ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง


 


ตลาดหุ้นไทยวานนี้
          SET INDEX วันอังคารที่ผ่านมา แกว่งในแดนบวกตลอดชั่วโมงการซื้อขาย ผลักด้วยกลุ่มธนาคาร และ SCC อย่างโดดเด่น ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวก 15.58 จุด มาอยู่ที่ 1,385.42 จุด มูลค่าการซื้อขาย 31,024 ล้านบาท
          นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิเป็นวันที่ 6 อีกเล็กน้อย 563 ล้านบาท แต่คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 3 อีก 4,479 สัญญา ส่วนตลาดตราสารหนี้ขายสุทธิเป็นวันที่ 2 เล็กน้อย 116 ล้านบาท
 
 

ปัจจัยสำคัญวันนี้
          - การหารือกลุ่มโอเปก และนอกกลุ่มโอเปก ไม่ได้ข้อสรุป 
          - ตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาเป็นกลางถึงบวก ทั้งการส่งออก และ GDP ใน 1Q59
          - DJIA ปิดบวก 3 ใน 4 วัน ช่วงที่ตลาดหุ้นไทยปิดทำการ
          - เงินเยนแข็งค่าแตะระดับ Yen108/US$ กดดัน Nikkei เช้านี้
          - ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการโซลาร์สหกรณ์ 600MW ในวันที่ 18 เม.ย.
          - ดัชนีค่าระวางเรือบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 15 ล่าสุดปิดทะลุ 600 จุดมาอยู่ที่ 635 จุด
 
 
 

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 6)
          MBKET คาด SET INDEX จะขยับขึ้นทดสอบด่าน 1,400 จุด เด่นกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชีย เพื่อชดเชยช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่จะกลับมาเฉลี่ย 4.0-4.5 หมื่นล้านบาท/วัน โดยกลุ่ม Domestic play ยังคงเป็นกลุ่มที่น่าสนใจ จากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ 
          อย่างไรก็ตาม กลุ่มเดินเรือ คาดว่าจะโดดเด่นต่อเนื่องจากช่วงก่อนหน้าวันหยุดยาว ตามติดทิศทางค่าระวางเรือที่เพิ่มขึ่นทะลุ 600 จุด ภายใน 1 เดือนเท่านั้น เราคาดว่าทั้ง PSL / TTA ที่ซื้อขายเพียง 0.4-0.5x ของ BVPS ณ สิ้นปี 2559 น่าจะเป็นจุดของการเก็งกำไรได้เช่นกัน 
          ทั้งนี้จับตาค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะแข็งค่าในสัปดาห์นี้ และจะกลายเป็นเหตุให้เงินทุนต่างชาติไหลเข้าเก็งกำไรต่อผลการดำเนินงานใน 1Q59 ของตลาดหุ้นไทย ขณะที่กลุ่มธนาคารที่ปรับตัวลงมาตลอด 1-2 สัปดาห์ จากการลดอัตราดอกเบี้ย MLR และแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 1H59 มี downside risk จากประมาณการ คาดว่าราคาจะทรงตัวได้ดีขึ้น แต่ก็ฟื้นตัวได้อย่างจำกัด
          เรายังคงให้น้ำหนักกับกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง/ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และเก็งกำไรกลุ่มเดินเรือ

