ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
'อภิรดี'สั่งพาณิชย์จังหวัดตามหาสินค้าอินทรีย์ช้างเผือกตั้งเป้า10ชนิด


 


“อภิรดี”สั่งพาณิชย์จังหวัดตามหาสินค้าอินทรีย์ช้างเผือก ตั้งเป้าพัฒนาเป็นสินค้าใหม่ 10 ชนิด ป้อนตลาดทั้งในและต่างประเทศ พร้อมสั่งทำฐานข้อมูลให้แน่น ทั้งผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และทำราคากลางสินค้าแต่ละประเภท เล็งจัดพีอาร์หนัก กระตุ้นเกษตรกรหันมาผลิตเพิ่ม และกระตุ้นผู้บริโภคหันมาบริโภคเพิ่ม 
   
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศทำการคัดเลือกสินค้าเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่จังหวัดละ 2 ชนิดสินค้า นำมาพัฒนาต่อยอดให้มีคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล เพื่อผลักดันให้เป็นสินค้าเกษตรอินทรีย์ชนิดใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ทั้งการจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปขายต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายให้มีสินค้าเกษตรอินทรีย์ใหม่เพิ่มขึ้นในปีนี้จำนวน 10 ชนิดสินค้า

“ขณะนี้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้คัดเลือกสินค้าส่งไปยังศูนย์ภาคแล้ว โดยจะมีการฝึกอบรม เพื่อพัฒนาตัวสินค้าให้มีมาตรฐาน การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การทำตลาด และการให้ความรู้ด้านการส่งออก โดยเบื้องต้น มีสินค้าที่น่าสนใจ เช่น ข้าวหอมชลสิทธิ์อินทรีย์ เบียร์ขิงออร์แกนิค ชาส้มแขกสำเร็จรูป น้ำลูกหยีผสมน้ำผึ้ง เครื่องสำอาง ข้าวหอมกระดังงา เป็นต้น และเมื่อฝึกอบรมเสร็จ ก็จะทำการคัดเลือกให้เหลือ 10 ชนิดสินค้า เพื่อใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนาสินค้าชนิดอื่นๆ ต่อไป”

สำหรับโครงการตามหาสินค้าเกษตรอินทรีย์ชนิดใหม่ เป็นการต่อยอดจากโครงการพัฒนาฝ้ายและชา ที่ได้ดำเนินการร่วมกับโครงการตามพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2553 ถึงปัจจุบัน โดยประสบความสำเร็จได้รับมาตรฐานอินทรีย์ในระดับส่งออก และยังได้ขยายผลไปสู่กาแฟและเม็ดมะม่วงหิมพานต์อินทรีย์  

นางอภิรดีกล่าวว่า กระทรวงฯ ยังได้จัดทำฐานข้อมูลสินค้าเกษตรอินทรีย์ให้ทันสมัย และให้ข้อมูลเชื่อมโยงกันทั้งระบบ โดยอยู่ระหว่างการรวบรวมผู้ผลิตและผู้ประกอบการสินค้าอินทรีย์ และยังได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในจัดทำและเผยแพร่ข้อมูลต้นทุนการผลิตและราคาสินค้าเกษตรอินทรีย์แต่ละประเภทและแต่ละพื้นที่ เพื่อใช้เป็นราคากลางในตลาด รวมทั้งให้รวบรวมข้อมูลข้าวสารสินค้าอินทรีย์ของไทยและต่างประเทศ เพื่อนำมาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลการตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์
นอกจากนี้ จะเร่งประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรอินทรีย์ว่าดีกว่าสินค้าปกติอย่างไร โดยใช้เกษตรกรที่ประสบความสำเร็จเป็นตัวอย่าง เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรรายอื่นๆ หันมาผลิตสินค้าอินทรีย์เพิ่มขึ้น และในส่วนของผู้บริโภค จะประชาสัมพันธ์ให้เห็นถึงคุณค่า ประโยชน์จากการบริโภคและใช้สินค้าอินทรีย์ เพื่อกระตุ้นให้มีการบริโภคสินค้าอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น

สำหรับการขยายตลาดให้กับสินค้าอินทรีย์ กระทรวงฯ มีแผนจะจัดงาน Organic & Natural Expo 2016 ระหว่างวันที่ 28-31 กรกฎาคม 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และมีกำหนดจัดงานมหกรรมสินค้าอินทรีย์ในวันที่ 2-3 มิ.ย.2559 ณ อาคารอับดุลราฮิม บางรัก กรุงเทพฯ และเดือน ก.ค.2559 ณ เซ็นทรัล เฟสติวอล จังหวัดเชียงใหม่และภูเก็ต
 
 

บันทึกโดย : วันที่ : 21 พ.ค. 2559 เวลา : 11:21:38

20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 12:11 pm