ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง


 


กลยุทธ์วันนี้  Return to 4G Auction

ตลาดหุ้นวานนี้: 
          ตลาดหุ้นไทยวานนี้ แกว่งในกรอบแคบระหว่าง 1,380-1,385 จุด โดยนักลงทุนต่างรอดูท่าทีของ JAS Mobile กับการถึงกำหนดชำระเงินงวดแรกของใบอนุญาตคลื่น 900MHz ยิ่งใกล้เวลาปิดตลาด การเก็งกำไรหุ้นหลักในกลุ่ม ICT มีมากขึ้น และผลักดันให้ SET INDEX ปิดบวกได้ถึง 10.67 จุด อยู่ที่ 1,393.63 จุด มูลค่าการซื้อขาย 52,981 ล้านบาท กลุ่ม ICT +2.58%
 
          แม้ว่าต่างชาติจะกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทย แต่ก็เพียง 99 ล้านบาท แต่คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 อีก 3,128 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3 อีก 1,963 ล้านบาท

 
 
 
ปัจจัยสำคัญวันนี้
          - JAS Mobile ไม่มาชำระงวดแรก และ Bank Guarantee สำหรับใบอนุญาต 900MHz ตามที่กสทช.กำหนด
          - ติดตามการประชุม ครม. วันนี้จะมีการพิจารณาโครงการบ้านประชารัฐฯ และโครงการซ้อปช่วยชาติครั้งที่ 2 ส่วนอังคารที่ 29 มี.ค. จะมีการพิจารณาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม – เหลือง – ชมพู
          - ทอท.ประกาศขายซองประมูลโครงการสุวรณภูมิเฟส 2 มูลค่า 3.0 หมื่นล้านบาท 

มุมมองต่อตลาด
          เราคงมุมมองต่อการลงทุน “บวก” วันที่ 8 พร้อมให้น้ำหนักที่ SET INDEX จะขึ้นไปทดสอบด่าน 1,400 จุด ในระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย นำโดยกลุ่ม ICT หลัง JAS Mobile ตัดสินใจไม่มาชำระเงินงวดแรก พร้อม Bank Guarantee กับทางกสทช. ตามกรอบเวลาที่กำหนด ส่งผลให้แรงเก็งกำไรต่อหุ้นหลักที่เกี่ยวข้องกับการประมูลคลื่นความถี่ 900MHz อย่าง ADVANC / DTAC/ TRUE / INTUCH รวมถึง JAS / JASIF มีแนวโน้มฟื้นตัวเด่นต่อเนื่องจากวานนี้ 
 
          อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของหุ้นหลักในกลุ่ม ICT จากประเด็นของ JAS Mobile นั้น เรากลับมองว่า กลายเป็นจังหวะของการ “ขายทำกำไร” หรือ “ลดน้ำหนักการลงทุน” เพราะแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 1Q – 2Q 59 จะเผชิญกับแรงกดดันด้านต้นทุน เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดของทั้ง ADVANC / DTAC ส่วน TRUE เผชิญกับต้นทุนการดำเนินงานในส่วนของใบอนุญาตที่เพิ่มขึ้นทั้ง 2 ใบ และภาพการแข่งขัน อาจยืดเยื้อต่อเนื่องถึง 3Q59 ทำให้เกิดความเสี่ยงทั้งด้านการประมาณการผลการดำเนินงาน และเงินปันผลงวด 1H59 

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทีมเศรษฐกิจ ที่เตรียมเสนอต่อครม.พิจารณา
         
- โครงการบ้านประชารัฐ: พิจารณาในวันนี้ เราให้น้ำหนักกับ PS เป็น Top Pick ในกรณีนี้
          - โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม / เหลือง / ชมพู: เตรียมเสนอครม.พิจารณาในวันที่ 29 มี.ค. เราให้น้ำหนัก CK และ ITD เป็น Top Pick ในกรณีนี้
          - โครงการช้อปช่วยชาติในช่วงสงกรานต์: เตรียมเสนอครม.พิจารณาในวันที่ 22 มี.ค. เราให้น้ำหนัก BIG เป็น Top Pick ในกรณีนี้
          เราประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX ระหว่าง 1,385 – 1,405 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.0-5.5 หมื่นล้านบาท/วัน

 
กลยุทธ์การลงทุน 
 
          เราแนะนำให้ “นักลงทุนเตรียมขายทำกำไรหุ้นเป้าหมาย เมื่อ SET INDEX ไต่ระดับขึ้นทดสอบด่าน 1,400 จุด หรือสูงกว่า” 

