ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง


 

ตลาดหุ้นไทยวานนี้

         
SET INDEX วานนี้ ทดสอบด่าน 1,400 จุด ผลักดันด้วย PTT / ADVANC/ KBANK และราคาน้ำมันดิบ NYMEX ยืนเหนือ US$50/barrel ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย แต่แรงขายทำกำไรบริเวณเหนือ 1,400 จุดก็มากขึ้นเช่นกัน ปิดสิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,401.64 จุด บวก 4.01 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,170 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติคงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 538 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 8,442 สัญญา แต่ขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 2,593 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้
          ติดตามการปาฐกถาของประธานเฟด Janet Yellen ที่มหาวิทยาลัย Harward 
          ติดตามการประมูลคลื่นความถี่ 900MHz ซึ่งมีเพียง ADVANC เสนอเข้าประมูลเพียงเจ้าเดียว

ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
          การประชุมครม. อาจมีการพิจารณาโครงการรถไฟรางคู่
          ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนเม.ย.ของไทย 
          ติดตามรายงาน Beige Book ของเฟด ในวันที่ 1 มิ.ย.
          ติดตามการประชุม ECB วันที่ 2 มิ.ย.
          การประชุมโอเปก วันที่ 2 มิ.ย.

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 4)
         
เราตาดการณ์ SET INDEX วันนี้จะแกว่งแคบอีกวัน 1,390-1,405 จุด พร้อมมูลค่าการซื้อขายที่ยังเบาบาง เพราะเป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ และนักลงทุนทั่วโลกต่างรอฟังการปาฐกถาของประธานเฟดในคืนนี้ เพื่อประเมินน้ำหนักการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกลางเดือนมิ.ย.นี้ 
         
สำหรับภาวะการลงทุนในสัปดาห์ เต็มไปด้วยปัจจัยแวดล้อมทั้งในและต่างประเทศที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ECB ซึ่งตลาดประเมินว่า ECB น่าจะส่งสัญญาณการเพิ่มมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังเศรษฐกิจในกลุ่มอียูยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับเป้าหมายที่ 2.0% หากเป็นไปตามที่ตลาดคาดเชื่อว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะ Rally ขึ้นไปก่อนที่จะถึงการประชุมเฟดในวันที่ 14 มิ.ย. ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นไทยที่มีโอกาสขยับขึ้นทดสอบด่าน 1,420 จุดได้เช่นกัน
         
สำหรับกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามการประชุมโอเปกในสัปดาห์หน้า เพื่อประเมินภาวะ Oversupply จะคลายตัวลงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ได้หรือไม่ เพราะจะมีผลต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ขยับขึ้นมาเด่นในช่วงนี้
         
กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ เราแนะนำเน้นเก็งกำไรเป็นรายตัวที่มีประเด็นเชิงบวก

Stock Pick of The Day          
          1. เก็งกำไร BIG : ราคาปิด 3.40 บาท ราคาเหมาะสม 4.18 บาท
          a) MBKET คงมุมมองเชิงบวกหลังเข้าพบผู้บริหาร และด้วยแนวโน้มการเติบโตของตลาดกล้องที่ดีกว่าคาด ส่งผลให้ให้เราปรับสมมติฐานการเติบโตของตลาดกล้องจากเดิม +7% yoy เป็น +15% yoy 
          b) ทิศทางกำไร 2Q59 คาดว่าจะเติบโตสูงถึง +148% yoy เป็น 170-175 ล้านบาท และเชื่อว่าหากออกมาใกล้กับคาดการณ์จะส่งผลให้กำไร 1H59 ที่ 410 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนราว 55% ของ Consensus จึงเชื่อว่ามีโอกาสทีจะเห็นการปรับเพิ่มมุมมองเชิงบวกขึ้น เนื่องจาก 2H เป็น High Season ของธุรกิจ 
          c) เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2559 ขึ้นจากเดิม 48% เป็น 895 ล้านบาท เติบโตสูงถึง +94.7% yoy และ Valuation ยังน่าสนใจซื้อขายระดับ PER2559 ที่ 13.4 เท่า ยังต่ำกว่าหุ้นในกลุ่มค้าปลีกสินค้า IT เช่น COM7 ซึ่งมี PER ระดับ 25.0 เท่า           
          2. เก็งกำไร VNG : ราคาปิด 12.80 บาท ราคาเหมาะสม 15.00 บาท
          a) MBKET คาดว่ากำไรสุทธิ 2Q59 จะเติบโต qoq เป็น 350-400 ล้านบาท จากการส่งออกไปยังตลาดอิหร่าน (30% ของยอดส่งออก)ที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เทียบกับไตรมาสแรกที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบชำระเงินจากการถูก Sanction ของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันได้ยกเลิกการ Sanction แล้ว
          b) จึงคาดว่าปริมาณขายใน 2Q59 จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 แสน ลูกบาศก์เมตร จาก 1Q59 ที่ 1.7 แสนลูกบาศก์เมตร และแนวโน้มอัตรากำไรใน 2H59 คาดว่าจะปรับตัวขึ้นจากอานิสงค์ของการปรับปรุงประสิทธิภาพสายการผลิต 
          c) คาดกำไรสุทธิปี 2559 เติบโต +9% yoy เป็น 1,555 ล้านบาท และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีราว 4% ต่อปี 

