ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง


 


ตลาดหุ้นไทยวานนี้
          SET INDEX วานนี้ซึมตัวลงในรอบเช้า จากความกังวลกรณี คตส.จะพิจารณาเรื่องท่อก๊าซของ PTT ซึ่งมีมติให้ ครม.ส่งเรื่องฟ้องศาลปกครองต่อไป บวกกับแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคาร ส่งผลให้ SET INDEX ปิดลบ 4.01 จุด มาอยู่ที่ 1,390.13 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 44,375 ล้านบาท
ต่างชาติยังคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 อีก 1,306 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 4 อีก 9,210  สัญญา แต่คงการซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 4 เพียง 224 ล้านบาท 

ปัจจัยสำคัญวันนี้
          ติดตามการประชุม กนง. วันนี้ เราและ Bloomberg consensus คาดคงอัตราดอกเบี้ย RP1 วันที่ 1.50%
          ติดตามการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เพราะจะมีผลต่อทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติ
          จับตาการประกาศงบการเงินวันนี้ ROBINS อาจออกมาดีกว่าคาด
          งบที่ออกมาดีกว่าคาดวานนี้ได้แก่ BIG / IVL / TKN

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 19)
          เราประเมินทิศทางการลงทุนของ SET INDEX วันนี้ ออกเป็น 2 กรณี เพราะขึ้นอยู่กับผลการประชุม กนง. ช่วงสายวันนี้ 
          หากกนง. คงอัตราดอกเบี้ย RP1 วัน ตามที่เราและตลาดประเมิน คาดว่าค่าเงินบาทจะทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และทำให้เงินทุนต่างชาติกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีกระลอก จับตาหุ้นหลักกลุ่มธนาคารในกรณีนี้
          แต่หาก กนง. ลดอัตราดอกเบี้ย RP1 วันลงเป็น 1.25% จากปัจจุบัน 1.50% น่าจะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เราประเมินว่าบริเวณ 35.40-35.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ น่าจะเป็นระดับที่เงินทุนต่างชาติไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทย 
          ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ 1 หรือ 2 เม็ดเงินทุนต่างชาติจะไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทย เพียงแต่จะไหลเข้าทันที หรือรอจังหวะการเข้าสะสมขึ้นอยู่กับทิศทางค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลต่อหุ้น Big Cap 
          ดังนั้นช่วงสั้น เราแนะนำเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางที่ผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าคาด ส่วนหุ้นหลัก ยังอยู่ในภาพของการแกว่งออกด้านข้างอีกระยะหนึ่ง
 

Stock Pick of The Day          
          1.  เก็งกำไร TPIPL: ราคาปิด 2.46 บาท ราคาเหมาะสม 3.40 บาท 
          a)  MBKET คาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก หลังวานนี้ได้ยื่น Filing ให้กับกลต.แล้ว เพื่อนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียน IPO ในตลท.
          b)  ทิศทางผลประกอบการ 1Q59 คาดว่าจะเติบโตทั้ง yoy และ qoq เป็น 400-500 ล้านบาท จากแรงหนุนของธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะที่จะรับรู้รายได้เต็มไตรมาสและใช้กำลังการผลิตเต็มที่เป็นไตรมาสแรก จึงเชื่อว่าจะเป็น Catalyst ให้ราคาหุ้นฟื้นตัวได้ 
          c)  คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2559 โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต +600% yoy เป็น 2,879 ล้านบาท และราคาหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี โดยซื้อขายที่ระดับ PBV2559 เพียง 0.84 เท่า           
          2.  เก็งกำไร GLOBAL: ราคาปิด 11.00 บาท ราคาเหมาะสม 10.70 บาท
          a)  GLOBAL รายงานกำไรสุทธิ 1Q59 ที่ 451 ล้านบาท เติบโต +109% yoy และดีกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ 290-300 ล้านบาทถึง 50% 
          b)  กำไร 1Q59 คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 41% ของประมาณการกำไรทั้งปีของ Consensus ที่ 1,100 ล้านบาท จึงเชื่อว่าจะเห็นการปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้น และเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนราคาหุ้น
          c)  ดังนั้น แม้ราคาหุ้นจะสูงกว่าราคาเหมาะสมของเราแล้ว แต่ด้วย Momentum บวกของผลประกอบการ 1Q59 ที่ออกมาดีกว่าคาดการณ์มาก จึงแนะนำเก็งกำไร โดยมีเป้าหมายทางเทคนิคที่ 12.00 บาท

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิลดลงเหลือ US$95 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$451 ล้าน 
 

Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทย ทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นวันที่ 3 
          นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 อีก 1,306 ล้านบาท รวม 3 วันทำการ ขายสุทธิ 4,574 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิลดลงเหลือเพียง 9,246 ล้านบาท
          และ SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 4 มากถึง 9,210 สัญญา รวม 4 วันทำการ Short สุทธิ 25,999 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Long ทั้งหมดใน QTD และกลับมามีสถานะเป็น Short โดยยอด QTD นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิ 2,735 สัญญา กดดันให้ S50M16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index ลดลงเหลือ 2.26 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 3.36 จุด     
          โดยเม็ดเงินถูกโยกเข้าพักในตลาดตราสารหนี้บางส่วน นักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 เพียง 224 ล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิ 15,055 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยปรับตัวลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ พันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 0.14bps จากวันก่อนหน้าลดลง 2.07bps ปิดที่ 1.812%  

