ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
เตือนปชช.ในพื้นที่ประสบภัยหมอกควันไฟป่า งดสูบบุหรี่ ลดผลกระทบสุขภาพซ้ำเติม


 


กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ขอความร่วมมือ อสม. ในจังหวัดภาคเหนือตอนบนกว่า 130,000 คน ให้ความรู้ประชาชนป้องกันการเจ็บป่วยจากฝุ่นละอองควันไฟป่า พร้อมย้ำเตือนประชาชนงดสูบบุหรี่  เนื่องจากจะทำให้ร่างกายได้ทั้งควันไฟป่าและพิษจากควันบุหรี่มือหนึ่ง มือสอง และมือสาม พร้อมทั้งเร่งจัดอบรมพัฒนา อสม.ให้เป็นนักจัดการสุขภาพในตำบล/ชุมชน ลดภัยคุกคามสุขภาพทุกรูปแบบ
 
 
 
 

 นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ โฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ  (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมาตรการป้องกันผลกระทบจากปัญหาจากฝุ่นละอองควันไฟป่าขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน ในจังหวัดภาคเหนือตอนบน ซึ่งขณะนี้มีค่าเกินมาตรฐานหลายจังหวัดว่า ขณะนี้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ  ได้ให้สำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขตประจำภาคเหนือ ขอความร่วมมืออาสาสมัครสาธารณสุขหรือ อสม. จำนวนกว่า 130,000 คน ที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองควันไฟป่าทั้งหมด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ พะเยา และตาก เร่งประชาสัมพันธ์ทางหอกระจายข่าวหมู่บ้าน ให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันการสูดฝุ่นละออง ควันไฟ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเสี่ยงได้แก่ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัวได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคถุงลมปอดอุดกั้น เพื่อลดผลกระทบให้มากที่สุด       

“ในช่วงที่มีฝุ่นละอองควันไฟป่านี้ ขอย้ำเตือนประชาชนงดการสูบบุหรี่ทุกชนิด เนื่องจากจะทำให้ทั้งผู้สูบและคนรอบข้างได้รับมลพิษเข้าสู่ร่างกาย  ทั้งจากฝุ่นละอองควันไฟ และพิษจากควันบุหรี่ที่เรียกว่าพิษจากบุหรี่มือหนึ่ง มือสอง โดยในบุหรี่ 1 มวน  เมื่อเกิดการเผาไหม้ จะทำให้เกิดสารเคมีต่างๆมากกว่า 7,000 ชนิด  ในจำนวนนี้เป็นสารพิษก่อมะเร็งได้มากกว่า 70 ชนิดและควันบุหรี่ยังคงอันตรายในรูปของควันบุหรี่มือสามด้วย ซึ่งเป็นอนุภาคละอองไอสารเคมีจากควันบุหรี่ที่ก่อตัวจากก๊าซ จากสารอันตรายหลายชนิด  สารพิษนี้จะตกค้างและเกาะติดอยู่ตามพื้นผิวต่างๆ เช่นเสื้อผ้า ผ้าม่าน พื้น พรม เบาะและผิวหนัง กลุ่มที่มีความเสี่ยงที่จะสัมผัสสารนี้ มากที่สุดคือเด็กเล็ก ซึ่งเด็กจะมีโอกาสซึมซับฝุ่นละอองมากกว่าผู้ใหญ่ถึง 2 เท่า เนื่องจากเด็กเล็กมักหายใจใกล้พื้นผิวสิ่งของต่างๆ หรือคลานเล่นตามพื้น เด็กอาจเลียหรือนำสิ่งที่ปนเปื้อนละอองพิษของเข้าปากได้” นายแพทย์ภานุวัฒน์กล่าว 

 ทางด้านนายถาวร  ขาวแสง ผู้อำนวยการสำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขต 1 จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานฯ ได้จัดอบรม อสม. ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนที่ทำงานมาแล้วหลายปีให้เป็น อสม.  นักจัดการสุขภาพในชุมชนหรือในตำบลจำนวน 15,000 คนเพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณสุขในพื้นที่ รวมทั้งปัญหาหมอกควันและภัยแล้งด้วย โดยจะร่วมทำงานกับทีมหมอครอบครัวและประสานงานกับองค์การบริหารส่วนตำบลและองค์กรท้องถิ่นภาคส่วนต่างๆ  ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแลและจัดการกับภัยสุขภาพในพื้นที่ทุกรูปแบบดียิ่งขึ้น        

 สำหรับช่วงนี้ได้ให้ อสม.ติดตามรายงานสถานการณ์หมอกควันอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ความรู้ และเฝ้าระวังสุขภาพประชาชนที่อยู่ในความดูแลคนละ 10-15 หลังคาเรือน  แนะนำให้ประชาชนงดกิจกรรมกลางแจ้งชั่วคราว กรณีที่จำเป็นต้องออกนอกบ้าน ให้ใช้ผ้าชุบน้ำบิดพอเปียกหมาดๆ ปิดจมูกและปาก หรือสวมหน้ากากอนามัย  ให้ดื่มน้ำมากๆ  น้ำจะช่วยให้ร่างกายขับฝุ่นละอองออกจากระบบทางเดินหายใจง่ายขึ้น ฝุ่นไม่สะสมในปอด และกลั้วคอด้วยน้ำสะอาดแล้วบ้วนทิ้งวันละ 3-4 ครั้ง เพื่อขับฝุ่นละอองออกจากเยื่อบุในลำคอ ช่วยให้ระบบภูมิต้านทานร่างกายทำงานดีขึ้น   นอกจากนี้ยังให้ อสม.ขอความร่วมมือประชาชนให้งดการเผาขยะหรือวัสดุใดๆ โดยเฉพาะขยะที่เป็นพิษ เช่นพลาสติก ยางรถยนต์ และช่วยกันป้องปรามมิให้ชาวบ้านเผาหญ้า รวมทั้งงดการจุดธูปในบ้าน เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองควันไฟให้ได้มากที่สุด  
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 21 มี.ค. 2559 เวลา : 16:40:08

25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 9:48 pm