเพิ่มทุนเช่นกัน ปัจจุบันกองทุนทั้งสองได้จดทะเบียนกองทุนเพิ่มเป็น 2 พันล้านบาท
นายมนรัฐ ยังกล่าวต่อว่า สำหรับกองทุนตราสารทุนภายใต้บริหารจัดการของ LH Fund ในเดือนที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ซึ่งกองทุนตราสารทุนของ LH Fund ในปัจจุบันลงทุนเฉพาะในประเทศทั้งหมด จึงไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนและ/หรือความผันผวนการลงทุนในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม LH Fund ยังคงมองการลงทุนในต่างประเทศมีแนวโน้มเชิงบวก เนื่องจากปัจจัยที่กล่าวมาในช่วงแรก และ LH Fund ได้จัดเตรียมกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศเพื่อเป็นทางเลือกในอนาคตให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการเพิ่มช่องทางการลงทุนที่หลากหลายและรับความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ โดย บลจ.อยู่ระหว่างพิจารณาเพื่อเลือกจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม
ข่าวเด่น