          Speculative Buy: BIG / PS

Stock Pick of the Day

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “เก็งกำไร” ได้แก่ 
 
          1. PS  : ราคาปิด 27.25 บาท ราคาเหมาะสม 33.00 บาท
          a) MBKET คาดว่าจะเห็นแรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จากการพิจารณาโครงการบ้านประชารัฐของครม.ในวันนี้ รวมทั้งแรงเก็งกำไรการประชุมกนง.ในวันพรุ่งนี้ต่อนโยบายดอกเบี้ยว่าจะมีการปรับลดลงหรือไม่  
          b) คาดว่า PS จะได้ประโยชน์สูงสุด จากโครงการบ้านประชารัฐ เนื่องจากเป็นผู้นำตลาดบ้านระดับล่างในช่วงราคา 1-1.5 ล้านบาท จึงเชื่อว่าหากเข้าร่วมโครงการดังกล่าวจะเป็นบวกในการระบายสต็อกบ้านในมือ และ รายได้ส่วนเพิ่มหากเปิดโครงการใหม่เพื่อรองรับโครงการบ้านประชารัฐฯ 
          c) แผนการลงทุนธุรกิจโรงพยาบาล หลังเสร็จสิ้นการแลกหุ้นเป็นบริษัท Holding จะเป็น Upside ต่อประมาณการกำไรในระยะยาว โดยคาดว่าจะมีรายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้นหลังเสร็จสิ้นการทำคำเสนอซื้อในช่วงเดือน พ.ย.
          d) Valuation ค่อนข้างถูก ซื้อขายระดับ PER2559 ที่ 7.9 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 5% ต่อปี 
          2. BIG  : ราคาปิด 2.22 บาท ราคาเหมาะสม 2.90 บาท
          a) MBKET ประเมินว่า BIG จะได้ประโยชน์โดยตรงจากมาตรการช๊อปช่วยชาติครั้งที่ 2 ที่คาดว่าจะนำเสนอเข้าครม.ในวันนี้ หากพิจารณาอนุมัติให้นำรายได้จากการซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระยะเวลา 2 สัปดาห์มาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 
          b) คาดกำไรสุทธิ 1Q59 เติบโตสูงถึง +182% yoy เป็น 172 ล้านบาท จากยอดขายที่เติบโต +25% yoy และอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะเร่งตัวขึ้นจากสัดส่วนสินค้าประเภท High Margin ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้ง การเกิด Economy of Scale ในฐานะ Market Leader และมีสาขาครอบคลุม 
          c) ผลักดันให้กำไรสุทธิปี 2559 เติบโต +31% yoy เป็น 603 ล้านบาท และต่อเนื่อง +11.6% yoy เป็น 673 ล้านบาทในปี 2560
          a) Valuation ไม่แพง ซื้อขาย PER2559 ที่ 12.9 เท่า และมี ROE สูงถึง 57% ถูกกว่าหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ PE ราว 23 เท่า และหุ้นในกลุ่มสินค้า IT เช่น COM7 ที่ 21.8 เท่า
 

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 18 อีก US$311 ล้าน ลดลงจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$747 ล้าน 

Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลางอีกครั้ง
          นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง แต่ก็เพียง 99 ล้านบาทเท่านั้น กดดันต่อ YTD เพียงเล็กน้อย โดยยังคงเป็นการซื้อสุทธิ 7,787 ล้านบาท 
          ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 3 อีก 3,128  รวม 3 วันทำการ Long สุทธิ 19,102 สัญญา เชื่อว่าจะเป็นการทยอยเปิดสถานะ Long ต่อเนื่อง กดดันให้ S50M16 แม้ว่าจะปิดต่ำกว่า SET50 Index ต่อเนื่อง แต่ก็แคบลงเหลือ 5.56 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 10.04 จุด ผลักดันให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิทะลุ 140,000 สัญญา เป็น 143,801 สัญญา  
          และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 เพียง 1,963 ล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิ 31,787 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิเพียง 2,696 ล้านบาท โดยราคาพันธบัตรไทยยังคงขยับขึ้นต่อเนื่อง ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเพียง 0.11bps จากวันก่อนหน้าลดลง 1.50bps ปิดที่ 1.809%

Short-Selling วานนี้ 
ลดลงเป็นวันที่ 3 เหลือ 876 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,356 ล้านบาท 
 

NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 15 เน้นกลุ่มพลังงาน / ธนาคาร เด่น
          การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 1,749 ล้านบาท ชะลอตัวจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 3,405 ล้านบาท รวม 15 วันทำการ ซื้อสุทธิ 41,784 ล้านบาท โดยกลับมาเน้นหุ้นหลักในกลุ่มหลักอีกครั้ง สรุปภาพรวมได้ดังนี้
          1. กลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 5 อีก 678 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิมากถึง 1,001 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มธนาคารซื้อสุทธิ 521 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 389 ล้านบาท กลุ่มปิโตรเคมี ซื้อสุทธิ 279 ล้านบาท กลุ่มโรงพยาบาล ซื้อสุทธิ 151 ล้านบาท
          2. ส่วนกลุ่ม ICT ถูกขายสุทธิสูงสุด 352 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 645 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มท่องเที่ยวขายสุทธิ 25 ล้านบาท 