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก US$265 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 

Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง
          นักลงทุนต่างชาติคงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 538 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 904 ล้านบาท และผลักดันให้ YTD ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เป็น 13,423 ล้านบาท
          ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 เช่นกัน อีก 8,442 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิ 15,817 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Short ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ทั้งหมด และกลับมามีสถานะ Long เพราะยอดสุทธิ QTD สถานะกลับมา Long   สุทธิแ 4,202 สัญญา และทำให้ S50M16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 2 เท่ากับ 1.88 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 1.38 จุด      
          ขณะที่นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 2,593 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,534 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาพันธบัตรไทยปรับตัวลงเป็นวันที่ 2 โดยพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 อีก 0.80bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 3.90bps ปิดที่ 2.085%  

Short-Selling วานนี้ 
ขยับขึ้นเป็น 816 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 545 ล้านบาท           

NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 9 เน้นกลุ่มพลังงาน – ธนาคาร 
          การซื้อขายผ่าน NVDR คงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 9 ซื้อสุทธิ 752 ล้านบาท ขยับขึ้นจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 534 ล้านบาท รวม 9 วันทำการซื้อสุทธิ 6,799 ล้านบาท ยังคงเน้นกลุ่มพลังงาน และเพิ่มกลุ่มธนาคารอย่างโดดเด่น

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค

สหรัฐอเมริกา
          ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาดเป็นส่วนใหญ่
          คำสั่งซื้อสินค้าคงทน เพิ่มขึ้น 3.4% mom ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 0.3% mom และเดือนก่อนหน้าที่ 1.9% mom คำสั่งซื้อยานพาหนะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 2.9% mom แต่หากไม่นับรวมรายการสินค้าด้านการขนส่ง คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นปานกลาง 0.4% mom เท่ากับที่ตลาดคาดการณ์
          ยอดขอสวัสดิการว่างงาน เท่ากับ 2.68 แสนตำแหน่ง ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 2.75 แสนตำแหน่ง และสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.78 แสนตำแหน่ง

ยุโรป
          เศรษฐกิจอังกฤษเติบโตชะลอตัว qoq: ใน 1Q59 เศรษฐกิจขยายตัว 0.4% qoq จาก 4Q58 เติบโต 0.6% qoq โดยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเป็นแรงผลักดันหลัก ขยายตัว 0.7% qoq เป็นระดับดีสุดในรอบเกือบ 1 ปี  ขณะที่การลงทุนลดลง 0.5% qoq และการส่งออก -0.3% qoq

จีน          
          ธนาคารกลางจีนดูดซับสภาพคล่องทางการเงินออกจากระบบอีกครั้ง: วันที่ 26 พ.ค. ธนาคารกลางจีนได้ทำ Reverse Repo 7 วัน ด้วยวงเงิน 1.0 หมื่นล้านหยวน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าปริมาณเงินในระบบอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ

เอเชียแปซิฟิก
          อัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่นหดตัวลงเป็นเดือนที่ 2: เดือนเม.ย.อัตราเงินเฟ้อแท้จริง ไม่รวมอาหารสด หดตัว 0.3% yoy เท่ากับเดือนมี.ค.ที่ -0.3% yoy แต่ดีกว่า Bloomberg consensus คาดการณ์ -0.4% yoy 
          ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสิงคโปร์ขยายตัวสวนทางคาด: เพิ่มขึ้น 2.9% yoy ในเดือน เม.ย. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.1% yoy ขณะที่ Bloomberg Consensus  คาด -0.2% yoy นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มขึ้น 4.8% mom นำโดยเวชภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้ย 17.7% yoy ส่วนปิโตรเคมีลดลง 16.4% yoy 

ไทย
          ไม่มี


โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 27 พ.ค. 2559

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 27 พ.ค. 2559 เวลา : 10:34:41

27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 7:54 am