Short-Selling วานนี้ 
ยังคงหนาแน่น 1,175 ล้านบาท แม้ลดลงจากวันก่อนหน้า 1,417 ล้านบาท            

NVDR Movement
NVDR ขายสุทธิเป็นวันที่ 2 โดยเน้นกลุ่มธนาคาร เพื่อปิดความเสี่ยงต่อการประชุม กนง.วันที่ 11 พ.ค.
          การซื้อขายผ่าน NVDR ขายสุทธิอีกเล็กน้อย 127 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 295 ล้านบาท โดยเป็นการปรับน้ำหนักระหว่างกลุ่มหลัก ด้วยการลดน้ำหนักกลุ่มธนาคารอย่างโดดเด่น เพื่อปิดความเสี่ยงต่อการประชุมกนง.วันที่ 11 พ.ค. หากมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย สวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ ส่วนหนึ่งพักเงินในกลุ่มพลังงาน

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค

สหรัฐอเมริกา
          ไม่มี

ยุโรป
          ผลผลิตภาคอุตฯ ของเยอรมันลดลงเป็นเดือนที่ 2: ผลผลิตลดลง 1.3% mom ในเดือนมี.ค. เร่งขึ้นจากเดือนก.พ.ที่ลดลง 0.7% mom และแย่กว่าที่ Bloomberg consensus คาด -0.2% mom โดยผลผลิตภาคการก่อสร้าง -3.2% mom สินค้าขั้นกลาง -1.3% mom ส่วนภาคอุตฯ ลดลง 1.2% mom มีเพียงการผลิตด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้น 0.3% mom
          เยอรมันรายงานเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูงสุดใหม่: เดือนมี.ค. ดุลบัญชีเดินสะพัด เกินดุล 3.04 หมื่นล้านยูโร เพิ่มขึ้นจากเดือนก.พ.ที่เกินดุล 2.11 หมื่นล้านยูโร ทั้งนี้ดุลการค้าทำระดับเกินดุลใหม่เช่นกันที่ 2.6 หมื่นล้านยูโร ในเดือนมี.ค.

จีน          
          อัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย.ยังต่ำกว่าเป้าหมาย: เพิ่มขึ้น 2.3% yoy ต่ำกว่า Reuters poll ที่ 2.4% yoy แต่เท่ากับเดือนมี.ค.ที่ 2.3% yoy แต่หากเทียบกับเดือนก่อนหน้า อัตราเงินเฟ้อลดลง 0.2% mom แม้ว่าราคาอาหาร ซึ่งถือเป็นสัดส่วนหลักของอัตราเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้นถึง 7.4% yoy โดยราคาเนื้อหมู เพิ่มขึ้น 33.5% yoy เร่งขึ้นจากเดือนมี.ค.ที่ 28.4% yoy แล้วก็ตาม แต่ราคาผักที่ลดลง กลายเป็นปัจจัยกดดันอัตราเงินเฟ้อ
          ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิตหดตัวในอัตราที่ลดลง: -3.4% yoy สำหรับเดือน เม.ย. เทียบกับเดือนก่อนที่ -4.3% yoy และตลาดคาดที่ -3.7% yoy นอกจากนี้เป็นการเพิ่มขึ้น 0.7% mom ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้น mom ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 นำโดยราคาเหล็กที่เพิ่มขึ้น
          การลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ: เพิ่มขึ้น 6.0% yoy ในเดือน เม.ย. ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนที่ +7.8% yoy แต่ดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาด +5.0% yoy ทั้งนี้ยอด YTD ในช่วง 4M59 เพิ่มขึ้น 4.8%

เอเชียแปซิฟิก
          ธนาคารกลางนิวซีแลนด์เตรียมเพิ่มความเข้มงวดในสินเชื่อบ้าน: ณ ปัจจุบัน ธนาคารกลางเข้ามาดูอย่างใกล้ชิดกับตลาดบ้านที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ธนาคารกลางอาจออกมาตรการควบคุมความต้องการซื้อบ้าน หากจำเป็น เพราะความไม่สมดุลย์ในตลาดบ้าน เป็นตัวสร้างความเสี่ยงต่อเสถียรภาพในตลาดการเงิน

ไทย
          รฟม.คาดสรุปหาผู้เดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายได้ปลายเดือนนี้ – ต้นเดือนหน้า: ประธานกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม.จะเร่งจัดหาผู้เดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแคและบางซื่อ-ท่าพระ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปลายเดือน พ.ค.-ต้นเดือน มิ.ย.นี้ที่กคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการภาครัฐ (PPP) ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานจะประชุมเพื่อพิจารณาอนุมัติแนวทางการคัดเลือกในวันพรุ่งนี้ โดยหากคณะกรรมการ PPP อนุมัติว่าจะเลือกแนวทางระหว่างการเจรจากับผู้เดินรถรายเดิม คือ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ซึ่งเป็นผู้เดินรถสายสีน้ำเงินสายหลัก เส้นทางหัวลำโพง-บางซื่อ หรือจะจัดประมูลหาผู้เดินรถรายใหม่ ก็จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบ ต่อจากนั้น รฟม.จะแต่งตั้งคณะกรรมการมาตรา 35 ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาดำเนินการและเสนอให้ครม.รับทราบต่อไป

 
 

โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 11 พ.ค. 2559






 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 พ.ค. 2559 เวลา : 10:39:20

24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 9:40 pm