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค

สหรัฐอเมริกา
         
ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ. หดตัวมากกว่าคาด: ลดลง 7.1% mom จากที่ Bloomberg consensus คาด -2.4% mom และเดือนก่อนหน้าที่ +0.4% mom เป็นระดับต่ำสุดลำดับที่ 2 นับตั้งแต่เดือนก.พ. 2558 โดยยอดขายบ้านมือสองที่เป็นบ้านเดี่ยวลดลง 7.2% mom, คอนโดมิเนียม ลดลง 6.6% mom พร้อมกับทุกภูมิภาคลดลง mom เช่นกัน

 
ยุโรป
          ไม่มี

จีน          
          ไม่มี

เอเชียแปซิฟิก
         
IMF คาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามเผชิญกับความเสี่ยง: ถ้าหากไม่เร่งกระตุ้นปฎิรูปโครงสร้าง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ระบบธนาคาร และปรับโครงสร้างกับรัฐวิสาหกิจ เพราะภาพรวมเศรษฐกิจเวีดยนามไม่อยู่ในภาวะที่จะทนแรงเสียดทานจากนโยบายการเงินในต่างประเทศที่จะเข้มงวดขึ้น ยิ่งการลดลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยาวนาน รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ย่อมกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ
         
คำสั่งภาคส่งออกไต้หวันหดตัวน้อยกว่าคาด: ลดลง 7.4% yoy ในเดือน ก.พ. จากเดือนก่อนหน้าที่หดตัว 12.4% yoy เทียบกับ Bloomberg Consensus คาด -10.0% yoy ทั้งนี้อุปสงค์สำหรับแลปท๊อปดีกว่าที่ประเมิน รวมถึงค่าเงินเยนของคู่แข่งอย่างญี่ปุ่นมีทิศทางที่แข็งค่าขึ้น โดยทางการคาดหวังการฟื้นตัวเป็นบวกในช่วง 2H59

ไทย
         
กระทรวงการคลัง เตรียมออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายประชาชน: กระทรวงการคลังเตรียมเสนอแพคเกจกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้แก่ มาตรการเที่ยวและกิน เพื่อให้ประชาชนสามารถนำใบเสร็จมาหักลดหย่อนภาษี วงเงินไม่เกิน 15,000 บาท ถือเป็นนโยบายที่ช่วยให้ประชาชนท่องเที่ยวภายในประเทศ คล้ายกับมาตราช้อปช่วยชาติ ช่วงปลายปี 58 ที่ผ่านมา ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ประชาชนใช้ช้อปปิ้งซื้อสินค้า ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาการจ่ายเงินให้กับข้าราชการและประชาชน เพื่อนำไปใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์อีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจภายในประเทศ เกิดการขยายตัวเพิ่มขึ้น
         
รมว.คมนาคม เผยดันรถไฟฟ้าสีส้ม-เหลือง-ชมพูเข้า ครม.29 มี.ค.นี้: รมว.คมนาคม กล่าวว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี)ไปเมื่อสองเดือนก่อน ตนเองได้มอบให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไปดำเนินการพิจารณาปรับราคาค่าก่อสร้างให้เหมาะสม ซึ่งขณะนี้ รฟม.ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว และกระทรวงฯ จะเสนอให้ ครม.พิจารณาอนุมัติในวันที่ 29 มี.ค.59
 
เช่นเดียวกับสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP) ไปแล้วก็จะเสนอเข้า ครม.ในคราวเดียวกัน คาดดำเนินการประกวดราคาราวเดือน ก.ค.-ส.ค.ก็จะหาผู้รับเหมาสายสีชมพูและสีเหลืองได้ ส่วนสายสีม่วงใต้คาดว่าจะเสนอเข้า ครม.ได้ราวเดือน พ.ค.-มิ.ย.59
 
ส่วนสายสีส้มตะวันตกคาดว่า ครม.จะอนุมัติภายในปีนี้แน่นอน ส่วนสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน จะเปิดให้บริการได้ราวเดือน ส.ค.59 ขณะที่สายสีน้ำเงินช่วงต่อขยายขณะนี้การก่อสร้างมีคืบหน้าแล้ว 70% เหลือการจัดหาผู้เดินรถ คาดว่าจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ PPP และ ครม.ได้ราวเดือน เม.ย.59


โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 22 มี.ค. 2559






 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 มี.ค. 2559 เวลา : 10:31:32

19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 4:43 am