Stock Pick of The Day          
          1. เก็งกำไร TTA  : ราคาปิด 8.30 บาท ราคาเหมาะสม 11.80 บาท
          a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มเรือเทกองจะมี Sentiment บวกจากการไต่ระดับขึ้นของดัชนีค่าระวางเรือ BDI เป็นวันที่ 15 ติดต่อกันอีก 38 จุด เป็น 635 จุด 
          b) ราคาหุ้นยัง Laggard โดย 1 เดือนที่ผ่านมา หุ้น TTA ปรับตัวขึ้นเพียง +2% เทียบกับ PSL ที่ปรับตัวขึ้น +21% 
          c) Downside Risk จำกัด เนื่องจากซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีสิ้นสุดปี 2558 ที่ 11.80 บาท หรือเทียบเท่า PBV เพียง 0.70 เท่า           
          2. เก็งกำไร AAV : ราคาปิด 6.00 บาท ราคาเหมาะสม 6.50 บาท
          a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มสายการบินจะตอบรับเชิงบวก หลังราคาน้ำมันดิบเช้านี้ปรับตัวลง -6% เนื่องจากการประชุมระหว่างผู้ผลิตน้ำมันที่กรุงโดฮา ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อตรึงกำลังการผลิตน้ำมันได้ 
          b) ผลประกอบการ 1Q59 คาดว่าจะเติบโตสูงทั้ง  yoy และ qoq จาก Load Factor ที่เพิ่มขึ้นเป็น 85%  ใน 1Q59 จาก 1Q58 ที่ 83% และได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันอากาศยานที่ปรับตัวลง โดยมีการทำ Hedging น้ำมันไว้แล้ว 50% ดังนั้น คาดว่าต้นทุนน้ำมันใน 1Q59 จะลดลงเหลือ US$50.00/barrel เทียบกับ 1Q58 ที่ US$85/barrel 
          c) คาดกำไรสุทธิปี 2559 เติบโตสูงถึง 50-60% yoy และมีโอกาสที่ Consensus จะปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้น หากงบ 1Q59 ออกมาดีกว่าคาดการณ์

Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิ US$119 ล้าน

Foreign Investors Action วานนี้
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยวันที่ 6 แต่เบาบาง
          นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 เพียง 563 ล้านบาท รวม 6 วันทำการขายสุทธิ 10,033 ล้านบาท ขณะที่ YTD ยังคงเป็นการซื้อสุทธิ 12,961 ล้านบาท 
แต่นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคง Long สุทธิ SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 อีก 4,479 สัญญา รวม 3 วันทำการ Long สุทธิทั้งสิ้น 13,066 สัญญา และทำให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเหลือเพียง 556 สัญญาเท่านั้น โดยที่ S50M16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index อยู่ 5.89 จุด สะท้อนนักลงทุนกลุ่มนี้อาจทำ Arbitrage ระหว่าง 2 ตลาดได้เช่นกัน
          ขณะที่ตลาดตราสารหนี้นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงขายสุทธิเป็นวันที่ 2 แต่ก็เพียง 116 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 3,631 ล้านบาท โดยที่ราคาพันธบัตรไทยยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 2.63bps ปิดที่ 1.725% 

Short-Selling วานนี้ 
ลดลงเป็นวันที่ 2 เหลือเพียง 593 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,014 ล้านบาท NVDR Movement

NVDR กลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ แต่ก็เพียงเบาบาง 
          การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ เพียง 73 ล้านบาท เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 3,521 ล้านบาท โดยยังคงลดน้ำหนัก BBL / INTUCH เป็นหลัก ขณะที่การทยอยสะสมหุ้นผ่าน NVDR กระจายในกลุ่มหลักอย่างพลังงาน และค้าปลีกเท่านั้น

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค

สหรัฐอเมริกา

          ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลางถึงลบ
          - อัตราเงินเฟ้อ เดือนมี.ค. เท่ากับ 0.1% mom ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดการณ์ที่ 0.2% mom แต่ฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ -0.2% mom โดยอัตราเงินเฟ้อที่แท้จริง ไม่รวมอาหารและพัลังงาน เพิ่มขึ้น 0.1% mom ชะลอตัวจาก 2 เดือนก่อนหน้าที่เติบโต 0.2% mom
          - ยอดขอสวัสดิการว่างงาน เท่ากับ 2.53 แสนตำแหน่ง ดีกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 2.67 แสนตำแหน่ง และสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.66 แสนตำแหน่ง
          - ยอดค้าปลีก เดือนมี.ค. หดตัว 0.3% mom สวนทางกับที่ Bloomberg consensus คาดการณ์ +0.1% mom และเดือนก่อนหน้าที่ +0.0% mom โดยยอดขายยานยนต์หดตัว 2.1% mom เป็นการหดตัวแรงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2558 ขณะที่ยอดขายน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้น 0.9% mom จากราคาที่เพิ่มขึ้น 
          - ผลผลิตภาคอุตฯ เดือนมี.ค. หดตัว 0.6% mom มากกว่า Bloomberg consensus คาด -0.1% mom แต่เท่ากับเดือนก่อนหน้า โดยกำลังการผลิตยานยนต์ลดลง 1.6% mom ผลผลิต Utilities ที่ลดลง 1.2% mom เป็นเดือนที่ 2 และเหมืองแร่ อีก -2.9% mom กดดันผลผลิตในภาพรวม
          - ดัชนี Consumber sentiment เดือนเม.ย. เบื้องต้นที่ 89.7 จุด ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 91.8 จุด และเดือนก่อนหน้าที่ 91.0 จุด โดยเป็นแรงกดดันจากความเชื่อมั่นในการหางานในอนาคต รวมถึงแนวโน้มของรายได้

