ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง


 



ตลาดหุ้นไทยวานนี้
          SET INDEX วานนี้แกว่งในกรอบแคบ 1,410 จุด +/- หุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT / SCC/ PTTGC ที่ขึ้นเด่นในสัปดาห์ก่อนเผชิญกับแรงขายทำกำไร หุ้นขนาดกลางกลับขยับขึ้นมาเด่นในภาพรวม ปิด ณ  สิ้นวันที่ 1,408.71 จุด ลบ 2.10 จุด มูลค่าการซื้อขาย 30,406 ล้านบาท
          ทั้งนี้เงินทุนต่างชาติชะลอตัวชัดเจน ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เพียง 4 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 9 วันทำการ 640 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้ 692 ล้านบาท
 

ปัจจัยสำคัญวันนี้
          ตัวเลขส่งออกเดือนมี.ค. ของไทยขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 +1.30% yoy สวนทางกับ Bloomberg consensus คาด -4.70% yoy
          การประชุมครม.วันนี้ ยังไม่เสนอร่างพ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อพิจารณาในวันนี้
          เงินทุนต่างชาติชะลอการลงทุนทั้งตลาดเงินและตลาดทุนไทยชัดเจน
          นักลงทุนทั่วโลกต่างชะลอตัว เพื่อรอดูผลการประชุมเฟดในคืนวันพรุ่งนี้
 

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 12)
          บรรยากาศการลงทุนใน 1-2 วันนี้ เราคาดว่าจะแกว่งลักษณะ Sideways-to-Sideways-Down เพื่อทดสอบด่าน 1,400 จุด เพราะแรงซื้อจากสถาบันทั้งในและต่างประเทศชะลอตัว เพื่อรอดูผลการประชุมเฟดในคืนวันพรุ่งนี้ ทำให้การเคลื่อนไหวระหว่างสินทรัพย์เสี่ยงและสินทรัพย์ที่เป็น Safe haven แกว่งในกรอบแคบๆ 
          เมื่อนักลงทุนทั่วโลกต่างให้น้ำหนักกับความเห็นของเฟดต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งจะมีความชัดเจนในคืนวันพรุ่งนี้ หุ้นขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Commodity อย่างพลังงาน / ปิโตรเคมี / เกษตร ย่อมชะลอตัว และเผชิญกับแรงขายทำกำไรรอบสั้น ขณะที่ กลุ่ม Domestic Play อย่างกลุ่มธนาคาร / อสังหาฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวบ้าง แต่ก็มี upside gain ที่จำกัดในช่วงนี้เช่นกัน
          เราประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,395 – 1,415 จุด มูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบาง 3.5-4.0 หมื่นล้านบาทเท่านั้น
          กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำให้นักลงทุนทยอยเข้าเก็งกำไรหุ้นเป้าหมายต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นขนาดกลางที่มีผลการดำเนินงาน 1Q59 เด่น หรือมีประเด็นเชิงบวกเฉพาะตัวเป็นทางเลือกในช่วงสั้นนี้

Stock Pick of The Day
          1.  สะสม BEM : ราคาปิด 5.65 บาท ราคาเหมาะสม 6.50 บาท
          a)  MBKET คาดว่าหุ้น Defensive จะ Outperform ตลาดในเดือน พ.ค. เนื่องจากเชื่อว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะมีความผันผวนมากขึ้น และส่งผลให้ SET INDEX มีโอกาสถูกขายทำกำไร หลังปรับตัวขึ้นราว 10% YTD
          b)  มีปัจจัยบวกรออยู่ คือ การทดลองเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง ในเดือน พ.ค. และจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในเดือน ส.ค. ขณะที่ทางด่วนศรีรัชจะเปิดให้บริการในเดือน ก.ย. นอกจากนั้น คาดว่า BEM จะถูกเพิ่มเข้าสู่ SET50 ซึ่งจะประกาศในช่วงปลายเดือน มิ.ย.
          c)  คาดผลประกอบการ 1Q59 เติบโต +14% yoy เป็น 680 ล้านบาท จากการเติบโต yoy ของทุกธุรกิจ ได้แก่ ทางด่วน, รถไฟฟ้าและสื่อโฆษณา และ 2Q59 จะเติบโต yoy & qoq เนื่องจากจะเป็นไตรมาสแรกที่ได้ประโยชน์จากการ Refinance ส่งผลให้ต้นทุนดอกเบี้ยลดลงจาก 6.2% เหลือ 4.8% 

          2.  เก็งกำไร ERW: ราคาปิด 4.48 บาท ราคาเหมาะสม 4.80 บาท
          a)  MBKET คาดว่าผลประกอบการ 1Q59 จะเติบโตสูงทั้ง yoy & qoq เป็น 160-180 ล้านบาท เป็น Positive Surprise กับตลาด และกำไรสุทธิไตรมาสเดียวจะเกือบเทียบเท่ากำไรปี 2558 ที่ 197 ล้านบาท 
          b)  มีโอกาสที่ Consensus จะทบทวนประมาณการกำไรปี 2559 ขึ้น เนื่องจากประเมินกำไรสุทธิปี 2559 ไว้เพียง 320 ล้านบาท 
          c)  แผนการจัดตั้งกอง REIT เป็น Upside Risk ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ และซื้อขายที่ EV/EBITDA 2559 ระดับ 11.7 เท่า ต่ำกว่า CENTEL ที่ 13.4 เท่า และ MINT ที่ 16.3 เท่า

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 6 อีก US$185 ล้าน เร่งขึ้นจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$165 ล้าน 
ตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดเดียวที่ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2

Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอตัวชัดเจน
          นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิเป็นวันที่ 2 เพียง 4 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ขายสุทธิ 54 ล้านบาทเท่านั้น และทำให้ YTD ซื้อสุทธิลดลงเล็กน้อย เป็น 16,103 ล้านบาท
          กลับมา Short สุทธิ SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 9 วันทำการ เพียง 640 สัญญา เทียบกับ 8 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิทั้งสิ้น 44,920 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Long บางส่วน หลัง S50M16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบเหลือเพียง 1.57 จุดเท่านั้น จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 2.42 จุด ส่งผลให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิยังคงสูงกว่า 30,000 สัญญา เป็น 30,658 สัญญา    
          และตลาดตราสารหนี้นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เพียง 692 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 5,399 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยกลับมาฟื้นตัวเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ ด้วยพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนลดลง 2.09bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 3.18bps ปิดที่ 1.793% 

Short-Selling วานนี้ 
เพิ่มขึ้นเป็น 1,252 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 960 ล้านบาท 

NVDR Movement
NVDR กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ โดยเน้นลดน้ำหนักเป็นรายตัว
          การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ เพียง 139 ล้านบาท เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 4,073 ล้านบาท ทั้งนี้การขายสุทธิเน้นเป็นรายตัว SCC / PTT/ BANPU เป็นสำคัญ ขณะที่การซื้อสุทธิเป็นไปอย่างเบาบาง 

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค

สหรัฐอเมริกา
          ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
          ยอดขายบ้านใหม่ เดือนมี.ค. เท่ากับ 5.11 แสนหลัง ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 5.22 แสนหลัง และเดือนก่อนหน้าที่ 5.19 แสนตำแหน่ง เนื่องจากการขาดแคลนบ้านใหม่ที่เข้าสู่ตลาด ฉุดให้ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 

 
ยุโรป
          ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมันหดตัวสวนทางกับที่คาด: เดือนเม.ย. เท่ากับ 106.6 จุด ชะลอตัวจากเดือนมี.ค.ที่ 106.7 จุด แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ 107.1 จุด ธนาคารกลางเยอรมัน เห็นสัญญาณการชะลอตัวทางด้านเศรษฐกิจ หลังขยายตัวอย่างแข็งแกร่งใน 1Q59 ด้วยแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน

จีน          
          ไม่มี

เอเชียแปซิฟิก
         
อัตราเงินเฟ้อสิงคโปร์หดตัวลงยาวนานที่สุด: ลดลง 1.0% yoy เดือนมี.ค. หดตัวเป็นเดือนที่ 17 เป็นผลจากค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งและบ้านที่ลดลง เท่ากับที่ตลาดคาดการณ์ แต่เป็นการหดตัวเร่งขึ้นจากเดือนก.พ. ที่ -0.8% yoy สำหรับอัตราเงินเฟ้อที่แท้จริง เพิ่มขึ้น 0.6% yoy  
         
BoJ ส่งสัญญาณให้รัฐบาลใช้นโยบายการคลังมากขึ้นในการกระตุ้นเศรษฐกิจ: แหล่งข่าวจาก BoJ ให้ความเห็นต่อนโยบายการคลัง ถึงเวลาที่จะต้องเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการปฎิรูป เพื่อเพิ่มอัตรการเติบโตทางเศรษฐกิจ 
         
เศรษฐกิจเกาหลีใต้ขยายตัวต่ำใน 1Q59: เติบโตเพียง 0.4% qoq สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และลดอัตราภาษีการซื้อรถยนต์ในช่วง 1H59 ก็ตาม ทั้งนี้ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้ปรับลด GDP ปีนี้ลงเป็น 2.8% จากเดิม 3.0% อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการธนาคารกลางเชื่อว่าเศรษฐกิจจะค่อยๆ ดีขึ้นใน 2Q59 


ไทย
         
 การส่งออกเดือนมี.ค. บวก 1.3% yoy: รมช. พาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกไทยเดือนมี.ค. 59 มีมูลค่า 19,125 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 1.3% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน และเมื่อรวม 3 เดือน (ม.ค. – มี.ค. 59) มีมูลค่า 53,829 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 0.90% ขณะที่การนำเข้าเดือนมี.ค. 59 มีมูลค่า 16,159 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง6.94% และเมื่อรวม 3 เดือน (ม.ค. – มี.ค. 59) มีมูลค่า 45,640 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง11.99% ส่งผลให้ดุลการค้าระหว่างประเทศเดือนมี.ค.59 ยังคงเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกันมีมูลค่า 2,966 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และระยะ 3 เดือน (ม.ค. – มี.ค. 59) เกินดุล 8,189 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
          
ททท.ปลื้มสถานการณ์ท่องเที่ยวเติบโตต่อเนื่อง 1Q59 ขยายตัว 15.45% yoy: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวในประเทศไทย 1Q59 มีแนวโน้มที่เติบโตต่อเนื่อง โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทยประมาณ 9 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 455,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.45 โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2558 มีการเพิ่มขึ้น 18% yoy ซึ่งมาจากการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ การเปิดเที่ยวบินใหม่เข้าประเทศไทย การฟื้นตัวของเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และยุโรป รวมไปถึงการทำการตลาดของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอย่างเข้มข้น เพื่อเจาะกลุ่มตลาดระดับบนที่มีกำลังซื้อมากขึ้น

โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 26 เม.ย. 2559
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 26 เม.ย. 2559 เวลา : 10:31:34

23-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 23, 2024, 3:50 pm