ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บอร์ดJAS ซื้อหุ้นคืนเคาะราคา 5 บ./หุ้นรวม 16.82%


 


นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) หรือ JAS แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัทมีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน กำหนดราคาเสนอซื้อคืนที่ 5 บาทต่อหุ้น ในวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท จำนวน 1,200 ล้านหุ้น หรือ 16.82% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดโดยจะนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 เม.ย. 59 นี้

 
 
หลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาหุ้นที่จะซื้อคืน ประกอบด้วย ราคาหุ้นของบริษัทเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วัน ก่อนวันประชุมคณะกรรมการในวันที่ 22 มี.ค. อยู่ที่ระดับ 3.17 บาท/หุ้น ขณะที่ราคาที่จะเสนอซื้อคืนนั้นจะอยู่ที่ 5 บาท/หุ้น อ้างอิงจากราคาเฉลี่ยย้อนหลังระหว่างวันที่ 6 มี.ค.58 ถึง 4 มี.ค.59 ซึ่งอยู่ที่ 5.01 บาท/หุ้น (ก่อนวันประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 7 มี.ค.59 เพื่อพิจารณาอนุมัติโครงการ)  
           
ทั้งนี้ ราคาที่เสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไปสูงกว่าราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วันดังกล่าว คิดเป็นประมาณ 57.7% เนื่องจากในช่วงระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นของบริษัทมีความผันผวนเป็นอย่างมาก ตามความผันผวนของตลาดทุนโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดทุนไทย  ตลอดจนข่าวที่เกี่ยวกับการขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ในช่วงที่ผ่านมา โดยราคาปิดสูงสุดในช่วงระยะเวลา 12 เดือนอยู่ที่ 7.20 บาท และต่ำสุดที่ 2.74 บาท ดังนั้น การใช้ราคาเฉลี่ยย้อนหลังระหว่างวันที่ 6 มี.ค.58-4 มี.ค.59 เพื่อหาค่าเฉลี่ยของราคาหุ้นจึงเป็นระยะเวลาที่บริษัทเชื่อว่าสามารถสะท้อนราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาได้ดีที่สุด
          
 ณ วันที่ 31 ธ.ค.58 มีกำไรสะสม 2,298 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 4 มี.ค.บริษัทได้บันทึกเงินปันผลรับจากบริษัท อคิวเมนท์ จำกัด จำนวน 5,952 ล้านบาท ทำให้บริษัทจะมีกำไรสะสมไม่น้อยกว่า 8,250 ล้านบาท ซึ่งเมื่อหักเงินปันผลจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นในเดือนพ.ค.ประมาณ 2,140 ล้านบาทแล้ว ก็ยังมีกำไรสะสมเพียงพอที่จะทำการซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ด้วย 

นอกจากนี้ การซื้อหุ้นคืนดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ด้วย เนื่องจากณ วันที่ 31 ธ.ค.58 มีเงินกู้ยืมระยะสั้นจากกิจการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นเงินกู้ยืมเพื่อลงทุนเป็นผู้ถือหุ้นในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) สัดส่วน 33.33% และได้รับผลตอบแทนเป็นรายไตรมาส รวมประมาณ 9% ต่อปี ซึงยังสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสำหรับเงินกู้ยืมดังกล่าว และบริษัทไม่มีภาระที่จะต้องจ่ายชำระหนี้อื่นใดอีก 
 


 

บันทึกโดย : วันที่ : 22 มี.ค. 2559 เวลา : 19:47:14

26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 10:20 pm