ยุโรป

อัตราเงินเฟ้อในยุโรปยังคงติดลบ          
          - BoE กังวลต่อแนวทางการออกจากสมาชิกอียูของอังกฤษ: ประธาน BoE ประเมินถึงการทำประชาพิจารณ์ที่จะให้ออกจากการเป็นสมาชิกของอียู ถือเป็นความเสี่ยงสูงสุดของเสถียรภาพทางการเงินของอังกฤษ รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริหารระดับสูงของภาคเอกชนที่จะกู้, ลงทุน และการจ้างงาน ซึ่งในการประชุม BoE เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ประเด็นนี้อาจส่งผลกระทบต่อการขายหุ้น และดีลด้าน Private-equity รวมถึงการซื้อขายอสังหาฯ 
          - BoE คงอัตราดอกเบี้ย: ที่ 0.5% เป็นระดับต่ำสุดใน 7 ปี โดยสมาชิกทั้ง 9 ท่านได้ลงความเห็นเหมือนกันต่อการคงอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก และความไม่แน่นอนต่อการลงประชาพิจารณ์ออกจากการเป็นสมาชิกในกลุ่มอียูที่จะมีขึ้นในอีก 2 เดือนข้างหน้า
          - อัตราเงินเฟ้อในอียูยังคงติดลบในเดือนมี.ค.: เท่ากับ -0.1% mom จากเดือนก.พ.ที่ -0.2% mom เป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ปานกลาง ไม่มากเพียงพอที่จะชดเชยกับราคาน้ำมันที่ลดลง และแม้ว่า ECB จะเพิ่มวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์เป็น 8.0 หมื่นล้านยูโร/เดือน จากเดิม 6.0 หมื่นล้านยูโร/เดือน ตั้งแต่เดือนมี.ค.แล้วก็ตาม
          - ประธาน ECB ยืนยันยังไม่เห็นภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์: นาย Draghi ยืนยันที่จะเพิ่มมาตรการ หากมีความจำเป็นเพื่อกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อ แต่ ณ ปัจจุบัน ยังไม่เห็นสัญญาณดังกล่าว ยกเว้นว่า มาตรการผ่อนคลายทางการเงินจะทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์ ภาพรวมเศรษฐกิจในอียู ยังเผชิญกับความไม่แน่นอน เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศเกิดใหม่ ความเสี่ยงด้านภูมิศาสตร์ และราคาน้ำมัน ทำให้ ECB จะยังคงอัตราดอกเบี้ยต่ำเช่นนี้ หรือ ต่ำกว่านี้ ในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น 
 

จีน          

          ตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาเป็นกลางถึงบวก
          - เศรษฐกิจใน 1Q59 เติบโต 6.7% yoy เท่ากับที่ตลาดคาดการณ์ และสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลที่ 6.5-7.0% ในปีนี้ โดยผลักดันจากยอดสินเชื่อใหม่ที่เติบโต, ผลผลิตภาคอุตฯ ที่ขยายตัว, การลงทุนในสินทรัพย์คงที่ และยอดค้าปลีกที่ฟื้นตัวในเดือนมี.ค. 
          - ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 71.0% yoy เป็น 8.698 แสนล้านหยวน เป็นการเติบโตที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558 เป็นอย่างน้อย การลงทุนในภาคอสังหาฯ ของผู้พัฒนา เพิ่มขึ้น 6.2% qoq ใน 1Q59  
          - การส่งออกเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 18.7% yoy ในรูปสกุลเงินหยวน เป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค. หลังจากหดตัว 20.6% yoy ในเดือนก่อนหน้า แนวโน้มการส่งออกเติบโตในระดับปานกลาง
          - การนำเข้า เดือนมี.ค. หดตัว 1.7% yoy ดีขึ้นจากเดือนก.พ.ที่ -8.0% yoy 
          - ดุลการค้า เดือนมี.ค. เกินดุล 1.946 แสนล้านหยวน ลดลงจากเดือนก.พ.ที่เกินดุล 2.095 แสนล้านหยวน

เอเชียแปซิฟิก

          การประชุมที่โดฮาไม่ได้ข้อสรุป
          - ซาอุฯ ยืนยันคงเพดานการผลิต หากสมาชิกอื่นร่วมด้วย: ซาอุดิอาระเบีย จะยังไม่เข้าร่วมคงเพดานการผลิตน้ำมัน หากผู้ผลิตรายอื่นๆ ไม่เข้าร่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิหร่าน ซึ่งซาอุฯ มีโควต้าการผลิตน้ำมัน 10.3-10.4 ล้านบาร์เรล/วัน 
          - การประชุมโดฮา ไม่ได้ข้อสรุป: การประชุมระหว่างกลุ่มโอเปก และนอกกลุ่มโอเปก เกี่ยวกับคงเพดานการผลิตไม่ให้เกินระดับเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ไม่ได้ข้อสรุป 
          - ญี่ปุ่นกังวลต่อภาวะเงินเยนที่แข็งค่า: หลังค่าเงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ สูงสุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และแตะระดับแข็งค่าสุดมากกว่า 17 เดือนที่ผ่านมา ภาวะความผันผวน และการเคลื่อนไหวของค่าเงินที่ไม่เป็นไปตามกลไก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นอย่างมีนัยยะสำคัญ 
          - ธนาคารกลางอินโดนีเซีย เตรียมปรับการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย: โดยเตรียมใช้อัตราดอกเบี้ย RP7 วัน เพื่อเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ จากปัจจุบันใช้อัตราดอกเบี้ย RP12 เดือน อยู่ที่ 6.75% ส่วนอัตราดอกเบี้ย RP7 วันอยู่ที่ 5.5% 
          - ส่งออกอินโดนีเซียหดตัวต่อ: ลดลง 13.51% yoy ในเดือน มี.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่หดตัว 7.07% yoy แต่ดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดลดลง 14.00% yoy ทั้งนี้การส่งออกไปยังสหรัฐฯและอียูยังหดตัว 6.8% และ 4.6% mom ขณะที่เพิ่มขึ้น 15.1% และ 6.6% mom ในอาเซียนและจีน ตามลำดับ ด้านการนำเข้าลดลง 10.4% yoy ทำให้ดุลการค้าเกินดุลอยู่ที่ระดับ US$497 ล้าน

          ตัวเลขเศรษฐกิจสิงคโปร์ออกมาเชิงลบ
          - ยอดค้าปลีกเดือน ก.พ.หดตัว 3.2% yoy เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 7.6% yoy ขณะที่ Bloomberg Consensus คาดเพิ่มขึ้น 3.4% yoy 
          - ยอดส่งออกหดตัว 15.6% yoy ในเดือน มี.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 2.0% yoy และแย่กว่าที่ Bloomberg Consensus คาดลดลง 12.3% yoy ทั้งนี้การส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ลดลง 9.1% yoy รวมถึงเวชภัณฑ์และปิโตรเคมีที่ลดลง 30.9% และ 16.4% yoy ตามลำดับ

ไทย
          ไม่มี



โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 18 เม.ย. 2559

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 18 เม.ย. 2559 เวลา : 10:21:39

19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 6:15 pm